“พิพัฒน์”เล็งถกคลังลดภาษีน้ำมันเครื่องบินอุ้มแอร์ไลน์ 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวฯและกระทรวงคมนาคมวานนี้ (22ต.ค.) ว่า จะร่วมกับกระทรวงคมนาคมขอหารือกับกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการขอให้พิจารณาปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันอากาศยานของเที่ยวบินในประเทศ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการสายการบินที่แบกรับต้นทุนภาษีดังกล่าวแทนผู้โดยสาร จนต้นทุนค่าน้ำมันพุ่งขึ้นสูงเป็น40-50%ของต้นทุนสายการบินทั้งหมด

“ปัจจุบันเที่ยวบินระหว่างประเทศไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิตน้ำมัน แต่พอเป็นเที่ยวบินในประเทศแล้วมีการเรียกเก็บ จึงอยากขอให้กระทรวงการคลังทบทวนมาตรการนี้ โดยคาดว่าหากมีการพิจารณาปรับลดภาษีฯลง จะช่วยให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสายการบินลดลง และสามารถกระตุ้นการเดินทางภายในประเทศได้มากขึ้น ตอบโจทย์รัฐบาลที่ต้องการให้ภาคท่องเที่ยวเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ”

นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวฯมองว่าปัญหาเวลาการบิน (สลอต) ของสนามบินยังคงเป็นประเด็นหลักที่ต้องบริหารจัดการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะใน 4 สนามบินหลัก ได้แก่ สุวรรณภูมิ ดอนเมือง ภูเก็ต และเชียงใหม่ซึ่งมีเที่ยวบินกระจุกตัวสูง ด้วยการผลักดันให้สายการบินต่างๆ ขยายเส้นทางและเที่ยวบินไปสนามบินในภูมิภาคที่ยังไม่แออัด เช่น หาดใหญ่ อุดรธานี อุบลราชธานี ขอนแก่น เชียงราย และสุราษฎร์ธานี ที่มีขีดความสามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ เช่น แอร์บัส เอ320ได้

ส่วนสนามบินอื่นๆ ในเมืองรอง เช่น แถบภาคใต้ ทั้งตรัง ระนอง และชุมพร จำเป็นต้องเร่งขยายทางวิ่งของเครื่องบิน (รันเวย์) เพิ่ม เพื่อสามารถรองรับเที่ยวบินจากต่างประเทศ หลังมีดีมานด์เที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) จากจีนสนใจบินลง ทั้งนี้ในที่ประชุมยังมีการรายงานด้วยว่า สายการบินจากประเทศจีนสนใจทำการบินจากหลายๆ เมืองสู่สนามบินสุวรรณภูมิ คิดเป็นปริมาณรวมกว่า20,000ที่นั่งต่อเดือน โดยเฉพาะในช่วงเวลาพีคตั้งแต่13.00-15.00น. แต่ยังติดที่เป็นช่วงเวลาการจราจรคับคั่ง ทำให้เสียโอกาสไป จึงอยากให้เร่งแผนพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิทันกับการเติบโตของดีมานด์