‘THREL’9 เดือนปีนี้กำไรวูบ59%

‘THREL’9 เดือนปีนี้กำไรวูบ59%

THREL 9เดือนแรกปีนี้ กำไรสุทธิ 73ล้านบาท ลดลง59% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เหตุเบี้ยรับประกันภัยต่อลด จ่ายสินไหมเพิ่มขึ้น ขณะที่โควิด-19 กระทบราคาสินทริพย์ฉุดรายได้จากการลงทุนลดตาม พร้อมประเมินแนวโน้มโค้งสุดท้ายของปีนี้ ยังต้องจับตาใกล้ชิด หวั่นกระทบภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิต – ตลาดหุ้น

บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3 ปี 2563 แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า ในช่วง9เดือนแรกปี2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 73 ล้านบาท ลดลง59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สาเหตุมาจากกำไรจากการรับประกันภัยต่อ จำนวน 37 ล้านบาทบาท ลดลง72%  เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และมีเบี้ยประกันกัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิ 1,702 ล้นบาท ลดลง1% โดยหลักเกิดจากการขยายงานด้านสัญญาประกันสุขภาพ 49 ล้านบาท หรือ  9% แต่มีการชะลอตัวของสัญญาประกันชีวิตรายสามัญ 22 ล้านบาท หรือ 8%

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัย จำนวน 1,665 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 70 ถ้นบาท หรือคิดเป็น 4% เกิดจากการจ่ายผลประโยชน์และค่าสินไหมทดแทนสุทธิที่เพิ่มขึ้น 54 ล้านบาท คิดเป็น combined ratio 97.4% โดยงานประกันชีวิตแบบดั้งเดิม(Conventional) มี combined ratio 98.1% ในขณะที่งานประกันชีวิตแบบร่วมพัฒนา(Non-conventional) มี combined ratio 96.4%

นอกจากนี้ รายได้เงินลงทุนสุทธิและรายได้อื่น บริษัท มีรายได้จากการลงทุนสุทธิรอบ 9 เดือนของปี 2563 จำนวน 45 ล้านบาท ลดลง36 ล้านบาท หรือคิดเป็น 44% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เกิดจากรายได้จากเงินปันผลและดอกเบี้ยรับลดลง3ล้านบาทกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมลดลง8ล้านบาทและมีกำไรจากการขายหลักทรัพย์ลดลง 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัส COVD-19 ทำให้ราคาสินทรัพย์ปรับตัวลดลง

แต่อย่างไรก็ตาม ในงวดไตรมาส 3 ปี 2563 ภาพรวมปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบจากไตรมาส 2/63 โดยบริษัท มีกำไรสุทธิ38 ปรับเพิ่มสูงขึ้นราว 494% หรือเกือบ 5 เท่า ตามการเติบโตของเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิที่ทำได้ 593 ล้านบาท หรือปรับเพิ่มขึ้นราว 2% และมีรายได้จากการลงทุนและรายได้อื่นเติบโตขึ้น 26% แตะ 20 ล้านบาท

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยปรับลดลงเกือบ 4% อยู่ที่ 570 ล้านบาท สาเหตุสำคัญหลักๆมาจากการบริหารจัดการพอร์ตงานด้านประกันสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น

นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL กล่าวเพิ่มเติมว่า แนวโน้มช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2563 ยังจำเป็นต้องจับตาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างใกล้ชิด ทั้งในด้านของภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังไร้สัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน ขณะที่ตลาดหุ้นยังคงมีความเสี่ยงเกิดความผันผวนในระดับสูงได้ แต่อย่างไรก็ตามเบื้องต้นยังเชื่อมั่นว่าประกันถือเป็นสิ่งจำเป็น ทั้งต่อภาคธุรกิจและผู้บริโภค โดยเฉพาะในเรื่องของการป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

 ดังนั้นบริษัทฯ จึงยังคงมุ่งเน้นการเดินหน้าเจรจาจับมือกับพันธมิตร เพื่อร่วมกันคิดค้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ รวมไปถึงการพัฒนา Digital Platform ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุค New Normal เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตที่มั่นคงยั่งยืนต่อเนื่องในระยะยาว

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจจากแนวโน้มกำลังซื้อผู้บริโภคที่ยังอ่อนแอ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจประกันชีวิตอย่างหลีกเลี่ยง โดยเบื้องต้นคาดภาพรวมธุรกิจประกันชีวิตภายในประเทศปีนี้อาจติดลบราว 2-3% รวมทั้งยังต้องจับตาผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ที่ยังมีความผันผวนสูง เสี่ยงฉุดรั้งราคาสินทรัพย์การลงทุนให้ปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญได้นายสุทธิ กล่าว