สามทหารเสือ 3.0 ความหวังใหม่ 'คาวบอยส์'?
อาการบาดเจ็บของ โทนี โรโม ควอเตอร์แบ็กคนสำคัญ ในช่วงพรีซีซัน
ต่อด้วยการแพ้ นิวยอร์ค ไจแอนท์ส ในนัดเปิดฤดูกาล นำไปสู่คำถามที่ว่า นี่อาจเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่น่าผิดหวังสำหรับ “ทีมแห่งอเมริกา”
แต่เมื่อฤดูกาล 2016 ผ่านไปได้ครึ่งทาง กลับกลายเป็นว่า ดัลลัส คาวบอยส์ คือทีมอันดับหนึ่งของ เอ็นเอฟซี ด้วยสถิติ 6-1 ภายใต้การนำของสองผู้เล่นรุกกี ดัค เพรสคอทท์ ควอเตอร์แบ็กดราฟท์รอบ 4 และ เอเซเกล เอลเลียทท์ รันนิ่งแบ็กดราฟท์รอบแรก
ด้วยเกมรุกที่รั้งอันดับ 7 ในด้านการทำคะแนน (26.9 แต้ม/เกม) และอันดับ 4 ในเรื่องระยะ (409.9 หลา/เกม) จากคำถามที่ว่า คาวบอยส์ จะไปได้ไกลแค่ไหน เมื่อปราศจาก โรโม ในตอนนี้ แฟนของ คาวบอยส์ อาจอยากรู้ว่าเมื่อ เดซ ไบรอันท์ ปีกนอกคนสำคัญกลับมาฟิตสมบูรณ์ นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของ 3 ประสานยุคใหม่ของทีมหรือไม่?
ออริจินอล ‘ทริปเลทส์’
ย้อนกลับไปยังทศวรรษที่ 90 คาวบอยส์ คือหนึ่งในทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ เอ็นเอฟแอล ด้วยผลงานแชมป์ซูเปอร์โบว์ล 3 สมัยในปี 1992, 1993 และ 1995 ความสำเร็จของ คาวบอยส์ ในช่วงเวลาดังกล่าว เกิดจาก 3 แกนหลักในแนวรุก ทรอย เอคแมน (ควอเตอร์แบ็ก) ไมเคิล เออร์วิน (ปีกนอก) และ เอมมิทท์ สมิธ (รันนิงแบ็ก) ที่ล้วนแต่มีผลงานส่วนตัวในระดับสุดยอด
เอคแมน เป็นเอ็มวีพี ในซูเปอร์โบว์ล 1 สมัย และมีชื่อติดโพรโบว์ล 6 สมัย เออร์วิน ติดโพรโบว์ล 5 สมัย ส่วน สมิธ เป็นเอ็มวีพี ในซูเปอร์โบว์ล และในฤดูกาลปกติ อย่างละ 1 สมัย และมีชื่อติดโพรโบว์ล ติดต่อกัน 8 ปี แต่สุดท้าย ด้วยปัญหายาเสพติด อาการบาดเจ็บ สังขาร และกฎฟรีเอเจนท์ ยุครุ่งเรืองของ คาวบอยส์ ก็ถึงคราวสิ้นสุดลง
Ver 2.0
ระหว่างปี 2010-2014 แนวรุกของ คาวบอยส์ ถูกนำไปเปรียบเทียบกับยุครุ่งเรืองอีกครั้ง หนนี้ประกอบด้วย โทนี โรโม ควอเตอร์แบ็กดีกรีโพรโบว์ล 4 สมัย ดีมาร์โค เมอร์เรย์ รันนิ่งแบ็กดราฟต์ รอบ 3 ปี 2011 และ เดซ ไบรอันท์ ปีกนอก ดราฟท์ รอบแรกปี 2010 แต่สามประสานชุดนี้ก็มีผลงานดีที่สุด เพียงแค่แชมป์เอ็นเอฟซี ตะวันออกครั้งเดียว ก่อนที่ เมอร์เรย์ จะย้ายไป ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ในปี 2015 ปิดตำนาน “รุ่น2” ที่มีอายุใช้งานเพียง 4 ปี
ในช่วงพรีซีซันฤดูกาล 2016 การเลือกดราฟต์ เอเซเกล เอลเลียทท์ ในรอบแรก เพื่ออุดช่องว่างการจากไปของ เมอร์เรย์ ทำให้ผู้คนคาดหวังถึงเวอร์ชันใหม่ของ “ทริปเล็ทส์” ในรูปของ โรโม-เอลเลียทท์-ไบรอันท์
กระทั่งอาการบาดเจ็บของ โรโม ในเกมพรีซีซัน จะทำให้หน้าตาของ เวอร์ชัน 3.0 ต่างไปเล็กน้อย...
เดซ ไบรอันท์
พี่ใหญ่ของ 3 ทหารเสือชุดปัจจุบัน และสมาชิกที่หลงเหลือจากรุ่น 2 ไบรอันท์ ถูกมองข้ามโดย เดนเวอร์ บรองโกส์ ในปี 2010 ด้วยปัญหาพฤติกรรม แต่ คาวบอยส์ ยังเลือกเสี่ยงด้วยการเทรดแลกสิทธิ์กับ นิวอิงแลนด์ เพเทรียทส์ เพื่อเลื่อนขึ้นไปดราฟท์เจ้าตัวเข้าสู่ทีม พร้อมมอบหมายเลข 88 ของ เออร์วิน ตำนานรุ่นพี่ให้
ระหว่างฤดูกาล 2012-2014 ไบรอันท์ ถือเป็นปีกนอกคู่ใจของ โรโม ตลอด ด้วยค่าเฉลี่ยเกิน 1 พันหลา โดยเฉพาะการทำ 16 ทัชดาวน์ในปี 2014 ก่อนอาการบาดเจ็บระหว่างฤดูกาล 2015 จะทำให้เจ้าตัวต้องพักยาว ขณะที่ฤดูกาลนี้ ก็เพิ่งได้ลงเล่นไปเพียง 4 นัด แต่หลายคนยังคาดหวังว่า ไบรอันท์ จะเป็นกำลังสำคัญของทีม เมื่อฟิตสมบูรณ์
เอเซเกล เอลเลียทท์
รันนิ่งแบ็กดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในการดราฟต์ฤดูกาลล่าสุด และถูกเลือกโดย คาวบอยส์ เป็นลำดับที่ 4 เอลเลียทท์ ตอบแทนต้นสังกัดด้วยผลงานยอดเยี่ยม ถือบอลทั้งสิ้น 159 ครั้ง ทำระยะไป 799 หลา 5 ทัชดาวน์ ใน7 เกม จนได้รับการยกให้เป็นแคนดิเดทสำหรับรางวัลรุกกีทีมรุกยอดเยี่ยมแห่งปีเรียบร้อย
ดัค เพรสคอทท์
จิ๊กซอว์ตัวสุดท้ายสำหรับสามทหารเสือยุคใหม่ เพรสคอทท์ ไม่ใช่ตัวเลือกแรกของ คาวบอยส์ เมื่อเทียบกับ แพ็กซ์ตัน ลินช์ และ คอนเนอร์ คุก ก่อนถูกเลือกในรอบ 4 เป็นลำดับที่ 135 แต่เจ้าตัวกลับถูกเลื่อนมาเป็นสำรองของ โรโม กะทันหันเพราะ เคลเลน มอร์ กระดูกหน้าแข้งหักตั้งแต่สัปดาห์แรกในช่วงพรีซีซัน ขณะที่ความพยายามเทรด จอช แม็คคาวน์ จาก คลีฟแลนด์ บราวน์ส มาเป็นแบ็คอัพไม่ประสบผล
และเมื่อ โรโม บาดเจ็บหนักในเกมพรีซีซันกับ ซีแอทเทิล ซีฮอว์คส์ ก็ทำให้ เพรสคอทท์ กลายเป็นควอเตอร์แบ็กรุกกีคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์ที่ได้เป็นตัวจริงในนัดแรกของฤดูกาล
แม้จะเริ่มด้วยความพ่ายแพ้ 19-20 ต่อ ไจแอนท์ส แต่จากนั้น เพรสคอทท์ ก็สวมบทจอมทัพได้ดีเกินวัย จนนำทีมชนะ 6 เกมรวด โดยเฉพาะในเกมล่าสุดที่พบกับ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ ที่มีเกมรับระดับต้นๆของลีก จนเริ่มมีเสียงสนับสนุนให้เจ้าตัวได้ทำหน้าที่จนจบฤดูกาล ต่อให้ โรโม ใกล้หายเจ็บกลับมาก็ตาม
และเมื่อพิจารณาจากอายุการใช้งานของ โรโม แล้ว เพรสคอทท์ อาจเป็นตัวเลือกในระยะยาว หากเฮดโค้ช เจสัน การ์เร็ตต์ ต้องการวางรากฐานในระยะยาวให้กับ ‘ทีมแห่งอเมริกา’