ปาหินใส่กระจกรถ กลางดึกอาละวาดอีกแล้วที่ชุมพร โชว์เฟอร์โดนเศษกระจกฝังลูกตาเจ็บ
เมื่อเวลา 01.55 น.วันที่ 15 มิ.ย.60 ร.ต.ท.สราวุธ ชัยชนะกสิกรรม หัวหน้าสายตรวจรถยนต์ สภ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่า มีรถบรรทุกถูกปาก้อนหินใส่กระจกหน้ารถ ทำให้ผู้ขับได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบนถนนสายเอเซีย 41 ช่องทางขาขึ้นกรุงเทพฯ ก่อนถึงสี่แยกไฟจราจรหลังสวนเพียง 500 เมตร จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ พบรถบรรทุก ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 71-0165 สมุทรปราการ มีนายอุไร ผึ่งช้าง อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 116 ม.5 ต.ห้วยคต อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี เป็นคนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ดวงตาซ้าย เนื่องจากเศษกระจกกระเด็นฝังในดวงตา ส่วนสภาพรถกระจกหน้าด้านขวาแตกเป็นรูขนาดใหญ่ ส่งผลให้กระจกร้าวทั้งบาน ภายในรถพบก้อนปูนซีเมนต์ขนาดกว้าง 10 นิ้ว ยาว 5 นิ้ว หนา 3 นิ้ว ตกอยู่ นอกจากนี้ ใกล้ๆกันยังมีรถบรรทุก ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน 81-3224 เพชรบุรี อีก 1 คัน จอดอยู่ มีนายศักดิ์ชาย อยู่ฉิม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 87/5 ม.7 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เป็นคนขับ สภาพรถที่กระจกด้านหน้ามีร่องรอยกระจกแตกเป็นรูและร้าวทั่วทั้งบาน
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สอบถามนายอุไร ทราบว่า ขณะที่ขับรถกลับจากส่งเครื่องใช้ไฟฟ้าของบริษัท RPE ให้ลูกค้าที่ จ.ภูเก็ต เพื่อเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เมื่อมาถึงพื้นที่ อ.ละแม จ.ชุมพร ก่อนถึงสี่แยกไฟจราจรละแม ประมาณ 5 กม. จุดดังกล่าวมืดมาก และได้มีก้อนหินขนาดใหญ่ปาเข้ามาที่กระจกหน้ารถ เสียงดังมาก จนกระจกแตก ก้อนหินทะลุเข้ามาอยู่ภายในรถ ส่วนตนเองก็รู้สึกเจ็บปวดที่ดวงตาซ้ายมาก แต่ดวงความกลัว จึงรีบขับรถมาจนถึงป้อมตำรวจบ้านเพนียด อ.หลังสวน ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 กม. และลงมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่จะเรียกหน่วยกู้ภัยมาปฐมพยาบาลให้เบื้องต้น จากนั้นก็เดินทางไปยัง รพ.หลังสวน เพื่อให้แพทย์รักษาอาการบาดเจ็บดวงตา
ส่วนรถบรรทุกอีก 1 คันที่จอดอยู่ไม่ห่างกันนัก ซึ่งมีนายศักดิ์ชาย เป็นคนขับนั้น ก็ได้มาแจ้งกับตำรวจที่ป้อมดังกล่าวด้วยหน้าตาตื่นตระหนกว่าถูกปาก้อนหินใส่จนกระจกแตกได้รับความเสียหายเช่นกัน เหตุเกิดบริเวณจุดเดียวกัน โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ
ร.ต.ท.สราวุธ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทราบว่าเกิดต่อเนื่องมา 2 วันติดต่อกันแล้วในจุดเดียวกัน ซึ่งเป็นพื้นที่ อ.ละแม ซึ่งก็ได้รายงานให้ทางผู้บังคับบัญชารับทราบแล้ว และได้ประสานไปยัง สภ.ละแม เพื่อให้ออกตระเวนตรวจสอบจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่นคึกคะนอง หรือคนสติไม่สมประกอบ หรืออาจจะเป็นคนเมาสุรา ที่ผ่านมาพบว่ามีรถยนต์หลายรายได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก ซึ่งตำรวจจะติดตามับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป