'เสรีรวมไทย' จี้ 'นายกฯ' ชัดเจน ปรับ-ไม่ปรับ ครม. ทีมเศรษฐกิจ
"นภาพร" จี้ "นายก" สร้างความชัดเจน ปรับ-ไม่ปรับ ครม.ทีมเศรษฐกิจ ชี้ ถ้าไม่ดีกว่าเดิม เตรียมนับถอยหลังรัฐบาลได้เลย
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 63 น.ส.นภาพร เพ็ชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า ขอเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งสร้างความชัดเจนเกี่ยวกับการปรับ ครม. เนื่องจากตอนนี้นักลงทุน นักธุรกิจ หรือผู้ประกอบการทั่วไป ต่างก็ต้องการทราบนโยบายหรือมาตรการต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ หลังจากพวกเขาได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มากว่า 3 เดือน
“แทนที่รัฐบาลโดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูเศรษฐกิจ จะเร่งสร้างความชัดเจนหรือความเชื่อมั่นที่รัฐบาลจะใช้ในการแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการภาคส่วนต่าง ๆ เพื่อให้พวกเขากล้าที่จะลงทุนหรือเดินหน้ากิจการ กลับมีแต่ข่าวเรื่องการปรับ ครม.รายวัน จนแม้กระทั่งตัวรัฐมนตรีเองก็ไม่เป็นอันจะทำงาน”
น.ส.นภาพร กล่าวต่อว่า ผู้วางนโยบายเศรษฐกิจตัวจริงคือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กลับแสดงอาการเหมือนคนผีเข้าผีออก คือแทนที่จะช่วยสร้างความมั่นใจ กลับออกมาเตือนหน่วยงานด้านเศรษฐกิจว่ากำลังมีพายุใหญ่ โดยเฉพาะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ยังเข้าไม่ถึงแหล่งทุน หากรัฐยังไม่ช่วยคนจะตกงานอีกจำนวนมหาศาล ทั้งที่ตัวเองก็คือหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่บริหารมาตลอด 6 ปี แต่กลับพูดเหมือนกำลังเตือนคนอื่น
“ สิ่งที่ผู้ประกอบการตกอกตกใจกันมากก็คือ การที่ นายสมคิด พูดเเละเสนอทำนองว่าให้ยุบสภา ในช่วงการแก้เศรษฐกิจยังหัวเลี้ยวหัวต่อ เหมือนกับประเทศสิงค์โปร์ เพื่อที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้งที่พร้อมกว่าเดิม ซึ่งคนก็แปลกใจกันว่า ขนาดตอนนี้พวกท่านมีอำนาจมากขนาดนี้ โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินเหมือนกับตอนยึดอำนาจ ยังบอกว่าไม่พร้อม แล้วแบบไหนที่พวกท่านถึงคิดว่าพร้อม นอกเสียแต่ว่า พวกท่านแก้ไม่ได้ ก็เลยหวังโทษคนอื่น โดยเฉพาะโทษฝ่ายเดียวกันเอง”
น.ส.นภาพร กล่าวต่ออีกว่า หากนายกรัฐมนตรี ยังไม่สร้างความชัดเจนเรื่องปรับ ครม. ผู้ที่จะได้รับผลกระทบคือผู้ประกอบการ นักลงทุน หรือนักธุรกิจทั่วไป ที่กำลังรอความชัดเจน แต่หากปรับทีม ครม.เศรษฐกิจแล้ว ยังไม่ดีกว่าเดิม คนยังไม่เชื่อมั่นเหมือนเดิม ก็น่าจะเตรียมนับถอยหลังรัฐบาลได้เลย เพราะขนาดสถานการณ์ปกติก็ยังแก้ไขอะไรไม่ได้ แล้วสถานการณ์เศรษฐกิจที่วิกฤตยิ่งกว่าปี 2540 ถ้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ไม่ได้เหนือไปกว่าชุดเดิม ก็คงไม่ต้องไปหวังอะไรแล้ว