รองโฆษกตร. โต้คลิปฉาวรุมตีผู้ต้องหา ยันทำตามยุทธวิธี
"พ.ต.อ.กฤษณะ" รองโฆษกตร. โต้คลิปฉาว ตำรวจสน.หลักสองรุมตีผู้ต้องหา ชี้ด่าทอดูหมิ่น ยันทำตามยุทธวิธี
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณี สื่อโซเชียลมีเดียได้นำเสนอเกี่ยวกับคลิปวีดีโอระบุว่าตำรวจ 6 - 7 นาย ทำร้ายผู้ต้องหา สน.หลักสอง ว่า ผู้ต้องหาได้ด่าทอ ดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และใช้กำลังขัดขืนไม่ยอมสงบนิ่ง และคล้ายมีอาการคลุ้มคลั่ง เจ้าที่ตำรวจจำเป็นต้องใช้ยุทธวิธีอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อหยุดยั้งและระงับการกระทำของผู้ต้องหา ณ ขณะนั้นจึงมีการใช้กระบองยางที่พิจารณาแล้วว่าเหมาะสม และต่อมาได้นำตัวผู้ต้องหาขึ้นไปยังห้องควบคุม ได้ทำบันทึกจับกุม ข้อหาเมาสุรา หรือสิ่งมึนเมาอย่างอื่น ส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสองเพื่อดำเนินคดี
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นตามหลักยุทธวิธีตำรวจ ก็จะคำนึงถึงความปลอดภัย ระดับการใช้กำลัง ในขณะเข้าปฏิบัติหน้าที่การจับกุมการตรวจค้น การควบคุมผู้ต้องหา ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็มิได้มีเจตนาที่จะทำให้ผู้ที่ถูกจับกุมหรือประชาชนให้ได้รับบาดเจ็บ กระทบสิทธิขั้นพื้นฐานตามหลักสิทธิมนุษยชน จากการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน สังคมให้เกิดความสงบเรียบร้อย แต่เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมเกิดความโปร่งใสตอบคำถามสังคมได้ขณะนี้พล.ต.ต.กัมปนาท โสภโณดร ผบก.น.9 ได้มีคำสั่งให้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยต้องดูข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง พฤติการณ์ของผู้ต้องหา ว่ามีการขัดขืนการจับกุม ต่อสู้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ โดยหากผลการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีข้อบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่หรือเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ก็จะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้เน้นย้ำการปฏิบัติมาโดยตลอดถึงการปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมตัวผู้ต้องหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระทำที่จะไปกระทบต่อสิทธิมนุษยชนของผู้ต้องหา โดยให้กระทำตามอำนาจหน้าที่ตามกรอบที่กฎหมายกำหนดไว้เท่านั้น และอาศัยหลักยุทธวิธีเพื่อประเมินระดับการใช้กำลัง และเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หมั่นฝึกทบทวนการปฏิบัติงาน ตามยุทธวิธีตำรวจอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความเคยชิน ลดการสูญเสีย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน โดยจะต้องยึดหลัก กระทำการตามอำนาจหน้าที่ อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และใช้หลักยุทธวิธีตำรวจควบคู่กันไป