มท.แจ้งทุกจังหวัดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
"กระทรวงมหาดไทย" แจ้งทุกจังหวัดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2563
วันนี้ (28 พ.ค. 63) นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีแจ้งว่าเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2563 รัฐบาลเห็นว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ภายในประเทศลดลงและอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ จึงได้กำหนดแนวทางการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2563 เพื่อให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐได้แสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ กล่าวว่า เพื่อให้การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2563 เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ กระทรวงมหาดไทยได้แจ้งให้ทุกจังหวัดดำเนินการ 1) ประดับพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมเครื่องสักการะ บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัด พร้อมประดับธงอักษรย่อพระนามาภิไธย สท ร่วมกับธงชาติไทย ผ้าระบายสีม่วงและผ้าระบายสีขาว ประดับไฟส่องสว่างบริเวณศาลากลางจังหวัดและถนนสายสำคัญ ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายน 2563 2) จัดทำคำถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2563 พร้อมพระฉายาลักษณ์ บนหน้าเว็บไซต์หลักของจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 มิถุนายน 2563 3) จัดสถานที่ลงนามถวายพระพรชัยมงคล โดยประดับพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมเครื่องราชสักการะ สมุดลงนามถวายพระพรชัยมงคล จัดโต๊ะและเก้าอี้ลงนามถวายพระพรชัยมงคล สำหรับบุคลากรในสังกัดและผู้มาติดต่อราชการได้ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล บริเวณศาลากลางจังหวัดที่เหมาะสม ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 30 มิถุนายน 2563 4) จัดพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2563 ในวันพุธที่ 3 มิถุนายน 2563 เวลา 09.00 น. โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และ 5) จัดกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ “มีแล้วแบ่งปัน” ด้วยการช่วยเหลือและการแบ่งปันแก่ประชาชนหรือชุมชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) เช่น การจัดหาอุปกรณ์สิ่งจำเป็นในการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) การสาธิตการสร้างงานหรือสร้างอาชีพให้แก่ประชาชน การลดรายจ่ายในครัวเรือน หรือพิจารณาตามความเหมาะสม
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงมหาดไทยได้เน้นย้ำให้ทุกจังหวัดดำเนินการมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตามมาตรฐานสาธารณสุข เช่น จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมให้เหมาะสมมิให้แออัด ลดเวลาการทำกิจกรรมให้สั้นลงเท่าที่จำเป็น รักษาระยะห่างระหว่างบุคคล ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และจัดสบู่หรือเจลไว้ทำความสะอาดมือ เป็นต้น