เช็คด่วน! ธ.ก.ส. โอนเพิ่มหรือหักเงิน 'ส่วนต่างราคาข้าว' ตรวจสอบประกันรายได้เกษตร
เช็คด่วน! ธ.ก.ส. โอนเพิ่มหรือหักเงิน "ส่วนต่างราคาข้าว" เหตุงวดแรก "โครงการประกันรายได้เกษตรกร" คำนวณคลาดเคลื่อน
ติดตามความคืบหน้า (19 พ.ย.) โครงการและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 หรือ การโอน "เงินส่วนต่างประกันราคาข้าว" ให้แก่เกษตรกรชาวนา จากกรณีเกษตรกรชาวนาบางราย มีปัญหาทางบัญชีธนาคาร เช่น บัญชีเงินฝากปิดบัญชีไปแล้ว หรือบัญชีถูกอายัด และโอนเงินไม่ครบหรือเกินกว่าจำนวนจริงนั้น
ล่าสุด น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือ รองโฆษกรัฐบาล เปิดเผยวันนี้ ธ.ก.ส. หรือแจงกรณีการโอนเงินตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2563/64 งวดแรก เมื่อ 16 พ.ย. ไม่ครบหรือเกินกว่าจำนวนจริง จากข้อผิดพลาดของการสลับชนิดข้าวทำให้การคำนวณคลาดเคลื่อน พร้อมเร่งโอนเพิ่มเติมให้ครบตามจำนวนในวันที่ 18 พ.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ประกาศคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เรื่องหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีการการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2563/64 รอบที่ 1 ลงวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่างตามโครงการฯ ดังนี้
ข้าวเปลือกแต่ละชนิด ความชื้นไม่เกิน 15% โดยชดเชยส่วนต่างราคาประกัน
ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 2,911.17 บาท
ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 2,137.45 บาท
ข้าวเปลือกเจ้า 1,222.36 บาท
ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 1,066.96 บาท
ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 2,084.34 บาท
ประกาศราคาอ้างอิงทุก ๆ 7 วัน จนถึงวัน สิ้นสุดโครงการฯ ซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกข้าวแต่ละชนิดรับเงินส่วนต่าง
ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี จะได้รับเงินส่วนต่างสูงสุดถึง 26,674 บาท
ข้าวเหนียว จะได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 33,349 บาท
ข้าวเปลือกเจ้า จะได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 36,670 บาท
ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ได้รับเงินส่วนต่างสูงสุด 34,199 บาท
และข้าวหอมมะลิ จะได้รับเงินส่วนต่างสูงสุดถึง 40,756 บาท
ทั้งนี้ โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2563/64 รอบที่ 1 ธ.ก.ส. หรือ "ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร" รายงานล่าสุดว่า ได้โอนเงินส่วนต่างให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวแล้ว เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 จำนวน 786,380 ราย เป็นเงิน 8,387 ล้านบาท