กมธ.ตั้ง 5 อนุฯปรับเกลี่ยงบ63 เผยผลชำแหละงบกองทัพ ไร้คำชี้แจงจัดซื้ออาวุธ
กมธ.งบ’63 พิจารณา ก.พาณิชย์ฯ เสร็จเป็นกระทรวงแรก เตรียมตั้ง 5 อนุ กมธ.ปรับเกลี่ยงบ ด้าน “วันนอร์” ส่ายหน้าคำชี้แจง ก.พาณิชย์ ฟังไม่ขึ้น ไม่ตรงเนื้อหา ขณะที่การประชุม กมธ.ทหาร สูญเปล่า "ปลัดฯ - เสนาธิการฯ" ปิดปากการจัดซื้ออาวุธ ชี้เป็นเรื่องความมั่นคง
ที่รัฐสภา เกียกกาย วานนี้(31 ต.ค.) นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 แถลงว่า ขณะนี้ กมธ.งบประมาณ 2563 ได้พิจารณาในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 12 หน่วยงาน 1 กองทุน เสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นกระทรวงแรก และกำลังพิจารณาในส่วนของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และหน่วยงานในกำกับ
ทั้งนี้ในส่วนของก.พาณิชย์ ได้ตั้งข้อสังเกตถึงการอนุมัติงบประมาณให้กับ ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) ที่ผลประกอบการต่ำ ไม่สะท้อนเป้าหมายและการอนุมัติงบประมาณของสำนักงบประมาณให้กับองค์กรมหาชน ควรมีกรอบการอนุมัติหรือหลักเกณฑ์ให้ชัดเจน
โดยในสัปดาห์หน้าจะมีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการฯ ขึ้นมาช่วยพิจารณา 5 คณะ ประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมาธิการฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์ ค่าจ้างเหมาบริการ ค่าจ้างที่ปรึกษา การริจัยและถ่ายทอดเทคโนโลยี ค่าเช่า ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ งบดำเนินงาน งบเงินอุดหนุนงบรายจ่ายอื่น องค์การมหาชน หน่วยงานในกำกับ และทุนหมุนเวียน 2.คณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ที่ดิน สิ่งก่อสร้าง และรัฐวิสาหกิจ
3.คณะอนุกรรมาธิการท้องถิ่นจังหวัดหรือกลุ่มจังหวัด (ยกเว้นในกลุ่ม 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้) และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ยกเว้นองค์การบริหารส่วนจังหวัด 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้) 4.คณะอนุกรรมาธิการด้านการศึกษา และทุนหมุนเวียนด้านการศึกษา และ 5.คณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการด้านขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ฯ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังเป็นเพียงการตั้งข้อสังเกต ยังไม่มีการปรับหรือเกลี่ยงบแต่อย่างใด ซึ่งการปรับเกลี่ยงบนั้นจะอยู่ในชั้นของคณะอนุกรรมาธิการฯ
ขณะที่นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ในการประชุม กมธ.ทหาร วานนี้(31 ต.ค.) ได้เชิญปลัดกระทรวงกลาโหม และเสนาธิการเหล่าทัพต่างๆ มาชี้แจงข้อสงสัยกรณีที่งบประมาณกระทรวงกลาโหม จำนวน 233,000 ล้านบาท ในร่างพระราชบัญญัติ( พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ซึ่งหลายรายการไม่ได้แจกแจงรายละเอียดการใช้งบประมาณ โดยเฉพาะงบเกี่ยวกับการจัดซื้ออาวุธ และงบการปรับปรุงสมรรถนะกองทัพ ที่เขียนแค่บรรทัดเดียว
แต่จากการที่ กมธ.ทหาร สอบถามเสนาธิการทุกเหล่าทัพที่มาชี้แจง ต่างไม่ยอมชี้แจงให้ กมธ.ทหาร รับทราบ เหมือนมีสัญญาณบอกมาว่าไม่ให้พูด บอกเพียงสั้นๆ ว่า เป็นเรื่องความมั่นคง และจะไปชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ต่อคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 เท่านั้น ทั้งที่ความจริงแล้ว กมธ.ทหาร มีสิทธิรับรู้ข้อมูล ดังนั้น กมธ.ทหาร จึงแทบไม่ได้ข้อมูลอะไรเลยในการเชิญกองทัพมาชี้แจงในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ตนจะนำเรื่องงบกองทัพไปแปรญัตติอภิปรายในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย วาระ 2 ต่อไป
ด้านนายวันมูหะมัด นอร์มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ(ปช.) กล่าวถึงการทำหน้าที่ กมธ.งบฯ จากที่ได้ฟังกระทรวงพาณิชย์เข้าชี้แจงในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ในภาพรวมมีการซักในประเด็นเป้าหมาย นโยบาย ซึ่งยังไม่ถึงเนื้อหา ไม่ตรงในการแก้ไขปัญหาของประเทศ เพราะประชาชนวันนี้ต้องการให้ดูแลสวัสดิการ การศึกษาให้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น ซึ่งการตัดสินใจเป็นส่วนกลางมากกว่าคนในพื้น เช่น น้ำท่วม การช่วยเหลือทุกอย่างช้าหมด และต้องชมเชยฝ่ายค้านหลายคนที่เคยดูแลงบประมาณมาก่อนมีข้อมูลที่ชัดเจน และซักถามจนเจ้าหน้าที่ตอบไม่ได้ต้องส่งเอกสารตามมาทีหลัง
ส่วนนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลว่า หลายโครงการซ้ำซ้อน เปลืองเงินภาษีของประชาชนโดยใช่เหตุ งบประมาณที่เป็นไขมันส่วนเกิน กมธ.งบประมาณ ซีกฝ่ายค้านก็มีการตรวจสอบและปรับลดลง เพื่อนำงบประมาณส่วนเกินเหล่านั้นเอาไปให้ส่วนที่จำเป็น จากเดิมที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้จ่ายงบประมาณอย่างไรก็ได้ อยากซื้ออาวุธก็ซื้อ ทั้งรถถัง เครื่องบิน เรือดำน้ำ แต่ในสมัยนี้มี ส.ส.คงทำตามใจตัวเองไม่ได้ จะมามั่วเอาภาษีประชาชนไปใช้จ่ายตามใจผู้มีอำนาจเหมือนที่ผ่านมาคงไม่ได้