2 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ฝีมือยานนิก เชฟฝรั่งเศส ที่ปารีสและเทือกเขาแอลป์

2 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ฝีมือยานนิก เชฟฝรั่งเศส ที่ปารีสและเทือกเขาแอลป์

2 ร้านอาหารฝรั่งเศส 6 ดาวมิชลิน จากปารีสถึงเทือกเขาแอลป์ ฝีมือยานนิก อัลเลโน (Yannick Alléno) เชฟชาวฝรั่งเศสที่ดีที่สุดคนหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส

อาหารฝรั่งเศสถือเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอันแข็งแรงของประเทศฝรั่งเศส มีความละเมียดละไม พิถีพิถัน มีเอกลักษณ์และโดดเด่นในระดับที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโก ตั้งแต่ปี 2010 ให้เป็น “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ”

อาหารฝรั่งเศสแบบยานนิก

ยานนิก อัลเลโน (Yannick Alléno) เป็นเชฟชาวฝรั่งเศสที่ดีที่สุดคนหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ด้วยผลงานที่น่าจะเรียกได้ว่า ไปเป็นเชฟให้ที่ไหน ที่นั่นเป็นต้องได้ดาวมิชลิน 

จนในที่สุดยานนิกก็เปิดร้านอาหารเป็นของตัวเอง ซึ่งร้านของเขาคว้า 3 ดาวมิชลินมาครองได้ในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งปี การไปรับประทานอาหารของเชฟยานนิกที่ฝรั่งเศส จึงถือเป็นภารกิจของนักชิมอย่างเราก็ว่าได้

2 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ฝีมือยานนิก เชฟฝรั่งเศส ที่ปารีสและเทือกเขาแอลป์ Pavillon Ledoyen อาคารเก่าแก่ ถนนฌ็องเซลิเซ  ปารีส ที่ตั้ง Alléno Paris ร้านอาหาร 3 ดาวมิชลิน

เมื่อเชฟระดับหลายดาวมิชลินอย่างยานนิกมาเปิดร้านเอง ความไม่ธรรมดานั้นจึงเริ่มตั้งแต่สถานที่ เขาเช่าอาคาร Pavillon Ledoyen ที่ถนนฌ็องเซลิเซ กลางกรุงปารีส เป็นที่ตั้งของร้าน ซึ่งอาคารสถาปัตยกรรมนีโอคลาสิกสีเหลืองนวลหลังนี้มีอายุกว่า 200 ปี เคยเป็นห้องอาหารที่เก่าแก่ที่สุดในปารีส 

เชฟยานนิกทำให้ที่นี่กลายเป็นเหมือนดวงดาวที่เจิดจรัสในโลกของเชฟ เพราะภายในนี้ประกอบด้วย 3 ห้องอาหาร คือ 1.“Alléno Paris” เป็นห้องอาหารหลัก 2.“L’Abysee” เคาน์เตอร์ซูชิ ที่เขาทำร่วมกับเชฟชาวญี่ปุ่น ยาซูนาริ โอกาซากิ (Yasunari Okazaki)

และ 3.“Pavyllon” เป็นเคาน์เตอร์อาหารแบบครัวเปิด สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ ทั้งสามห้องอาหารนี้ได้ดาวมิชลิน 3, 2 และ 1 ดาวตามลำดับ

2 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ฝีมือยานนิก เชฟฝรั่งเศส ที่ปารีสและเทือกเขาแอลป์ เชฟยานนิก ในครัวร้าน Alléno Paris

เราจองโต๊ะที่ Alléno Paris เลือกรายการอาหารแบบจัดชุดเต็มตามธรรมเนียมฝรั่งเศส ซึ่งมีให้เลือกแบบ 7 คอร์ส และ 10 คอร์ส ที่นี่มีอาหาร À la carte ให้เลือกสั่งได้ แต่ก็จะต้องสั่งให้ครบคอร์ส คือ มีอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก และของหวาน วัฒนธรรมการกินของฝรั่งเศสเขาเข้มแข็งจริงๆ

ได้โอกาสทานอาหารร้าน 3 ดาวมิชลินทั้งที เราจึงจัดชุด 10 คอร์สไปเลย การได้ทานอาหารของเชฟยานนิกแล้ว เจ้าตัวออกมาพูดคุยด้วยก็ถือว่าเป็นมื้อพิเศษแล้ว 

แต่วันนั้น...มันพิเศษยิ่งกว่า เมื่อเชฟยานนิกชวนเราเข้าไปดูห้องครัวของเขา ครัวของร้านอาหาร 3 ดาวมิชลิน และทานอาหารกันในครัวนั่นเลย ต้องยกให้เป็นมื้อที่น่าประทับใจที่สุดมื้อหนึ่งในชีวิต

2 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ฝีมือยานนิก เชฟฝรั่งเศส ที่ปารีสและเทือกเขาแอลป์ วิธีการทอดไก่แบบเชฟยานนิก

  • เชฟ 3 ดาวมิชลินกับการปรุงอาหาร

จานแรก เรียกน้ำย่อยด้วย “Steamed Purple Turnip from <<Lazio>> Cooked with Olive Oil” เทอร์นิปคือผักกาดหัวชนิดหนึ่ง เชฟเลือกเทอร์นิปสีม่วงจากแคว้นลัตซีโยมานึ่งในน้ำมันมะกอกจนสุก ราดซอส กับมายองเนสและน้ำสลัดเฮเซลนัต ความพิเศษของจานนี้อยู่ตรงซอสที่ราดซึ่งปรุงจากน้ำสกัดจากเซอลารี

อาหารฝรั่งเศสให้ความสำคัญกับน้ำซอส และการที่เชฟยานนิกได้รับการยกย่องว่า เป็นที่สุดของเชฟคนหนึ่งในวงการอาหารฝรั่งเศส ก็เพราะการคิดค้นเทคนิคการสกัดซอสจากผักและผลไม้ที่มันซับซ้อนมาก แบบที่ไม่เคยมีเชฟฝรั่งเศสคนไหนเคยทำมาก่อน เขาเรียกวิธีการนี้ว่า Extractions® และจดเป็นเครื่องหมายการค้าเรียบร้อย 

อธิบายวิธีทำอย่างย่อๆ ก็คือ เขาจะนำผักหรือผลไม้ไปซูวี (sous vide) ซึ่งเป็นเทคนิคการปรุงให้สุกอย่างช้าๆ ในน้ำด้วยอุณหภูมิและเวลาที่กำหนด แล้วนำน้ำที่ได้จากการซูวีไปกรอง ต่อด้วยกระบวนการทำให้แข็งตัวแบบนุ่มๆ เนื้อคล้ายๆ ไอติมซอร์เบต์ 

2 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ฝีมือยานนิก เชฟฝรั่งเศส ที่ปารีสและเทือกเขาแอลป์ Seasonal Salad หนึ่งในรายการที่ต้องมีในอาหารชุดเต็มแบบฝรั่งเศส

 

จากนั้นนำไปเข้าเครื่องเหวี่ยง แล้วทำให้ระเหยด้วยความเย็น จนสุดท้ายจะได้ออกมาเป็นน้ำใสๆ ที่มีรสชาติเข้มข้น มีกลิ่นและรสเฉพาะตัว เทคนิคนี้เชฟยานนิกเขียนอธิบายไว้ค่อนข้างละเอียดในหนังสือ Sauces. Reflections of a chef ของเขาเอง

ฟังวิธีการได้มาซึ่งน้ำซอสของเชฟแล้ว ก็นึกถึงคำที่มีคนเคยบอกว่า การปรุงอาหาร คือ การปรุงส่วนผสมทางเคมี เห็นแบบนี้ยิ่งเห็นภาพชัดเจน เชฟเองก็คงไม่ต่างจากนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งที่ทดลอง วิจัย เพื่อที่จะดึงรสชาติที่ดีที่โดดเด่นที่สุดของอาหารออกมา

ยานนิกนิยามการทำอาหารของเขาว่า เป็นอาหารฝรั่งเศสยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (Renaissance of French Cuisine) อาหารของเขายังคงรสชาติแบบฝรั่งเศส ด้วยวิธีการที่ทันสมัย

2 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ฝีมือยานนิก เชฟฝรั่งเศส ที่ปารีสและเทือกเขาแอลป์

Kerbastard’s Cottage Cheese in Two Temperatures ทรัฟเฟิลกับชีส
 

2 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ฝีมือยานนิก เชฟฝรั่งเศส ที่ปารีสและเทือกเขาแอลป์ Crispy caviar blinis and double cream แพนเค้กกรอบหน้าคาเวียร์

2 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ฝีมือยานนิก เชฟฝรั่งเศส ที่ปารีสและเทือกเขาแอลป์ Edible Crab and Cauliflower ดอกกะหล่ำกับปูย่าง ราดซอสครีมเข้มข้นปรุงรสด้วยจูราไวน์
 

ที่มุมหนึ่งในครัว เชฟกำลังจัดการกับปูตัวยักษ์ น่าจะกำลังเตรียมทำเมนู “Edible Crab and Cauliflower” ดอกกะหล่ำกับเนื้อปู ราดซอสครีมเข้มข้นปรุงรสด้วยจูราไวน์ (vin jaune) คำอธิบายของอาหารรายการนี้คือ ปรุง “ปูหลับ” ในเตาผิง ที่เราเห็นนั่น เชฟคงกำลังทำให้ปูหลับอยู่นั่นเอง

2 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ฝีมือยานนิก เชฟฝรั่งเศส ที่ปารีสและเทือกเขาแอลป์

2 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ฝีมือยานนิก เชฟฝรั่งเศส ที่ปารีสและเทือกเขาแอลป์ บรรยากาศดีๆ ที่ Le 1947 à Cheval Blac

Le 1947 ร้านอาหารของคนเล่นสกี

นอกจากร้านอาหารทั้งสามที่ Pavillon Ledoyen บนถนนสายดังกลางกรุงปารีสแล้ว ในฝรั่งเศสเองยังมีอีกร้านของเชฟยานนิกที่น่าสนใจมาก แต่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงนัก เพราะคนที่จะได้ไปถึงที่นั่น ส่วนใหญ่คือคนที่ไปเล่นสกีเท่านั้น นั่นคือที่ กูร์เชอเวล (Courchevel) ย่านสกีรีสอร์ตแถบเทือกเขาแอลป์ ร้านอาหารนั้นชื่อว่า “The 1947 Chevel Blanc” หรือ “Le 1947 à Cheval Blanc”

ร้าน 3 ดาวมิชลินซึ่งมีเพียง 5 โต๊ะ บรรยากาศนั้นสุดยอดมาก ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ขาวสะอาดราวหิมะด้านนอก แต่งแต้มด้วยของใช้สีสดเพียงไม่กี่ชิ้น เปิดทางให้สีสันของอาหารในจานโดดเด่นที่สุด

อาหารที่ Le 1947 เป็นแบบทันสมัย อาจเพื่อให้เข้ากับสถานที่พักผ่อนสบายๆ แต่ก็ยังคงครบตามวัฒนธรรมการกินของฝรั่งเศส คือมีอาหารเรียกน้ำย่อย จานหลัก และของหวาน รวมถึงวิธีการปรุงก็ยังคงซับซ้อนตามสไตล์เชฟยานนิก 

2 ร้านอาหารมิชลินสตาร์ ฝีมือยานนิก เชฟฝรั่งเศส ที่ปารีสและเทือกเขาแอลป์ ขนมปังบริยอช ยกมาให้เห็นกันตั้งแต่ก่อนอบ

อย่างเช่นจานนี้ “Ennoble consummé Alain Chapel-style” เป็นแพนเค้กแบบรัสเซีย แต่ปรุงตามแบบของ Alain Chapel อดีตเชฟมิชลินชาวฝรั่งเศสผู้ล่วงลับ แผ่นแป้งบางกรอบ ทาครีมหนาๆ แต่งหน้าด้วยคาเวียร์ ทำในกระทะเล็กๆ ชิ้นต่อชิ้น 

และที่พลาดไม่ได้อีกอย่างก็คือ บริยอช หรือขนมปังนี่ล่ะ อาจดูเหมือนธรรมดา แต่เขายกมาให้เห็นตั้งแต่แป้งเพิ่งปั้นเป็นลูก แล้วอบให้ทานกันเดี๋ยวนั้น อุ่นๆ กลางอากาศหนาวๆ มันคือที่สุดของความอร่อยแล้ว

Le 1947 à Cheval Blac เปิดตามฤดูกาลสกี ไม่ได้เปิดตลอดทั้งปี จนเกือบจะเรียกว่าเป็น “ร้านลับๆ” แต่ก็มีชื่อเสียงอยู่ในหมู่นักเล่นสกี อาจไม่ใช่ร้านที่มีคนรู้จักมากเท่า Alléno Paris ที่อาคาร Pavillon Ledoyen แต่ขึ้นชื่อว่าเชฟยานนิก อัลเลโนแล้ว คุณภาพไม่ต่างกันแม้แต่น้อย

Bon appétit!