ซัดกทม.ปมปล่อยให้ตัดไม้หวงห้าม บังป้ายก.ยุติธรรมทิ้ง
"ศรีสุวรรณ" โวย ซัด "กทม." ปมละเลยปล่อย ให้มือดีตัดไม้หวงห้าม บังป้ายกระทรวงยุติธรรม
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารที่ทำการกระทรวงยุติธรรมแห่งใหม่ บริเวณถนนแจ้งวัฒนะ เยื้องศาลปกครองกลาง ซึ่งเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 58 ในวงเงินงบประมาณ 1,476.750 ล้านบาท มีเนื้อที่ประมาณ 15.9 ไร่ ตัวอาคารมีความสูง 11 ชั้น และมีที่จอดรถชั้นใต้ดิน 2 ชั้น รวมพื้นที่ใช้สอยกว่า 80,000 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิดการก่อสร้างตามสถาปัตยกรรมในยุคนีโอคลาสสิก โดยจัดการอาคารตามแนวคิด “อาคารอัจฉริยะ” ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในขั้นตอนตบแต่งภายใน ติดตั้งอุปกรณ์สำนักงาน และงานระบบประกอบอาคารอยู่นั้น
เป็นที่น่าสังเกตว่า บริเวณที่ก่อสร้างป้ายกระทรวงยุติธรรมด้านหน้าอาคารตามแนวฟุตบาทริมถนนแจ้งวัฒนะนั้น จะมีต้นตีนเป็ดน้ำ(Cerbera odollam Gaertn.) ซึ่ง กทม. ได้ปลูกไว้เรียงรายสวยงามตลอดแนวหน้าอาคารดังกล่าวมากว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งต้นตีนเป็ดเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ตาม พรบ.ป่าไม้ พ.ศ.2487 ซึ่งตามกฎหมายแล้วไม่ว่าจะขึ้นอยู่ที่ใดในประเทศไทย แม้จะปลูกไว้ในที่ดินของตนเองหรือที่สาธารณะการจะกระทำการใดๆ ต่อต้นไม้ ต้องยื่นคำขออนุญาตทำไม้ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อกำหนดฉบับที่ 17 (พ.ศ.2530) เสียก่อน ถึงจะดำเนินการได้ ถ้าหากฝ่าฝืนมีความผิด มีโทษจำคุก 1 - 20 ปี และถูกปรับตั้งแต่ 50,000 บาท ถึง 2,000,000 บาท
แต่ปัจจุบันปรากฏว่า มีการแอบตัดโค่นต้นตีนเป็ดต้นที่บดบังป้ายอาคารกระทรวงยุติธรรมออกไป โดยไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สั่งการ หรือใครเป็นคนเอื้อประโยชน์ให้กระทำ โดยไม่คำนึงเสียงครหาของประชาชนและการละเมิดกฎหมายแต่อย่างใด ที่สำคัญเป็นการดำเนินการบริเวณด้านหน้าสำนักงานแห่งใหม่ของกระทรวงยุติธรรม ที่มีหน้าที่อำนวยความยุติธรรมให้กับคนทั้งประเทศ ซึ่งเป็นการกระทำที่ย้อนแย้งต่อสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เช่นนี้สังคมไทยจะไปแสวงหาความยุติธรรมได้อย่างไร เพราะแค่ต้นไม้หน้ากระทรวงยังถูกอัปเปหิไปอย่างไร้ร่องรอยได้ หรือเป็นการเอาหน้าต้อนรับ รมว.ยุติธรรมคนใหม่
กรณีดังกล่าวผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ต้องมีคำตอบให้กับคน กทม.และสังคมไทยว่า กรณีเช่นนี้เป็นนโยบายของ กทม. หรือของกระทรวงยุติธรรม หรือของรัฐบาลหรือไม่ ที่ไล่จับและบังคับใช้กฎหมายป่าไม้อย่างเคร่งครัดหากมีผู้ใดฝ่าฝืน แต่สำหรับหน่วยงานราชการด้วยกันแล้ว แสร้งเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ สามารถละเลยต่อหน้าที่ไม่ต้องบังคับใช้กฎหมายก็ได้ เช่นนี้เราจะมีกฎหมายไปเพื่อบังคับใช้เฉพาะกับคนยากคนจนเท่านั้นหรือ นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด