'ภูมิใจไทย' ขน51ส.ส.ลุยพัทลุง 'อนุทิน' ลั่น7รมต.ได้คะแนนเกินเต็ม10
"อนุทิน" ประเมิน 7 รมต.ทำงาน ให้ 11 เต็ม 10 คะแนน เผยพรรคภูมิใจไทย51 ส.ส. ลุยพัทลุง ดัน 98 โครงการสำคัญใน 14 จังหวัดใต้ ทุ่มงบกว่า 22,000 ล้านบาท
พรรคภูมิใจไทยจัดประชุมพรรคสัญจร ครั้งที่ 1 เริ่มที่ จ.พัทลุง โดยมี 7 รัฐมนตรีในนามของพรรคแถลงสรุปการประชุมพร้อม ส.ส.ทั้ง 51 คน โดยที่ประชุมมีมติมุ่งเป้าพัฒนา 14 จังหวัดภาคใต้ให้เป็นเมืองท่องเที่ยว พร้อมผลักดัน 98 โครงการที่สำคัญลงพื้นที่ งบประมาณรวม 22,435,581,312 ล้านบาท หวังเพิ่มตัวเลขนักท่องเที่ยวอีก 5 หมื่นคนต่อปี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ภูมิใจไทยทั้งพรรคมาอยู่ที่พัทลุง ถือเป็นเรื่องของทั้งพรรคและรัฐบาล ที่จะใช้โอกาสวันหยุดสุดสัปดาห์ลงพื้นที่มาทำงานในฐานะฝ่ายบริหารในรัฐบาลและผู้แทนราษฎร พรรคภูมิใจไทยก่อตั้งมาเพียง 10 ปี แต่การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรกของคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้
ซึ่งได้เดินทางไปทั่วทุกพื้นที่ของประเทศ ความรู้สึกของประชาชนที่มองพรรคภูมิใจไทยว่าเป็นพรรคของภาคอีสาน และครอบคลุมในระดับภาคหรือท้องถิ่นเท่านั้น แต่จากการที่พรรคมียุทธศาสตร์มุ่งเน้นประโยชน์ของประชาชน ทั้งปากท้องประชาชนมากกว่าการเล่นเกมส์ทางการเมือง วาระสำคัญที่สุดของพรรคคือการทำงานรับใช้ประชาชนจากความไว้วางใจของประชาชน วันนี้จึงจะเข้ามาตอบแทนบุญคุณของประชาชนทั่วประเทศ โดยมีความตั้งใจที่จะสัญจรไปทั่วทุกพื้นที่ของประเทศไทย พรรคมีรัฐมนตรี 7 คน มี ส.ส.51 คน และคณะทำงานอีกจำนวนมากที่พร้อมขับเคลื่อนและช่วยเหลือภารกิจของนายกรัฐมนตรี รัฐบาลและประเทศไทยเพื่อทำประโยชน์ให้ประชาชน
สำหรับการลงพื้นที่ครั้งนี้ ไม่ใช่การมาเที่ยว แต่เป็นการนำสมาชิกพรรคทุกคนมาทำงานโดยแบ่งงานตามสายงาน รวมทั้งแบ่งงานตามความรับผิดชอบของ ส.ส.แต่ละคนสังกัดอยู่ในกรรมาธิการต่างๆ ตนและแต่ละรัฐมนตรีก็จะลงพื้นที่ไปติดตามในเรื่องตามกระทรวงที่ตนเองรับผิดชอบ พร้อมรับเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชนในพื้นที่
ส่วน ส.ส.ทั้ง 51 คน มารวมพลังกันรับเรื่องของชาวบ้าน เพื่อช่วยกันผลักดันให้เข้ามาในกรอบงบ เน้นผลงานโดยนำส่งทุกเรื่องที่เคยหาเสียงเลือกตั้งไว้กับประชาชน จึงขอให้ความมั่นใจว่า พรรคภูมิใจไทยเน้นเรื่องผลงานที่จะออกสู่ประชาชน อะไรที่ได้ให้คำมั่นสัญญาในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พรรคภูมิใจไทยจะนำส่งทุกเรื่อง ดังนั้น นโยบายต่างๆภายใต้การกำกับดูแลของพรรคจะเดินหน้าเร็วขึ้น แรงขึ้น แต่หากนโยบายใดที่เสนอไปแต่ไม่ได้กำกับดูแลโดยตรงก็จะนำไปหารือกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ดังนั้น ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกพรรคต้องเดินหน้าตามนโยบายที่หาเสียง ต้องพึ่งพากันและกัน พรรคภูมิใจไทยผ่านท่ามกลางพายุมาแล้ว แต่ก็ได้รับเสียงชื่นชม
ทั้งนี้ การทำงานก็ต้องผ่านคำปรามาสเช่นกัน จึงย้ำว่า พรรคภูมิใจไทยไม่มีเรื่องผลประโยชน์ใดๆมาอุดปากทั้งสิ้น เพราะทุกคนมีฐานะ อยู่ดีกินดี มีความพร้อมดูแลตนเองได้ แล้วจึงมาดูแลคนอื่นและประเทศชาติ ยกเว้นแต่อาหารต่างๆที่จะมาอุดปากเพื่อให้มีพลังในการทำงานเพื่อรับใช้บ้านเมือง ขณะที่นักการเมืองสังกัดพรรค ต้องประสบความสำเร็จ ไม่ใช่มาเป็นตัวถ่วง หรือมีใครมาหากินเพื่อประโยชน์ของตัวเอง แต่มีความสุขที่ได้ทำงานเพื่อประชาชน พร้อมย้ำว่า การลงพื้นที่พัทลุงครั้งนี้ คือการเริ่มต้นการตอบแทนประชาชน
นอกจากนี้ การลงพื้นที่พัทลุง ไม่ได้หวังจะตีกับใครเพื่อกวาดพื้นที่ภาคใต้ แต่เป็นการทำงานอย่างเต็มที่ตามที่ได้สัญญากับประชาชนเอาไว้ พรรคภูมิใจไทยคาดหวังว่า หากผลงานก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้ ประชาชนก็จะให้โอกาสพรรคเรื่อยๆ
นายอนุทิน ยังประเมินการทำงานของรัฐมนตรีของพรรค ว่า ขอให้ดูหน้าของรัฐมนตรี แม้หน้าจะดำ แต่ก็ยิ้มทั้งหน้า แก้มก็ยิ้ม ปากก็ยิ้ม ยิ้มมีความสุขที่ได้ทำงาน วันนี้วันเสาร์เป็นวันหยุดราชการแต่เป็นรัฐมนตรีต้องทำงาน 24 ชั่วโมง อย่างทุกวันจันทร์ตอนเย็น รัฐมนตรีของพรรคก็จะมาประชุมกันก่อน แล้วจึงนำเรื่องที่ประชุมกันไปสู่การประชุมคณะรัฐมนตรีทุกวันอังคาร หากจะให้ประเมินความดันทุรังของรัฐมนตรีให้ 11 เต็ม 10 คะแนน ส่วนผลการทำงานบางคนก็ได้ 7 คะแนน บางคนก็ได้ 8 แนน แต่สุดท้ายก็ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ประเมินมากกว่า
ส่วนที่มีการมองว่า การลงพื้นที่ภาคใต้จะกระทบกับฐานเสียงเดิมของพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า เหมือนการตีกอล์ฟ ที่ใช้ความสามารถของตัวเองอย่างเต็มที่ ของบางอย่างมันยอมกันไม่ได้ คนตัดสินใจคือประชาชน การโจมตีถือเป็นอาหารเสริมเหมือนฟิชออยล์ เหมือนครูที่กำลังมาสอนเรา หากคิดว่าเป็นศัตรูที่มาฟาดฟัน มัวแต่ทะเลาะกับข้างทาง หรือมัวแต่ทะเลาะกับสุนัขก็ไม่ได้ ต้องค่อยๆเดินไปเรื่อยๆแล้วหูทวนลมไป ถ้ามาใกล้ๆก็ต้องป้องกันตัวเอง สุนัขเห่า อย่าเห่าตอบ
นายอนุทิน ยืนยันไม่กังวลเรื่องเสียงปริ่มน้ำ เวลาทำงานไม่ได้คิดถึงเรื่องของสภาฯ มีอะไรทุ่มไปหมดทั้งตัว ประสบการณ์ ความสามารถ ความรู้ ต้นทุนส่วนตัวที่ติดมาแต่กำเนิดต้องมาใช้ในงานให้หมด ไม่ได้ทำงานเพื่อหวังเงินเดือนหรือผลประโยชน์ทางการเมือง เกียรติยศของการเป็นรัฐมนตรีนั้น เงินเท่าไหร่ก็ซื้อไม่ได้ วันนี้ต้องหยิ่งในเกียรติยศของศักดิ์ศรี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-รอยปริเพื่อไทย 'เจ๊หน่อย' คุมไม่อยู่
-เปิด! มุมมอง เงินกู้ 191 ล้าน บ่วง 'ธนาธร-อนาคตใหม่'
-'จุติ' หนาว ถูกบีบให้ลาออก ส.ส.
-สภาฯของบเพิ่มทะลุ1.2หมื่นล้าน ค่าอาหารส.ส.เพิ่มรายละ300