10 พรรคแถลง ยันไม่แตก-เก้าอี้รมต.ขึ้นกับนายกฯ
10 พรรค แถลงข่าวยืนยันร่วมตั้งรัฐบาลกับพลังประชารัฐ สนับสนุน "พล.อ.ประยุทธ์" เป็นนายกฯ ระบุการพิจารณาตำแหน่งรมต. เป็นดุลพินิจนายกฯ
เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.62 กลุ่ม 10 พรรค ร่วมกันแถลงข่าวท่าทีทางการเมือง โดยมีตัวแทนจากทั้ง 10 พรรคเข้าร่วม ขาดเพียง 1 พรรค คือ นายคฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล หัวหน้าพรรคพลังไทยรักไทย ที่ติดภารกิจประชุมพรรคอยู่ที่จังหวัดอำนาจเจริญ รวมถึงในวันนี้ยังมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ เข้าร่วมแถงข่าวด้วย
โดย พลตรีทรงกรด ทิพย์รัตน์ หัวหน้าพรรคพลังชาติไทย ได้แถลงจุดยืนของกลุ่ม 10 พรรค คือ การสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อต้องการให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นจึงขอให้รีบเร่งในการจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องของตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ให้เป็นดุลพินิจของพล.อ.ประยุทธ์ ที่จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม รวมถึงนโยบายทางการเมืองของทั้ง 10 พรรคได้มีการมอบให้กับพรรคพลังประชารัฐไปทั้งหมดแล้ว เพื่อนำไปพิจารณาดำเนินการเพื่อประโยชน์ของประชาชน
ขณะที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ยืนยันว่ากลุ่ม 10 พรรคยังคงเหนียวแน่น แต่บางครั้งอาจจะมีความคิดต่างกันบ้าง ซึ่งอาจเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ทั้งนี้ขอเรียกร้องไปยัง ส.ส.ทั้งสภา ขอให้ยึดถือผลประโยชน์ของชาติ และลดการต่อรองในเรื่องตำแหน่ง จึงขอให้เชื่อมั่นว่า 10 พรรคไม่แตกแยก ยังคงมุ่งมั่นทำประโยชน์ต่อสังคม พร้อมยืนยันในส่วนของพรรคพลังธรรมใหม่จะยังคงอยู่ฝ่ายรัฐบาล ถึงแม้ว่ากลุ่ม 10 พรรคไม่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี
ด้าน นายพิเชษฐ สถิรชวาล หัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ขอความร่วมมือสื่อมวลชนการบริหารของรัฐบาล เนื่องจากในอดีตทุกยุคทุกสมัย การจัดสรรตำแหน่งกรรมาธิการมักจะเป็นการไปส่งเสริมคนของรัฐบาล ด้วยการส่งคนของรัฐบาลมาเป็นกรรมาธิการ ดังนั้นต่อจากนี้จะมีการเสนอในสภาผู้แทนราษฎรว่าหากรัฐบาลได้กระทรวงไหน ประธานกรรมาธิการต้องเป็นของฝ่ายค้าน
ส่วน นายมงคลกิตติ์ ยืนยันยังคงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ต้องใช้ความใจกว้าง และรอบคอบ เชื่อมั่นว่าจะรอบคอบในการจัดการทางการเมือง ซึ่งไม่เหมือนกับ 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นการจัดการกับตัวแทนประชาชน ไม่ใช่เรื่องของผลประโยชน์ ดังนั้นขอให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้เร่งดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาพวกเราได้เปิดสวิตช์ประเทศให้แล้ว จากนี้ก็เป็นหน้าที่ของพล.อ.ประยุทธ์แล้ว พร้อมระบุว่า เรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเรื่องดุลพินิจของพล.อ.ประยุทธ์ ในการพิจารณา ส่วนเรื่องตำแหน่งกรรมาธิการนั้นเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ทุกคนที่จะต้องทำอยู่แล้ว และเชื่อว่ามีดุลพินิจเพียงพอและมีความใจกว้างในการบริหารประเทศครบทั้ง 4 ปี และเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐจะใจกว้างกับพรรคร่วมทุกพรรค เพื่อให้รัฐบาลอยู่ได้ครบวาระ ส่วนทิศทางการเมืองหากไม่ได้รับการจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีนั้น จะต้องรอมติร่วมของพรรคอีกครั้งภายหลังจากที่ได้มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่าวันนี้ได้รับเกียรติจากกลุ่ม 10 พรรคให้มาร่วมแถงข่าว จากข่าวที่นำเสนอออกไปทำให้รู้สึกไม่สบายใจ โดยเฉพาะประชาชนที่เฝ้าติดตามข่าวการจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ซึ่งวันนี้เห็นว่ากลุ่ม 10 พรรคยังคงเหนียวแน่น ซึ่งตนไม่ใช่เพิ่งรู้จักหัวหน้าพรรคการเมืองทั้ง 10 พรรคในช่วงการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่รู้จักกันมานานแล้ว ตนมีหน้าที่ต้องประสานการทำงานกับ10พรรคต่อเนื่อง และเชื่อว่าเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว ทางพล.อ.ประยุทธ์ คงจะมีการเชิญพรรคร่วมทั้งหมดหารือกันอีกครั้ง ส่วนเรื่องการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณา
นอกจากนี้ นายสมเกียรติ ศรลัมพ์ หัวหน้าพรรคประชาภิวัฒน์ ได้บอกว่ากลุ่ม 10 พรรคได้มีการเสนอชื่อของทั้ง 10 พรรคพร้อมระบุความถนัดของทั้ง 10 คน ไปยังพล.อ.ประยุทธ์ได้พิจารณาแล้ว ส่วนจะพิจารณาอย่างไรก็เป็นดุลพินิจ การทำงานมีการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งหากไม่ได้เป็นฝ่ายบริหาร และเมื่อรัฐบาลทำดีอยู่แล้วก็สนับสนุน แต่หากทำในสิ่งที่ไม่ดีก็ต้องมาพิจารณากันอีกครั้ง