นักร้องนักแสดงสาว 'โฟร์' กับเหตุสุดระทึก อัพเดทชีวิตและละครซีรีย์
เสาไฟฟ้าล้มทับบ้าน!! นักร้องนักแสดงสาว 'โฟร์' เผยเหตุสุดระทึก อัพเดทชีวิตและละครซีรีย์
"โฟร์" ศกลรัตน์ วรอุไร เผยเหตุเสาไฟฟ้าล้มทับ เนื่องจากฝนฟ้าคะนองเมื่อช่วงสองถึงสามวันที่่ผ่าน สร้างผลกระทบน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ทั่วกรุงเทพ ทั้งยังพบเหตุการณ์ระทึก เมื่อเสาไฟฟ้าล้มทับบ้านอีกด้วย เมื่อผู้สื่อข่าวได้เจอสาวโฟร์ในงานเปิดตัวคลับฟรายเดย์ ซีรีส์ 10 จึงถามถึงกรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวได้ว่าเหตุการณ์เป็นมาอย่างใด
“ใช่นะ จริงๆ คุณพ่อเป็นคนโทรมาบอกนะ ว่าเสาไฟฟ้าล้มทับบ้าน ตอนนั้นโฟร์ก็ตกใจกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรหรือเปล่า แต่พอไปถึงคุณพ่อก็บอกว่าช่วงที่เสาไฟฟ้าล้มเขาอยู่ในบริเวณบ้านพอดี ก็เลยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร (พอจะระบุได้ไหมว่าเสาไฟฟ้าที่ล้มทับ มันล้มทับบริเวณไหนของบ้านบ้าง ) เอ่อ…บริเวณดาดฟ้าของบ้านนะ ซึ่งก็คือชั้น 5 ชั้นบนสุดเลย ส่วนข้างล่างจะมีรถจอดอยู่คันหนึ่งบริเวณนั้นพอดี แต่ก็โชคดีที่มีต้นไม้ต้นใหญ่มาช่วยรับเสาเอาไว้ รถก็เลยไม่ได้เสียหายอะไรนะอย่างที่บอกก็มีแค่ดาดฟ้าตรงนั้นอย่างเดียวที่ปูนแตก ส่วนรายละเอียดต่างๆ เช่นโครงสร้างบ้าน ก็ไม่มีอะไรเสียหายนะ”
ได้มีการประเมินความเสียหายหรือยังว่าประมาณเท่าไหร่ ?
“เรื่องนี้โฟร์ไม่ทราบเลยนะ เพราะความรับผิดชอบต่างๆ ทางผู้ใหญ่เขาก็จัดการกันอยู่ แต่ส่วนตัวโฟร์ โฟร์เชื่อว่ามันก็คงจะเป็นสิบๆ ล้านนะ เพราะเสาไม่รู้กี่ต้นเลยที่ล้มใส่ คือล้มเยอะมาก(ส่วนตัวเราเองขวัญเสียไหมเพราะเจอปัญหาเรื่องบ้านตลอด) ใช่นะ เมื่อ 5 ปีก่อน บ้านหลังนี้ก็โดนไฟไหม้ แต่ก็ยังโชคดีนะ ที่ไม่มีใครเป็นอะไรเลยจริงๆ เพียงแค่ตัวบ้านที่มันเสียหายเนี่ยมันคือมุมเดิมเลยซึ่งก็คือมุมห้องพระ และพอมาคราวนี้เสาไฟที่ล้มทับก็ล้มทับห้องพระพอดีเหมือนกัน”
พอเหตุการณ์มันเกิดเหตุซ้ำที่เดิมแบบนี้ คิดไหมว่าอาจจะให้ซินแสหรือใครมาช่วยดูบ้านสักหน่อย เพื่อความสบายใจ ?
“ไม่เคยเลยนะ เพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังเก่า และปัจจุบันโฟร์ย้ายออกมาได้ประมาณ 2 ปีแล้วด้วยนะ จะมีก็แต่คุณพ่อที่ไปๆ มาๆ ตลอด ไปดูแลบ้าน เนื่องจากบ้านยังไม่ได้ปล่อยขาย(ติดอะไรถึงยังไม่คิดที่จะปล่อยขายบ้านหลังนี้ เพราะเราก็บอกว่าไม่ค่อยได้อยู่ )บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่คุณพ่อรักมากเลยนะ คือไปอยู่คนเดียวแกก็ยอมอยู่ คุณพ่อรักบ้านหลังนี้มากจริงๆ ทุกวันนี้ท่านยังไม่ยอมย้ายออกมาอยู่บ้านใหม่ถาวรเลย ขนาดโฟร์บอกนะว่าย้ายออกมาเถอะเพราะกลัวว่าเดี๋ยวปูนมันจะถล่ม แต่พอก็จะตอบกลับเหมือนเดิมว่า เขาอยู่ในบ้านไม่มีปัญหาอะไรหรอก คือรักบ้านหลังนี้มากจริงๆ เป็นห่วงบ้านมาก”
จากการที่ผู้ใหญ่คุยกันคร่าวๆ เราพอจะทราบรายละเอียดเรื่องความเสียหายอื่นๆ ต่อตัวบ้านบ้างไหม ?
“ก็คือบ้านมีประกันอ่ะ ดังนั้นทางประกันเขาก็จะเป็นฝ่ายจัดการทั้งหมด ส่วนเรื่องทรุดไหมหรือไม่ยังไงนั้น โฟร์คิดว่าโครงสร้างยังปลอดภัยดีอยู่ค่ะ และคุณพ่อท่านก็เหมือนเดิมค่ะ คือยังไงก็จะอยู่บ้านหลังนี้ (ยิ้ม) (ถือเป็นการฟาดเคราะห์ใหญ่ของเราเลยทีเดียว ) ใช่นะ ถือเป็นเคราะห์ใหญ่อยู่เหมือนกัน”
ถามถึงทริปเกาหลีที่ทำให้เราตกเป็นข่าวกับ "กอล์ฟ" พิชญะ ?
“กอล์ฟนั่นแหละนะ เป็นคนที่ชวนโฟร์ไปงานแฟชั่นวีคที่โซล ซึ่งช่วงนั้นโฟร์ว่างอยู่พอดีก็เลยตัดสินใจที่จะตอบตกลงไป (แต่ภาพที่ออกมาหลายคนก็มองว่าเราสองคนดูเหมือนจะสนิทสนมกันมาก) เราสองคนสนิทกันอยู่แล้วนะ และเหตุการณ์ในวันนั้นโฟร์ก็คือโดนรองเท้ากัดจริงๆ และโฟร์จะเดินไปจับราว ซึ่งมันเป็นจังหวะที่มีคนถ่ายรูปเยอะมาก กอล์ฟเขาก็เลยเห็นว่าไม่เหมาะก็เลยอาสาช่วยพยุงเดิน แค่นั้นเอง (พอมันมีข่าวออกมาแบบนี้เรากับกอล์ฟคุยกันบ้างหรือยัง) คุยนะ กอล์ฟเขาเป็นคนส่งข่าวมาให้ดู และอย่างที่บอกมันไม่มีอะไรจริงๆ เราก็เลยไม่ได้ซีเรียสอะไร”
จริงๆ จังหวะนั้นที่เราโดนรองเท้ากัดและกอล์ฟอาสาช่วย เราคิดไหมว่าเรื่องมันจะกลายเป็นข่าว ?
“คือรูปที่มันถูกแชร์ออกไปเป็นรูปที่เราจับมือพอดีไงคะ ตอนนั้นโฟร์ก็คิดนะว่าหรือเราจะเขียนอธิบายดี แต่กอล์ฟก็บอกว่าไม่จำเป็นต้องอธิบายหรอกเพราะทุกคนก็รู้อยู่แล้วว่าเราเป็นเพื่อนกัน ดังนั้นมันก็เลยแล้วแต่มากกว่า (ส่วนตัวเราเองล่ะ กลัวคนของเรา ธามไท เข้าใจผิดไหม สำหรับข่าวนี้ ) ไม่มีเข้าใจผิดนะ เพราะเราคุยกันตลอด และโฟร์เองก็บอกเขาด้วยว่าโฟร์โดนรองเท้ากัด ถึงขนาดส่งรูปไปให้เขาดูว่าแผลโดนรองเท้ากัดมันเหวอะจริงๆ (หัวเราะ) เจ็บมาก (ความสัมพันธ์ของเราสองคนตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ) ทรงๆ นะ ปกติเรื่อยๆ แต่ไม่ต้องลุ้นหรอกค่ะ เพราะโฟร์มองว่าถ้าหากโฟร์พูดว่าแฟน วันหนึ่งมันจะมีเหตุให้เราต้องมานั่งแถลงข่าวบอกเลิกกันหรือเปล่า ซึ่งโฟร์ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนั้น โฟร์อยากให้ทุกอย่างเป็นไปแบบเรื่อยๆ ง่ายๆ และเขาเองก็เป็นคนสนิทของโฟร์”
น้องเขาว่ายังไงบ้างกับการที่เราเลือกใช้สถานะแบบนี้ ?
“เขาก็แล้วแต่โฟร์ด้วยค่ะว่าอยากจะระบุหรือเปล่า แต่ส่วนตัวโฟร์ โฟร์มองว่ามันไม่ต้องระบุหรอกเพราะขอแค่เราให้เกียรติกันแค่นั้นก็พอแล้ว (เราสบายใจแค่ไหนที่คุยกับเขา) สบายใจแบบนี้นะ(ยิ้ม) (จริงๆ ด้วยความที่เราสองคนคบกันมานาน เคยมองอนาคตหรือคุยเรื่องอนาคตกันบ้างไหม ) โฟร์ไม่ค่อยมองอะไรยาวๆ (หัวเราะ) โฟร์มองแค่วันต่อวันมากกว่าค่ะทำทุกวันให้มันดีแค่นั้นก็โอเคแล้ว”