'วิษณุ'แจง'นิพนธ์'ยังไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลรับฟ้อง
"บิ๊กตู่" เผย "ป.ป.ช." ชี้มูลความผิด "นิพนธ์" ไม่เบิกจ่ายค่าซ่อมรถบำรุงทาง ให้ "เอกชน" กว่า 50 ล้าน ไปสู้กันในศาล ด้าน "วิษณุ" แจง "รธน.60" กำหนด ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลประทับรับฟ้อง
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป.ป.ช. ชี้มูลความผิดนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกอบจ.สงขลา ฐานละเลยต่อการปฏิบัติหน้าที่ ไม่อนุมัติเบิกจ่ายงบประมาณให้กับบริษัท พลวิศว์ เทค พลัส จำกัด เป็นค่ารถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ 2 คัน มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท ว่า ป.ป.ช.ชี้มูลแล้ว ก็ไปสู้ในศาล ก็ว่ากันไป ซึ่งนายนิพนธ์ก็ได้ชี้แจงออกมาแล้ว เป็นเรื่องของศาล อย่างไรก็ตาม จะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่นั้น หากชี้ชัดว่าผิดก็กระทบ ซึ่งกติกากรณีจะพ้นหน้าที่ หรือจะต้องถูกออก มีกรณีใดบ้าง กฎหมายเขียนไว้อย่างนั้นว่าเมื่อมีคำตัดสินจะต้องหยุด เมื่อมีคำตัดสินที่ชัดเจนจากระบวนยุติธรรมคือ ศาล ส่วน ป.ป.ช.เป็นเรื่องของการชี้มูล และส่งฟ้องศาล กระบวนการเป็นอย่างนี้
ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากรัฐธรรมนูญ ปี 60 ต่อให้ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดใครก็ตาม ไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีการส่งเรื่องไปถึงศาล และศาลอาจจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนหรือไม่ก็ได้
ทั้งนี้ นายวิษณุ ได้หยิบยกตัวอย่างก่อนหน้านี้ คือกรณีของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ก็เคยถูกส่งเรื่องไปที่ศาล ศาลก็ให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ซึ่งก่อนหน้านี้ เหตุที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะรัฐธรรมนูญ ปี50 กำหนดไว้ให้ต้องหยุดเมื่อ ป.ป.ช.ชี้มูล แต่รัฐธรรมนูญปี 60 มาตรา 235 วรรค 3 ระบุว่าเมื่อศาลฎีกา หรือศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองประทับรับฟ้องให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าจะมีคำพิพากษา เว้นแต่ศาลจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ซึ่งศาลจะสั่งในวันประทับรับฟ้อง แต่ถ้าศาลไม่สั่งอะไรก็ต้องหยุด