ชิม 5 สุดยอดของอร่อย 'ฟุกุโอกะ' ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
ครั้งแรกกับการชิม 5 สุดยอดวัตถุดิบชั้นเลิศ ‘ฟุกุโอกะ’ พร้อมกันที่ห้องอาหารญี่ปุ่น Kinu by Takagi โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ในโอกาสพิเศษฉลองสัมพันธ์ Sister City กรุงเทพฯ-ฟุกุโอกะ ของอร่อยพรีเมียมบางอย่างไม่เคยส่งมาไทย
กรุงเทพมหานคร และจังหวัด ฟุกุโอกะ (Fukuoka) ของประเทศญี่ปุ่น มีการเซ็นสัญญาร่วมกันฉบับหนึ่งที่เรียกว่า Sister City Agreement หรือ ‘ข้อตกลงเมืองพี่เมืองน้อง’ ตั้งแต่ปีพ.ศ.2549
ปี 2566 นี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฟุกุโอกะขอเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ 17 ปี ด้วยการแนะนำ ฟุกุโอกะ ให้คนไทยรู้จักมากยิ่งขึ้นผ่านวัตถุดิบซิกเนเจอร์ซึ่งเป็นของอร่อยชั้นเลิศประจำจังหวัดฟุกุโอกะ ปลูกและเลี้ยงในฟุกุโอกะ หรือมีเฉพาะที่ฟุกุโอกะ รวมทั้งพยายามประสานงานกับการท่องเที่ยวของเมืองให้เพิ่มเที่ยวบินตรงระหว่างกรุงเทพฯ ฟุกุโอกะ
อุโมงค์ดอกวิสทีเรียที่สวนคาวาชิ ฟูจิ (Kawachi Fuji Garden)
ฟุกุโอกะ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่น เป็นเมืองติดชายทะเลจึงมีทัศนียภาพสวยงามทั้งภูเขาและทะเล ทั้งยังเป็นเมืองท่าค้าขายกับชาติตะวันตกในอดีต นอกจากความสวยงามของวัดและวังซึ่งเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ หน้าร้อนยังมีความสวยงามของดอกไม้นานาชนิด โดยเฉพาะดอกวิสทีเรีย (Wisteria) ที่ช่อดอกทิ้งตัวเป็นสายราวอุโมงค์สีม่วงขนาดมหึมา
เชฟโนริฮิสะ มาเอดะ
เพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเดินทางไปญี่ปุ่นชมความสวยงามของฟุกุโอกะ ผู้ว่าราชการจังหวัดฟุกุโอกะมอบวัตถุดิบชั้นเลิศประจำฤดูใบไม้ผลิของฟุกุโอกะให้กับ Kinu by Takagi (คินู บาย ทาคากิ) ห้องอาหารญี่ปุ่นของ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ สร้างสรรค์เป็นเซตเมนูพิเศษสุด
เซตเมนูวัตถุดิบชั้นเลิศที่ส่งตรงจากฟุกุโอกะได้รับการปรุงอย่างพิถีพิถันโดย เชฟโนริฮิสะ มาเอดะ ได้รับการฝึกฝนให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องวัฒนธรรมการรับประทานอาหารวิถี ‘ไคเซกิ’ มามากกว่า 35 ปี หลังจากสำเร็จการศึกษาจากโอซากา ก่อนมาร่วมงานกับโรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ ในตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวญี่ปุ่นประจำห้องอาหาร Kinu by Takagi
ลูกพลับพันธุ์ฟูยุ (Fuyu)
วัตถุดิบที่นำเสนอผ่านศิลปะการปรุงอาหารของเชฟโนริฮิสะ มาเอดะ ล้วนแล้วแต่เป็นวัตถุที่เป็นความภาคภูมิใจของจังหวัด ฟุกุโอกะ เพราะเป็นวัตถุดิบที่ได้รับความนิยมและได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในประเทศญี่ปุ่นเอง และช่วงเวลาที่วัตถุดิบเหล่านี้มีคุณภาพดีที่สุดคือในช่วงเวลานี้
1. ลูกพลับพันธุ์ฟูยุ
หนึ่งในวัตถุดิบที่อยู่ในเซตเมนูนี้คือ ลูกพลับพันธุ์ฟูยุ (Fuyu) ซึ่งเป็นพันธุ์สงวนสำหรับปลูกเฉพาะในจังหวัดฟุกุโอกะเท่านั้น และฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่จะได้ลูกพลับคุณภาพดีที่สุดอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกุมภาพันธ์
ดังนั้นลูกพลับฟูยุที่นำมาใช้เป็นวัตถุดิบที่ห้องอาหารญี่ปุ่น คินู บาย ทาคากิ จึงมีรสชาติหวานฉ่ำ และมีกลิ่นหอม
ลูกพลับฟูยุในจาน Kaki Namasu
เชฟมาเอดะเลือกใช้ลูกพลับมาเป็นหนึ่งในวัตถุดิบของจานเรียกน้ำย่อย ซึ่งจานนี้ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า “คาคิ นามะสุ” คือ เมนูที่นำผักดองนานาชนิด รวมทั้งผลไม้ ซึ่งต้องหั่นเป็นเส้นๆ มาคลุกเคล้ากับอาหารทะเลหลากหลายชนิด เป็นเมนูตามประเพณีที่ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานในช่วงปีใหม่
เชฟนำลูกพลับฟูยุมาเป็นหนึ่งในวัตถุดิบคลุกเคล้ากับผักชนิดอื่นๆ อาทิ หัวไช้เท้า ผักกาด และสอดแทรกขึ้นฉ่ายของไทยเข้าไปด้วย
ในส่วนของอาหารทะเลเชฟมาเอดะนำเสนอ เนื้อปูหิมะ หอยเชลล์ฮอกไกโด เมื่อคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้ว เชฟจะราดด้วยซอสยูสุที่ทำเป็นเจลลี่ จานนี้เป็นจานเริ่มต้นการเดินทางแห่งความอร่อยของทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ
วัวพันธุ์ดำที่เลี้ยงในฟุกุโอกะ
2. เนื้อฮากาตะวากิว
อีกหนึ่งวัตถุดิบชั้นเลิศสำหรับ ‘สายเนื้อ’ หากไปฟุกุโอกะแล้วไม่ควรพลาดชิมคือ เนื้อฮากาตะวากิว (Hakata wagyu) เป็นเนื้อวัวที่ได้มาจากวัวพันธุ์น้ำตาลและวัวพันธุ์ดำของญี่ปุ่น เลี้ยงด้วยฟางข้าวคุณภาพดี ซึ่งเป็นข้าวที่ปลูกในจังหวัดฟุกุโอกะ และยังเลี้ยงด้วยธัญพืชนานาชนิด
วัวเหล่านี้เป็นวัวอายุ 20 เดือนขึ้นไป และเลี้ยงในสิ่งแวดล้อมที่ไร้ความตึงเครียด แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติและทัศนียภาพที่งดงาม
คุณค่าจากสารอาหารที่ได้รับจากธัญพืชเป็นเสมือนอาหารเสริมชั้นดีของวัวเหล่านี้ ทำให้เนื้อวัวมีชั้นไขมันแทรกเสมือนลายหินอ่อน และยังเป็นตัวช่วยให้เนื้อวัวมีความนุ่ม ชนิดที่เรียกว่าละลายในปาก
เนื้อฮากาตะวากิว
เชฟมาเอดะนำ เนื้อฮากาตะวากิว มาย่างบนเตาถ่านและราดด้วยซอสเทอริยากิ โรยหน้าด้วยผงไข่แดงและแบล็คทรัฟเฟิล
เชฟมาเอดะใช้ความพิถีพิถันและใช้ทักษะขั้นสูงตั้งแต่การเตรียมเนื้อ แขกทุกท่านจะได้เพลิดเพลินกับขั้นตอนย่างเนื้อด้วยเตาถ่านซึ่งเชฟมาเอดะต้องใช้ความใส่ใจในขั้นตอนนี้เป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้เนื้อวากิวที่มีความนุ่มกำลังดีสมคำร่ำลือว่า ‘ละลายในปาก’ ซึ่งเมนูนี้มีเสิร์ฟทั้งเมนูเซตมื้อกลางวัน และเซตมื้อค่ำ
หอยนางรมฮิโตะสึบุห่อด้วยเต้าหู้แล้วนำไปทอดกรอบ
3. หอยนางรมฮิโตะสึบุ
หอยนางรม ฮิโตะสึบุ (Hitotsubu) เป็นหอยนางรมขนาดใหญ่ได้รับการเลี้ยงในทะเลบูเซ็น (Buzen) เนื่องจากกระแสน้ำในทะเลบูเซ็นไม่มีคลื่นสูง ประกอบกับทะเลบูเซ็นในเขตน้ำตื้นมีแพลงตอนจำนวนมาก จึงเหมาะกับการทำฟาร์มเลี้ยงหอยนางรม และทำให้หอยนางรมที่ได้มีขนาดใหญ่ เนื้อเยอะ เนื้อมีความแน่น ให้รสสัมผัสที่ดีเมื่อรับประทาน
ในหอยนางรมยังอุดมไปด้วยสารอาหาร ทำให้เนื้อหอยนางรมมีรสชาติชัดเจน เสน่ห์ที่สำคัญของหอยนางรมพันธุ์ฮิโตะสึบุ คือเมื่อได้รับความร้อนจากการปรุงอาหาร เนื้อหอยจะไม่หดตัว
หอยนางรมฮิโตะสึบุลวก โรยหน้าด้วยคาเวียร์
และยังนับเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่นักชิมจะได้สัมผัสความอร่อยของหอยนางรมพันธุ์ฮิโตะสึบุที่ห้องอาหารญี่ปุ่น ‘คินู บาย ทาคากิ’ เพียงแห่งเดียวในประเทศไทย เนื่องจากการเพาะเลี้ยงหอยนางรมสายพันธุ์นี้ไม่เพียงพอต่อการบริโภคในญี่ปุ่น จึงไม่พอสำหรับการส่งออก
เชฟมาเอดะนำหอยนางรมฮิโตะสึบุและชิราโกะ (ท่ออสุจิปลา) มาห่อด้วยเต้าหู้แล้วนำไปทอดกรอบ ก่อนเสิร์ฟจะราดด้วยซอสดอกเก๊กฮวย เสิร์ฟคู่กับหอยนางรมฮิโตะสึบุลวก โรยหน้าด้วยคาเวียร์ ให้ได้สัมผัสความอร่อยของเนื้อหอยนางรมฮิโตะสึบุที่ได้รับการปรุงถึงสองแบบ คอร์สนี้มีอยู่ในเซตมื้อค่ำ
คอร์สซาชิมิ : เนื้อปลา Shimaji, Kinmedia, Bluefin Tuna และวาซาบิฟุกุโอกะ
คอร์สข้าวหน้าอาหารทะเล ไข่ออนเซ็น สาหร่ายทะเลอะริอะเกะ
4. สาหร่ายจากทะเลอะริอะเกะ
สาหร่ายจากทะเลอะริอะเกะ (Nori Ariake Sea)ได้รับการกล่าวขานให้เป็นสุดยอดของสาหร่ายญี่ปุ่น เนื่องจากระดับน้ำในทะเลอะริอะเกะมีความแตกต่างกันมากกว่า 6 เมตรระหว่างช่วงเวลาน้ำขึ้นและน้ำลง จึงเป็นปัจจัยที่ทำให้สาหร่ายที่ได้รับการเพาะเลี้ยงที่ทะเลนี้ มีรสชาติและคุณภาพที่ดีกว่า
อีกทั้งการเก็บสาหร่ายก็ทำในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สาหร่ายได้กักเก็บสารอาหาร รวมทั้งรับแสงแดดมาแล้วอย่างเต็มที่ จึงส่งผลให้สาหร่ายมีรสชาติที่กลมกล่อมครบรส ดังคำที่ชาวญี่ปุ่นให้นิยามไว้คือ “อุมามิ”
ในแต่ละปีมีการผลิตสาหร่ายจากทะเลอะริอะเกะ มากกว่าสองพันล้านแผ่น แต่กล่าวได้ว่ายังไม่เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ จึงไม่เคยมีสาหร่ายจากทะเล อะริอะเกะ นำเข้ามาในประเทศไทย
ครั้งนี้จึงเป็นโอกาสดีที่นักชิมจะได้ลิ้มรสความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของสาหร่ายจากทะเลอะริอะเกะนี้ได้เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ห้องอาหารญี่ปุ่น คินู บาย ทาคากิ
โดยเชฟมาเอดะนำมาใส่ในข้าว ซึ่งคอร์สที่เป็นข้าวนั้น เชฟนำเสนอข้าวหน้าอาหารทะเลนานาชนิด พร้อมไข่ออนเซ็นและสาหร่ายอะริอะเกะ คอร์สนี้มีทั้งในเซตมื้อกลางวัน และมื้อค่ำ
สตรอว์เบอร์รี่พันธุ์อะมะโอ
5. สตรอว์เบอร์รี่พันธุ์ อะมะโอ
อีกหนึ่งวัตถุดิบที่เป็นความภาคภูมิใจของจังหวัดฟุกุโอกะ คือ สตรอว์เบอร์รี่พันธุ์ อะมะโอ (Amaou) ซึ่งเป็นสตรอว์เบอร์รี่ที่ปลูกเฉพาะในพื้นที่จังหวัดฟุกุโอกะ ได้รับความนิยมสูงสุดและมียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นติดต่อกันมากกว่า 15 ปี
สตรอว์เบอร์รี่พันธุ์อะมะโอเป็นที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรูปทรงที่อวบ ผิวสีแดงสดเงางามเป็นประกาย เนื้อแน่นและมีความฉ่ำหวาน ซึ่งช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเก็บเกี่ยวสตรอว์เบอร์รี่พันธุ์นี้ คือ ระหว่างเดือนมกราคม - มีนาคม
เชฟมาเอดะและทีมของห้องอาหารญี่ปุ่น ‘คินู บาย ทาคากิ’ จึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้นำเสนอสตรอว์เบอร์รี่พันธุ์อะมะโอซึ่งเป็นผลผลิตที่ดีที่สุดของปีให้กับนักชิมทุกท่าน โดยเชฟสร้างสรรค์ให้เมนูของหวาน
เชฟนำเสนอสตรอว์เบอร์รี่พันธุ์อะมะโอให้แตกต่างกันถึง 5 แบบในหนึ่งถ้วยขนมหวาน เพิ่มความสนุกด้วยการราดซอสสตรอว์เบอร์รี่อุ่นๆ ลงบนแผ่นช็อกโกแลตที่ประดับอยู่ด้านบน เพื่อให้ช็อกโกแลตละลายเมื่อรับประทานคู่กับผลสตรอว์เบอร์รี่สด และเจลลี่สตรอว์เบอร์รี่
คอร์สหอยเป๋าฮื้อ Tokushima, กะหล่ำขาว ซอสตับเป๋าฮื้อ
ความอร่อยและความประณีตในการรังสรรค์อาหารแต่ละจานของเมนูต้อนรับปีใหม่นี้เสมือนนำนักชิมเดินทางสู่จังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ผ่านวัตถุดิบระดับพรีเมียม และยังเป็นการนำเสนอวัตถุดิบบางชนิดเป็นครั้งแรกในประเทศไทย
รวมทั้งพานักชิมเข้าถึงความหรูหราในโลกแห่งวัตถุดิบและความละเอียดอ่อนของวัฒนธรรมด้านอาหารตลอดจนวิถีการรับประทานอาหารอย่างไคเซกิ ซึ่งคือวัฒนธรรมการรับประทานอาหารที่นำเสิร์ฟอาหารอย่างต่อเนื่องหลายคอร์ส
ห้องอาหารญี่ปุ่น คินู บาย ทาคากิ (Kinu by Takagi)
ห้องอาหารญี่ปุ่น คินู บาย ทาคากิ (Kinu by Takagi) เปิดให้บริการวันพุธ - วันอาทิตย์ สามารถรองรับแขกได้ 10 ท่าน/มื้ออาหาร
- มื้อกลางวัน ให้บริการ 5 คอร์ส ราคา 4,000++บาท/ท่าน เริ่มเสิร์ฟอาหารเวลา 12.00 น.
- มื้อค่ำ ให้บริการ 10 คอร์ส ราคา 8,000++บาท/ท่าน เริ่มเสิร์ฟอาหารเวลา 18.00 น.
กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้า และสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ห้องอาหารญี่ปุ่นคินูบายทาคากิ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โทร.0 2659 9000 หรือ อีเมล [email protected]