กมธ.ดีอี ห่วงอาชญากรรมไซเบอร์ระบาดหนัก
"เศรษฐพงค์" เผยเตรียมเชิญ "กสทช.-หน่วยงานเกี่ยวข้อง" วางมาตรการตรวจสอบนำเข้าอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศยักษ์ใหญ่ หวั่นถูกล้วงข้อมูลและควบคุมโดยต่างชาติ ทำความเสียหายร้ายแรงแก่ประเทศ
เมื่อวันที่ 15 ก.ย. พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการสื่อสาร โทรคมนาคมและดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือกรรมาธิการ ดีอี ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของคณะกรรมาธิการฯ ว่า ต่อจากนี้กรรมาธิการดีอี จะเน้นเรื่องการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เนื่องจากยุคปัจจุบันประชาชนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่าย และเพิ่มมากขึ้น และปัจจุบันพัฒนาการของอินเทอร์เน็ตไม่ได้หยุดอยู่เพียงการเชื่อมต่อระหว่างคนเพื่อสื่อสารด้วยกันเท่านั้น แต่กำลังก้าวไปสู่การสื่อสารระหว่างทุกสิ่งทุกอย่าง (Internet of Thing: IoT) ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งรัฐบาลประเทศต่างๆ จึงเปิดโอกาสให้ประชาชนของตนสามารถเข้าถึงการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ง่าย และสะดวกมากขึ้น เนื่องจากจะทำให้โอกาสในการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ เพิ่มมากขึ้น สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศได้
รองประธานกรรมาธิการดีอี กล่าวต่อว่า ผลที่ตามมาจากการเปิดให้มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ง่ายดายขึ้น ไปจนถึงอุปกรณ์ IoT นำเข้ามาใช้มากขึ้นอย่างก้าวกระโดด คือ ความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอาชญากรรมผ่านระบบไซเบอร์ โดยจะใช้โอกาสนี้เข้าแสวงหาผลประโยชน์ในทางที่ผิดกฎหมายอย่างไร้ร่องรอยได้ง่ายขึ้น ซึ่งประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงที่ต้องเร่งวางโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม เพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G ที่สำคัญคือต้องมีการนำเข้าอุปกรณ์จากประเทศยักษ์ใหญ่ผู้นำด้านเทคโนโลยีในแถบเอเซีย ดังนั้น จึงต้องมีความระมัดระวังด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ที่อาจจะเกิดการควบคุมระบบข้อมูลจากต่างชาติ และหากมีการโจมตีทางไซเบอร์ก็สามารถนำไปสู่การควบคุมระบบเศรษฐกิจดิจิทัลได้ จะเกิดความเสียหายต่อประเทศอย่างร้ายแรง
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวทางกรรมาธิการดีอี โดยท่านประธานกัลยา รุ่งวิจิตรชัย เห็นด้วยที่จะให้มีแนวทางการทำงานที่ชัดเจนว่า คณะกรรมาธิการฯ จะต้องติดตามการดำเนินงานด้านความมั่นคงปลอดภัยด้านไซเบอร์ อย่างเข้มงวด ซึ่งมีความหมายรวมถึงการตรวจสอบการนำเข้าอุปกรณ์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะอุปกรณ์สื่อสารอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมหาศาลที่กำลังจะเข้ามาในประเทศไทย ทั้งอุปกรณ์ด้านการแพทย์ที่ต่อกับระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ไปจนถึงระบบสื่อสารและดิจิทัลที่ควบคุมบริหารระบบการเงินการธนาคาร และระบบสื่อสารในการท่าอากาศยาน เป็นต้น ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกโจมตีและถูกแฮ็คระบบข้อมูลดังกล่าวได้ ดังที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก
"การพัฒนาระบบสื่อสารโทรคมนาคมและระบบดิจิทัลของชาติจะต้องควบคู่ไปกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ คณะกรรมาธิการ ดีอี ได้ให้ความสำคัญเร่งด่วนในการทำงานเรื่องความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ เรื่องนี้ทางกรรมาธิการฯ จะได้เชิญสำนักงาน กสทช. ซึ่งทำหน้าที่ในการให้อนุญาตนำเข้าอุปกรณ์ด้านการสื่อสารทั้งหมด รวมถึงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล เพื่อร่วมกันพัฒนามาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่เหมาะสมต่อไป" พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 'ไซเบอร์ ทบ.' เปิดรับบุคคลศักยภาพสูง เงินเดือนกว่าครึ่งแสน
-ความสำคัญ กม.ไซเบอร์-ข้อมูลบุคคลฯ ที่รัฐบาลต้องใส่ใจ
-เอกราชทางไซเบอร์ไทย ปัญหาการละเมิดที่ปชช.ควรรู้
-'สามารถ' โชว์เทคโนโลยี AI ตรวจจับภัยคุกคาม Cyber ในงาน IBM Think Thailand 2019