‘บาท’ เปิดตลาดเช้านี้ ‘ทรงตัว’ ที่ 31.73 บาทต่อดอลลาร์

นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดตลาดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.73 บาทต่อดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงสิ้นวันทำการก่อน

ในคืนที่ผ่านมา ตลาดคลายความกังวลและเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นในระยะสั้น ส่งผลให้ดัชนีหุ้นสหรัฐ S&P500 ปรับตัวขึ้นได้ถึง 0.8% ขณะที่บอนด์ยิลด์สหรัฐอายุ 10 ปีก็ปรับตัวขึ้นต่อไปที่ระดับ 2.75%

เราเชื่อว่าภาพดังกล่าวเกิดจากแรงบวกทั้งในฝั่งเศรษฐกิจและการเมือง ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ในสหรัฐปรับตัวลงไปที่ระดับ 2.13 แสนตำแหน่งในเดือนล่าสุด สะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ยังคงมีความแข็งแกร่ง ขณะที่นายสตีเวน มนูชินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ ก็กำลังหาทางแก้ไขปัญหาภาษีกับจีนอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดเป็นบวกกับตลาดการเงิน

สำหรับวันนี้ เรายังเห็นความผันผวนระดับสูงในตลาด จึงเชื่อว่าค่าเงินบาทมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบกว้างต่อเนื่อง แม้นักค้าเงินส่วนใหญ่จะเป็น “ฝั่งขาย” ด้วยความเชื่อมั่นว่าเงินดอลลาร์จะสามารถแข็งค่าขึ้นได้ตามภาพรวมความเสี่ยงที่อยู่ในระดับสูง แต่ เงินบาทก็ดูจะไม่สามารถอ่อนค่าลงได้เร็ว เนื่องจากยังมี “ฝั่งซื้อ“ ทั้งจากการลงทุนในตลาดหุ้น บอนด์ และกลุ่มผู้ส่งออก

มองกรอบค่าเงินบาทวันนี้ 31.68-31.78บาทต่อดอลลาร์

นักบริหารเงินธนาคารทหารไทย เปิดเผยว่า ตลาดยังคงเปิดรับความเสี่ยงต่อเนื่อง แม้ว่าความกังวลสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ เริ่มกลับมาอีกครั้ง หลังบริษัท Huawei ของจีนยังคงตกเป็นเป้าการตรวจสอบในเรื่องการขโมยความลับทางการค้าของบริษัทสหรัฐฯ อาทิ T-Mobile  ซึ่งทำให้ทางการจีนเองมีการออกมาตอบโต้สหรัฐฯ ว่าเป็นแรงกดดันต่อการขยายตัวของบริษัทของจีน  โดยในระยะสั้น ตลาดยังคงมองที่ภาพรวมของผลประกอบการที่ยังคงออกมาดีกว่าคาด ทำให้ตลาดยังไม่ค่อยกังวลต่อความเสี่ยงสงครามการค้าเท่าไหร่นัก หากสุดท้ายแล้ว จีนกับสหรัฐฯไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าได้ก่อนเดือนมีนาคม ตลาดก็พร้อมจะกลับมาปิดรับความเสี่ยงได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน  

นอกจากนี้ ประเด็น Brexit ยังคงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่อาจส่งผลให้ตลาดการเงินผันผวนได้  ดังนั้นนักลงทุนและผู้ประกอบการจึงควรเตรียมรับมือกับความเสี่ยงและความผันผวนที่อาจเพิ่มขึ้น  

สำหรับวันนี้ ตลาดจะจับตาถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่ระดับสูงเฟด อาทิ Fed Williams  เพื่อหามุมมองเศรษฐกิจและแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด  

รวมถึง ตัวเลขยอดค้าปลีก(Retail sale) ของอังกฤษจะเป็นที่จับตามอง โดยถ้าหากยอดค้าปลีกยังคงขยายตัวดีขึ้น อาจบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษยังคงขยายตัวได้ต่อและธนาคารกลางอังกฤษอาจสามารถขึ้นดอกเบี้ยได้อย่างน้อย 1 ครั้ง แม้ว่าจะยังมีความเสี่ยงการเจรจา Brexit ก็ตาม  

มองเงินบาทวันนี้มีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในช่วงกรอบ 31.60-31.75บาทต่อดอลลาร์ โดยค่าเงินบาทอาจ เผชิญแรงกดดันฝั่งแข็งค่าจากแรงซื้อสินทรัพย์อาทิ บอนด์ระยะกลาง และหุ้นจากนักลงทุนต่างชาติ แต่ค่าเงินบาทอาจไม่แข็งค่าไปมาก เนื่องจากยังคงแรงซื้อดอลลาร์จำนวนมากจากผู้นำเข้าในโซน 31.50 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งอาจช่วยชะลอการแข็งค่าของเงินบาทได้  

อย่างไรก็ดี หากค่าเงินบาทหลุดแนวรับ 31.50 บาทต่อดอลลาร์ มีความเป็นไปได้ว่า ค่าเงินบาทอาจแข็งค่าต่อได้อย่างรวดเร็ว