จบปมยึด พปชร. - สั่งทำคำให้การหักล้าง 'ซิโน-ไทย' ฟ้องคดีรัฐสภาใหม่

ความเคลื่อนไหวภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายหลังกลุ่มสนับสนุนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพปชร. พยายามรวบรวมเสียงของ กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ให้ลาออกจากตำแหน่งเกินครึ่งหนึ่งจาก 34 คน (มากกว่า 17 คน) เพื่อส่งผลให้ กก.บห.ชุดปัจจุบัน พ้นจากตำแหน่งรวมถึงนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง หัวหน้าพรรคพปชร. จะหลุดตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดทางให้ พล.อ.ประวิตร เข้ามาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพปชร. โดยมีรายงานว่าทั้งสองฝั่งมีผู้สนับสนุนเท่ากันที่ 17-17 เสียง ทำให้การเปลี่ยนแปลง กก.บห.พรรคพปชร. ยังไม่มีผล

ล่าสุด วานนี้ (5 พ.ค.) ภายหลังจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เสร็จสิ้นและเดินกลับตึกไทยคู่ฟ้า ได้เรียกนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน และเลขาธิการพรรคพปชร.เข้าพบ เพื่อรายงานการทำงาน รวมถึงสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้นภายในพรรค โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

จากนั้น นายอุตตมให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบว่า ในการพูดคุยมีทั้งเรื่องการทำงานและเรื่องการเมืองท่านได้ให้กำลังใจ และชี้แนะว่าเรื่องของพรรคน่าจะเรียบร้อยได้ด้วยการหารือ ตนและนายสนธิรัตน์จะทำตามนั้น นายกฯยังระบุด้วยว่าในงานที่ทำอยู่ขณะนี้ให้ทำต่อไป ทำด้านไหนอยู่ก็ทำด้านนั้นต่อไป เวลานี้เป็นเวลาทำงาน ไม่อยากให้มีเรื่องอื่นเข้ามาแทรก

ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นการเรียกเคลียร์ใจหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า การพูดคุยมีทั้งเรื่องงานและเรื่องการเมือง เมื่อเราเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ก็ต้องมีเรื่องการเมืองบ้าง จึงถือโอกาสได้เรียนหารือ เมื่อถามว่า มั่นใจมากขึ้นหรือไม่ว่า ตำแหน่งหัวหน้าพรรคจะมั่นคง นายอุตตม กล่าวว่า ตนและนายสนธิรัตน์ทำเต็มที่ ถ้าจะให้มั่นใจก็มั่นใจว่า เราทุ่มเต็มร้อย นายกฯก็บอกว่าให้ทำเต็มที่ ส่วนจะมีการปรับครม.ในช่วงนี้หรือไม่นั้น ตนไม่ได้ถามและนายกฯไม่ได้พูด

เมื่อถามว่า นอกจากคุยกับนายกฯแล้ว ได้คุยกับ พล.อ.ประวิตร แล้วหรือไม่ นายอุตตม กล่าวว่า ตนและนายสนธิรัตน์ให้ความเคารพ พล.อ.ประวิตรอยู่แล้ว และจะไปเข้าพบ พล.อ.ประวิตรเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามไม่มีอะไรเรื่องการเมืองเราพูดคุยกันได้ สุดท้ายจะได้ข้อสรุป

ขณะที่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เร็วๆนี้คงมีโอกาสได้เข้าพบ พล.อ.ประวิตร ไม่มีอะไร ส่วนสถานการณ์ในพรรคนายกฯระบุว่าทุกอย่างยุติแล้ว ก็ไม่มีอะไร อย่าไปมองว่ามีอะไร ซึ่งมันไม่มีทุกอย่างยุติ ทุกคนมุ่งหน้าทำงาน นายกฯย้ำว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งใดๆในช่วงนี้ นายกฯอยากให้มีการพูดคุยเพื่อสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นในพรรค เพื่อจะทำงานกันได้

เมื่อถามว่า จะย้อนกลับไปดูสาเหตุความวุ่นวายแล้วจะกลับไปแก้หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ความเห็นต่างๆก็ไปพูดคุยกัน คิดว่าทุกอย่างอยู่ที่การพูดคุย และคิดว่าพรรคอื่นเขามีปัญหามากกว่าเราอีก เมื่อถามถึงการตั้งกลุ่มไลน์ ส.ส.พรรค พปชร.ใหม่ที่จะเชิญหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และพล.อ.ประวิตร เข้าไปอยู่ด้วย นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เขาตั้งกันแล้วและบอกว่าจะเชิญตน และหัวหน้าพรรค แต่ขณะนี้ยังไม่มีการเชิญแต่อย่างใด และทราบว่าจะเชิญ พล.อ.ประวิตรด้วย แต่ยังไม่ทราบว่าเชิญหรือยัง

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร นำเจ้าหน้าที่รัฐสภาเข้าไปทดสอบระบบต่างๆในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร หรือห้องสุริยัน ครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะใช้สำหรับการประชุมครั้งแรกสำหรับการเปิดประชุมสมัยสามัญในวันที่ 22 พ.ค.นี้ เช่น ระบบเสียง ระบบลงคะแนน ไมโครโฟน เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังให้สื่อมวลชนเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย

อย่างไรก็ตามจากการทดสอบประมาณ 1 ชั่วโมง พบว่าระบบส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเพียงระบบเสียงที่ยังต้องมีการแก้ไข้ เนื่องจากยังมีปัญหาเสียงก้อง โดยทางเจ้าหน้าที่ระบุว่าจะสามารถแก้ไขได้ทันก่อนการเปิดประชุมสภาฯนัดแรก

จากนั้น นายชวน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงภาพรวมการทดสอบระบบเสียงในห้องประชุม “สุริยัน” ว่า ยังพบว่ามีปัญหาเรื่องเครื่องเสียง ซึ่งครั้งที่ผ่านมาพบว่ายังมีเสียงก้อง ซึ่งก็ต้องคอยกำชับสมาชิกว่าเวลาพูดต้องให้ปากอยู่ใกล้ไมโครโฟน และจะมีการทำความสะอาดเป็นระยะๆ ส่วนที่นั่งของประธานและรองประธานก็เช่นกัน หากมีการสลับการทำหน้าที่ก็ต้องทำความสะอาดด้วย

วันเดียวกันนี้ นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ ชี้แจงกรณีบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ยื่นฟ้องสำนักงานเลขาธิการสภาฯต่อศาลปกครองว่า ศาลฯ มีหนังสือถึงสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ให้ทำคำให้การชี้แจง แก้ข้อกล่าวหาของบริษัทซิโน-ไทย ที่เรียกร้องค่าเสียหาย 1,590 ล้านบาท จากการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ล่าช้า นายชวน ได้กำชับให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง กับการทำคำให้การ ดำเนินการเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด โดยพิจารณาด้วยความรอบคอบมากที่สุด และสุจริต

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายละเอียดในเอกสารของศาลปกครองส่งมา มีสำเนาพยานหลักฐานประกอบคำฟ้อง 70,694 แผ่น รวม 154 แฟ้ม 41 กล่อง โดยให้สำนักเลขาสภาฯ ผู้ถูกฟ้องคัดสำเนาภายใน 60 วัน นับจากวันที่รับคำสั่ง (22 เม.ย.) หากไม่ดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด ศาลจะถือว่าผู้ถูกฟ้องยอมรับข้อเท็จจริง ตามข้อหาของผู้ฟ้องคดี