คดี 'บอส' ตำรวจทองหล่อเตรียมสรุปส่งฟ้องอัยการ วันที่ 28 ส.ค.นี้
ผู้ช่วยผบ.ตร. แถลงคดี “บอส อยู่วิทยา” ระบุสน.ทองหล่อ เตรียมสรุปส่งฟ้องให้อัยการพิจารณาวันที่ 28 ส.ค.นี้ ก่อนให้ทางกองการต่างประเทศทำคำร้องเสนอตำรวจสากล ออกหมายแดงประกาศสืบจับตามขั้นตอน
ด้านพลตำรวจตรีวรวัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนของตท. วันนี้ได้รับหนังสือจาก สน.ทองหล่อ แจ้งให้ทราบว่ามีการออกหมายจับนายวรยุทธ อยู่วิทยา 3 ข้อหา จึงได้ประสานมายังตท. เพื่อดำเนินการในส่วนการประกาศสืบจับ ทั้งนี้ทาง ตท. เป็นฝ่ายอำนวยการด้านนิติต่างประเทศ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีกรณีที่ผู้ต้องหากระทำความผิดทางคดีอาญาเกิดขึ้นและหลบหนีไปต่างประเทศ โดยไม่แน่ชัดว่าหลบหนีไปประเทศใด แนวทางการสืบหา เพื่อนำตัวบุคคลดังกล่าวกลับมาดำเนินคดี เพื่อให้ศาลลงโทษ จะมีขั้นตอนในการทำหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการประสานงานกับกระทรวงต่างประเทศ และขั้นตอนตำรวจสากล
พลตำรวจตรีวรวัฒน์ กล่าวอีกว่า กรณีการออกหมายแดง เพื่อสืบหาแหล่งที่อยู่บุคคลที่ถูกฟ้องแล้วหลบหนีไป มีเจตนารมณ์ที่จะให้ควบคุมตัวเพื่อนำตัวกลับมาฟ้องร้องดำเนินคดีรับโทษต่อศาลตามช่องทางผู้ร้ายข้ามแดน เป็นนัยยะตาม ป.วิอาญามาตรา 141 วรรค 4 กระบวนการทำคำร้องดังกล่าวมีระเบียบที่เกี่ยวข้อง คือ การปฏิบัติเรื่องของการออกหมายสากลสีแดงนั้น ให้ทำขึ้นกรณีที่พนักงานอัยการได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาหรือศาลได้ตัดสินลงโทษผู้กระทำความผิด เมื่อได้รับแจ้งจากพนักงานอัยการ หรือหน่วยงานหนึ่งหน่วยงานใด ให้ตท. พิจารณาร้องขอ ประกาศตำรวจสากลสีแดง ตามหลักเกณฑ์ที่องค์การตำรวจสากลกำหนด ซึ่งต้องเป็นผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องแล้ว มีอัตราโทษเกิน 2 ปี อย่างไรก็ตาม ตท.จะประสานงานกับ สน.ทองหล่ออย่างใกล้ชิด เมื่อพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง แล้วพนักงานอัยการได้สั่งฟ้องผู้ต้องหารายนี้แล้ว ตท.จะทำคำร้องไปยังสำนักงานตำรวจสากล เพื่อออกหมายแดงประกาศสืบจับนายวรยุทธ ต่อไป
พลตำรวจโทจารุวัฒน์ กล่าวอีกด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบข้าราชการตำรวจพบมีความบกพร่องแต่ไม่ถึงขั้นผิดวินัยร้ายแรง ในจำนวนนี้มีอดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้าข่ายบกพร่องไม่ควบคุมสั่งการให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนการจะเอาผิดกับอดีตตำรวจ ยอมรับว่า หากเข้าข่ายความผิดทางอาญาก็สามารถดำเนินการได้ แต่หากเป็นความผิดทางวินัยก็ไม่สามารถดำเนินการได้ แต่จะเป็นบรรทัดฐานในการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขต่อไป ส่วนจะมีใครต้องรับโทษอย่างไรบ้าง ต้องรอผลการสอบสวนของจเรตำรวจพิจารณาก่อน
พลตำรวจโทจารุวัฒน์ กล่าวถึง ผลความเร็วที่เป็นที่สนใจของสังคม ในส่วนของตำรวจยังยืนยันใช้ผลการคำนวณของกองพิสูจน์หลักฐานเป็นหลัก ส่วนผลการสอบเรื่องการคำนวณความเร็ว พบว่ามีความแตกต่างกัน ซึ่งมีทั้ง 125 กิโลเมตรต่อชั่วโมง , 144 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ผลคำนวณทั้งหมดเกินกว่า 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงตามที่กฎหมายกำหนดแน่นอน ทั้งนี้ยังระบุด้วยว่าเรื่องการทำสำนวนในคดีใหม่นี้ คณะกรรมการฯ ไม่ได้นำพยานเดิมที่อยู่ในสำนวนคดีเก่ามาพิจารณาประกอบเป็นคดีใหม่ เพราะเป็นคดีสิ้นสุดไปแล้ว ส่วนการทำสำนวนคดีใหม่ จะยึดหลักผลการสอบพยานและเทคโนโลยีแทน
อย่างไรก็ตามมีรายงานข่าวว่า สำนวนคดีของนายวรยุทธ ตำรวจ สน.ทองหล่อ จะส่งให้อัยการพิจารณาได้ทันในวันพรุ่งนี้(28 สิงหาคม)