'ปศุสัตว์' ปลื้มโควิดดันส่งออกหมูพุ่ง 344 %
"ปศุสัตว์" ชี้นโยบายอาหารปลอดภัย ผนึกโควิด ทำตลาดต่างประเทศอ้าแขนรับ ดันส่งออก หมู เพิ่ม 344 % 1.3 หมื่นล้านบาท ด้านไก่ เพิ่ม 0.67 % มูลค่า 8.9 หมื่นล้านบาท รุ่ง ตลาดต่างประเทศอ้าแขนรับ
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า ภาพรวมการผลิตและการส่งออกสินค้าปศุสัตว์สำคัญ โดยเฉพาะหมูและไก่เนื้อในช่วงที่ผ่านมา ไทยถือเป็นประเทศที่มีความโดดเด่นในระดับโลกด้านมาตรฐานความปลอดภัยในอาหาร (Food Safety) จากการให้ความสำคัญอย่างยิ่ง ทำให้สินค้าปศุสัตว์ไทยเป็นที่ต้องการในตลาดโลก สะท้อนจากความสามารถในการส่งออกหมูและเนื้อไก่สู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง
โดยการดำเนินงานตั้งอยู่บนพื้นฐาน การสร้างสมดุลระหว่างปริมาณการผลิต ที่ต้องเพียงพอกับการบริโภคของประชาชนชาวไทยก่อน ส่วนที่เหลือจากการบริโภคจึงนำมาวางแผนทำการตลาด เพื่อระบายสินค้าส่วนเกิน สร้างเสถียรภาพราคาช่วยเกษตรกรไทย และเป็นการสร้างรายได้เข้าประเทศ
พบว่าในช่วงม.ค.- ต.ค. 2563 การส่งออกสุกรและผลิตภัณฑ์ของไทย ในส่วนของสุกรมีชีวิตปริมาณรวม 2 ล้านตัว เพิ่มขึ้น 344.30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกสุกรขุน 1,9 ล้านตัวและส่งออกสุกรพันธุ์ 1แสนตัว ขณะที่การส่งออกเนื้อสุกรและผลิตภัณฑ์ รวมถึงชิ้นส่วนอื่นๆ รวม 4.3 หมื่นล้านตัน มูลค่า5.1 พันล้านบาท
สำหรับการส่งออกเนื้อไก่และผลิตภัณฑ์ ในช่วง 10 เดือนของปี 2563 ไทยมีปริมาณการส่งออกรวม 7.69 แสนตัน มากกว่าช่วงเดียวของปีก่อนหน้า 0.67% มูลค่ารวม 8.9 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นเนื้อไก่แปรรูป 58.50% ปริมาณ 4.5 แสนตัน มูลค่า 6.2 หมื่นล้านบาท และเนื้อไก่สด 41.50% ปริมาณ 3.1 แสนตัน มูลค่า 2.7 หมื่นล้านบาท โดยตลาดสำคัญของเนื้อไก่แปรรูป คือ ญี่ปุ่น อังกฤษ และอียู ขณะที่เนื้อไก่สดมีญี่ปุ่น จีน และอียู เป็นตลาดส่งออกที่สำคัญ
“ความสำเร็จในการนำสินค้าปศุสัตว์ไทยบุกตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิด-19 นั้น เกิดจากความร่วมมือของทั้งภาครัฐบาล ภาคเอกชน และเกษตรกร ภายใต้ความมุ่งมั่นในการผลักดันให้เกษตรกรและผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสินค้าปศุสัตว์ ตระหนักและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในอาหารมาตั้งแต่ต้น โดยร่วมมือกับภาคผู้ผลิตในการผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานสากลอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันการที่ไทยมีชื่อเสียงทั้งด้านการป้องกันโรคในคนและโรคในสัตว์ติดระดับโลก ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในตลาดโลกได้เป็นอย่างดี"