ผอ.รร.สามเสนฯ แจงไทม์ไลน์นร.เสี่ยงโควิด-19
ผอ.สามเสนวิทยาลัย เผยไทม์ไลน์นักเรียนกลุ่มเสี่ยง พร้อมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค รวมถึงแนวทางในการจัดการเรียนการสอน และได้มีการทำความสะอาดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อกำจัดเชื้อโรค ตามจุดต่างๆ ภายในโรงเรียน
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. 63 นายสหชัย สาสวน ผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย พร้อมด้วยดร.วรรณวิภา สุทธเกียรติ์ หัวหน้าฝ่ายวิชาการ นายพิชัย เนินพัน หัวหน้าฝ่ายบริหารทั่วไป นายสมหมาย ฤาชัย หัวหน้าฝ่ายวิชาการ และนายมารุต ชาบำเหน็จ หัวหน้าฝ่ายบริหารกิจการนักเรียน ได้แถลงลำดับเหตุการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 ของนักเรียนกลุ่มเสี่ยง รวมถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค และแนวทางจัดการเรียนการสอน
นายสหชัย กล่าวว่า โรงเรียนได้รับแจ้งจากผู้ปกครอง 1 ราย ในช่วงเช้าของวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ว่าวันที่ 7-10 กรกฎาคม 2563 ได้นำบุตรของตนเองซึ่งเป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/6 โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยไปจังหวัดระยองโดยเข้าพักที่โรงแรมดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง และวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 ได้มาส่งนักเรียนเข้าเรียนที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ซึ่งในสัปดาห์ที่ 13-17 กรกฎาคม 2563 เป็นสัปดาห์ที่นักเรียนเลขที่คู่ต้องมาโรงเรียน ผู้ปกครองได้รับทราบข่าวจากการประกาศของนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธินโฆษกศบค. เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2563 ว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด -19 เป็นทหาร ลูกเรือเครื่องบินทหาร สัญชาติอียิปต์ อายุ 43 ปี เป็นที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้ามาในประเทศในลักษณะกลุ่มของผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาในประเทศตามภารกิจ หรือมีกำหนดเวลาเดินทางออกนอกราชอาณาจักรที่ชัดเจน กลุ่มนี้เข้ามาได้จะมีที่พักให้ เดิมเป็นโรงแรมแถวสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ทหารและลูกเรือชุดนี้ รวม 31 คนเดินทางออกจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยมีกำหนดการดังนี้ วันที่ 6 กรกฎาคม ไปสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันที่ 7 กรกฎาคม เดินทางไปที่ประเทศปากีสถาน วันที่ 8 กรกฎาคม เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอ. เมืองจ. ระยอง วันที่ 9 กรกฎาคม ออกจากโรงแรมบินไปทำภารกิจทางการทหารที่เมืองเฉิงตู ประเทศจีน เวลาประมาณเที่ยงคืนวันเดียวกัน เดินทางกลับมายังประเทศไทย วันที่ 10 กรกฎาคม ทีม CDCU เข้าตรวจคัดกรองอาการคณะลูกเรือ 31 คน วันที่ 11 กรกฎาคม คณะเดินทางออกจากประเทศไทยกลับอียิปต์ในวันนั้นผลตรวจห้องปฏิบัติการไม่ชัดเจน จึงมีการตรวจซ้ำ จนกระทั่งวันที่ 12 กรกฎาคม ผลตรวจห้องปฏิบัติการยืนยันพบเชื้อโควิด-19 และโรงแรมที่จังหวัดระยองแห่งนี้ถือเป็นสถานที่ที่สัมผัสกับผู้พบเชื้อ เพราะฉะนั้นมาตรการเข้าไปสอบสวนโรคต้องควบคุมโรงแรมนี้ทั้งหมด นอกจากนี้การสอบสวนโรคพบว่าทีมลูกเรือนี้ได้ออกจากโรงแรมไปสถานที่บางแห่งในจังหวัดระยอง ทำให้ทีมสอบสวนโรคจะต้องเข้าไปสอบสวนโรคในพื้นที่ทุกแห่งที่กลุ่มนี้เดินทางไป ตอนนี้พอมีข้อมูลแล้วเช่นห้างสรรพสินค้าใน จ.ระยอง
จากการสอบสวนข้อมูลพบว่าผู้ปกครองซึ่งเป็นบิดาทำงานที่จังหวัดระยอง บิดามารดาได้นำบุตรเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว เวลา 21.30 น. วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม 2563 ถึงที่พักโรงแรมดีวารี ดีว่า เซ็นทรัล ระยอง เวลา 01.00 น. และออกเดินทางกลับเวลา 13.00 น. ในวันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม 2563 โดยวันที่ 8 กรกฎาคมได้รับประทานอาหารเช้าเวลา 7.00 น. ที่โรงแรมอาหารกลางวัน 12.00 น. ที่มาบตาพุด อาหารเย็น 20.00 น. ในห้างแสงทอง วันที่ 9 กรกฎาคมรับประทานอาหารเช้า เวลา 8.00 น. ที่โรงแรมอาหารกลางวัน 12.00 น. ที่มาบตาพุด อาหารเย็น 17.30 น. ร้านอาหารในตัวเมืองระยอง วันที่ 10 กรกฎาคมรับประทานอาหารเช้าเวลา 9.00 น. ที่โรงแรม อาหารกลางวัน 15.00 น. ซื้อที่ร้านสะดวกซื้อใกล้ที่พัก อาหารเย็น 18.30 น. ร้านอาหารแถวมาบยายเลีย พัทยา
ผู้ปกครองแจ้งว่าตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ขอลา เพื่อให้นักเรียนหยุดพักสังเกตอาการ เมื่อโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยรับทราบข้อมูลจึงประชุมคณะกรรมการบริหารของโรงเรียน และมีมติให้ดำเนินการ ดังนี้วันที่ 14 กรกฎาคม 2553 เวลา 8.00-09.50 น. ให้แต่ละห้องเรียนทำความสะอาดและพ่นฆ่าเชื้อเบื้องต้น วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 โรงเรียนประกาศให้นักเรียนหยุดเรียนเป็นการภายใน เพื่อให้ครูและบุคลากรทำความสะอาดโรงเรียนพร้อมทั้งฆ่าเชื้อทั่วบริเวณโรงเรียน โดยนักเรียนเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน 100%
ขณะที่ ดร.วรรณวิภา กล่าวถึงแนวทางการจัดการเรียนการสอนว่า ช่วงเปิดภาคเรียนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 ได้ใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบผสมผสาน การจัดการเรียนการสอนเดิมจัดสลับนักเรียนเลขที่คู่และนักเรียนเลขที่คู่ต่างสัปดาห์กัน โดยสัปดาห์วันที่ 13-17 กรกฎาคม 2563 เป็นสัปดาห์ที่นักเรียนเลขที่คู่มาเรียน และสัปดาห์วันที่ 20 – 24 กรกฎาคม 2563 เป็นสัปดาห์ที่นักเรียนเลขที่คี่มาเรียน ดังนั้นนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงคนดังกล่าวเป็นนักเรียนเลขที่คู่ และผู้ปกครองให้หยุดเรียนตั้งแต่วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อกักตัวดูอาการ โรงเรียนจึงกำหนดให้นักเรียนเลขที่คู่หยุดเรียนในวันที่ 16-17 กรกฎาคม 2563 และจะมาเรียนอีกครั้งในวันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ส่งผลให้นักเรียนเลขที่คู่ทั้งหมดหยุดโรงเรียนจำนวน 14 วันติดต่อกัน เพื่อเป็นการสังเกตอาการ ทั้งนี้โรงเรียนได้มีการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ให้นักเรียนกลุ่มนี้
ดร.วรรณวิภา กล่าวต่อว่า โดยวันที่ 16-17 กรกฎาคมได้สลับตารางการเรียนการสอนในชั้นเรียนปกติที่โรงเรียน (on-site) นักเรียนเลขที่คู่ทั้งหมดหยุดการเข้าชั้นเรียนปกติที่โรงเรียนสลับตารางเรียนเป็นรูปแบบออนไลน์ เนื่องจากมีนักเรียนกลุ่มเสี่ยงและเพื่อนนักเรียนร่วมห้องเรียนที่ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำควรดำเนินการสังเกตอาการ 14 วัน ในขณะที่นักเรียนเลขที่คู่ห้องเรียนอื่น คณะครูและบุคลากรของโรงเรียน ถือเป็นกลุ่มที่ควรดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังปกติ ส่วนตารางเข้าชั้นเรียนปกติที่โรงเรียนของนักเรียนเลขที่คู่ โรงเรียนจะนำไปจัดในเดือนสิงหาคมให้มาเข้าชั้นเรียนปกติที่โรงเรียนในจำนวนวันที่เท่าเทียมกับนักเรียนเลขที่นักเรียนเลขที่คี่ และให้นักเรียนเลขที่คี่ทั้งหมดสลับมาเข้าชั้นเรียนปกติที่โรงเรียนแทน เพื่อบริหารเวลาเรียนในภาคเรียนนี้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องชดเชยการเรียนในวันอาทิตย์ ส่วนคณะครูและบุคลากรของโรงเรียนปฏิบัติงานตามปกติ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ควรดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังปกติตามการยืนยันของศูนย์บริการสาธารณสุข 11 ประดิพัทธ์
นายสหชัย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ศูนย์บริการสาธารณสุข 11 ประดิพัทธ์โดยนางสาวขวัญตา เอื้ออุฬาร นายแพทย์ชำนาญการรักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ฯ และสำนักงานเขตพญาไท โดยนายสินธุ์ชัย บุญปักษ์ ผู้อำนวยการเขตพญาไทและคณะได้เข้าตรวจเยี่ยมและประชุมกับทางโรงเรียน เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ได้ความเห็น ดังนี้ นักเรียนคนดังกล่าวเป็นกลุ่มเสี่ยง นักเรียนในห้องเรียนเดียวกันและครูผู้สอนห้องเรียนนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ ซึ่งในห้องเรียนดังกล่าวมีนักเรียนมาเรียนจำนวน 22 คน ทางโรงเรียนได้ให้นักเรียนและครูที่ทำการสอน หยุดเรียนและสอนเป็นเวลา 14 วันเพื่อเฝ้าดูอาการ ส่วนนักเรียนคนอื่น ๆ ที่มาเรียนในวันเดียวกันเป็นเพียงกลุ่มเสี่ยงเหมือนบุคคลทั่วไป ดังนั้นให้ดำเนินการตามมาตรการการเฝ้าระวัง ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ พกเจลล้างมือ การเว้นระยะห่างทางสังคม ทั้งนี้ศูนย์บริการสาธารณสุข 11 ประดิพัทธ์ และสำนักงานเขตพญาไท ได้สรุปว่าการดำเนินการของโรงเรียนสามเสนวิทยาลัยได้ดำเนินการเหมาะสมกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี
ด้าน นายสมหมาย กล่าวว่า ส่วนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ทางโรงเรียนได้มีจุดคัดกรองครู บุคลากร และนักเรียนเพื่อวัดอุณหภูมิ ตรวจการสวมหน้ากากอนามัยบริเวณทางเข้าโรงเรียน ซึ่งได้เปิดให้นักเรียนเข้าได้ 2 ประตูบริเวณประตูด้านหน้าและด้านข้างโรงเรียน โดยไม่อนุญาตให้ผู้ปกครองเข้ามาภายในโรงเรียน, โรงเรียนได้จัดให้มีจุดล้างมือด้วยสบู่เหลวหรือแอลกอฮอร์อย่างเพียงพอ, โรงเรียนจุดโต๊ะเรียนโดยเว้นระยะห่างทางสังคมห้องเรียนละ 20-25 ตัว, และจัดให้มีการทำความสะอาดห้องเรียนและบริเวณโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ, และแบ่งเวลาพักรับประทานอาหารเป็น 3 รอบ รอบละ 1 ระดับชั้น ห้องละ 20-25 คน เพื่อลดความแออัดในการใช้โรงอาหารและการพักบริเวณรอบโรงเรียน นอกจากนี้ครู บุคลากร และนักเรียนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน
อย่างไรก็ตามการทำความสะอาดในวันนี้ทางโรงเรียนได้ประสานสำนักงานเขตพญามาร่วมทำความสะอาดบริเวณโดยรอบโรงเรียน โดยทางนายสินธุ์ชัย บุญปักษ์ ผู้อำนวยการเขตพญาไท พร้อมเจ้าหน้าที่จากฝ่ายรักษาความสะอาดของสำนักงานเขตพญาไทจำนวน 25 คน รถน้ำจำนวน 3 คัน ได้มาร่วมทำความสะอาดพื้นที่ด้วยการฉีดพ่นน้ำและกวาดทำความสะอาดพื้นถนนภายในโรงเรียน และตามจุดต่างๆ นอกจากนี้ได้มีเจ้าหน้าที่มาพ่นยาฆ่าเชื้อโรคตามห้องเรียนต่างๆ ทุกห้องเรียนตั้งแต่เวลา 09.00-12.00 น. อีกด้วย