เปิดข้อชี้แจง 'บิ๊กแดง-บิ๊กบี้' ปมบ้านพักทหาร จับสัญญาณ 'ประยุทธ์' ได้ไปต่อสูงลิบ
“ศาลรัฐธรรมนูญ” ยังคาใจประเด็น ค่าน้ำ-ค่าไฟ ซึ่งในส่วนนี้จะถูกนำมาพิจารณาว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ควักเงินตัวเองจ่าย หรือเป็นเงินที่ทางราชการจ่ายให้ โดย “พล.อ.ณรงค์พันธ์” ชี้แจงว่าระเบียบปี 2548 ให้กองทัพพิจารณาจ่ายค่าน้ำค่าไฟตามความเหมาะสม
ศาลรัฐธรรมนูญนัดหมาย 2 ธ.ค.นี้ อ่านคำวินิจฉัยคดี "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม "บ้านพักทหาร" ที่พรรคเพื่อไทยยื่นผ่าน "ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งให้ศาลรัฐธรรมูญวินิจฉัย
พรรคเพื่อไทยใช้ประเด็นดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีแล้ว โดยตั้งธงว่าเมื่อ ”พล.อ.ประยุทธ์” เกษียณราชการและพ้นจากตำแหน่ง “ผู้บัญชาการทหารบก” ในเดือน ก.ย. ปี 2557 ต่อมามีรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ประกาศใช้ ซึ่งมีบทบัญญัติในมาตรา 184 (3) ที่ห้าม ส.ส.-ส.ว. รับเงินหรือประโยชน์อื่นใดจาก หน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐ และบังคับใช้กับ นายกรัฐมนตรี –รัฐมนตรี ด้วย
ดังนั้นเมื่อ “พล.อ.ประยุทธ์” อาศัยในบ้านพักทหารโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พรรคเพื่อไทยจึงเห็นว่าอาจจะเข้าข่ายที่ถือว่าเป็นการรับประโยชน์ใดจากหน่วยงานราชการ จึงขัดรัฐธรรมนูญ ปี 2560 หรือไม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ‘นายกฯ ประยุทธ์' จะตกเก้าอี้ไหม!? อ่านไทม์ไลน์คดี ‘บ้านพักทหาร’ ก่อนลุ้นศาลรธน.ชี้ชะตา วันนี้!
- เดจาวู 2 ธันวา ‘ประยุทธ์’ รอดหรือร่วง
- เทียบคดี 'สมัคร-ประยุทธ์' ชี้ชะตารัฐบาล
- 3 บก.ฟันธง“ประยุทธ์” รอดปมคดีบ้านพักทหาร
“พล.อ.ประยุทธ์” ทำหนังสือชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญว่า ได้อยู่ในบ้านพักทหารจริง ส่วนที่ไม่ได้ไปอาศัยบ้านพักรับรอง ที่บ้านพิษณุโลก เพราะอยู่ระหว่างการซ่อมแซมปรับปรุง ขณะเดียวกันทีมรักษาความปลอดภัยประจำตัว ให้คำแนะนำว่าบ้านพักทหารที่อาศัยอยู่สะดวกในเรื่องการดูแลความปลอดภัยมากกว่า
โดย “พล.อ.ประยุทธ์” เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเอาไว้ว่า “ผมเป็นนายกฯ มีปัญหาเรื่องการรปภ. ต้องมีสถานที่ที่เหมาะสมในการรปภ. ในฐานะเป็นผู้นำประเทศ แต่ผมก็เตรียมการไปอยู่บ้านของผมอยู่แล้ว”
ฉะนั้นข้อชี้แจงของ “พล.อ.ประยุทธ์” จึงมุ่งไปที่การรักษาความปลอดภัยมากกว่าที่จะให้น้ำหนักไปที่สิทธิในการเข้าอยู่ “บ้านพักทหาร” เพราะสิทธิในการให้เข้าพักอาศัยอยู่ที่ “กองทัพบก” จึงเป็นหน้าที่ของ “กองทัพบก” ที่ต้องชี้แจงกับศาลรัฐธรรมนูญ
มีรายงานว่า “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการกองทัพบก ทำหนังสือชี้แจงว่า ตามระเบียบของกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักบ้านพักทหารปี 2555 พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในบ้านพักรับรอง ไม่ใช่บ้านพักสวัสดิการ และในฐานะที่ทำคุณประโยชน์ต่อประเทศ ทำให้เข้าหลักเกณฑ์ตามระเบียบบ้านพักทหาร ให้สามารถอาศัยอยู่ต่อได้
ในประเด็นดังกล่าวมีการระบุประเภทของ “บ้านพักทหาร” เอาไว้ดังนี้ 1.บ้านพักทหาร : ใช้สำหรับเป็นที่พักของทหารตามตำแหน่ง เช่น จ่า, ร.อ., พ.อ. 2.บ้านรับรอง : ใช้สำหรับ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ เช่น นายผล, 5 เสือทบ., ผบ.ทบ., อดีตผบ.ทบ., อดีต 5 เสือ ทบ.
โดย “พล.อ.อภิรัชต์” การันตีว่า “พล.อ.ประยุทธ์” อาศัยอยู่ในบ้านพักรับรอง ซึ่งมีสิทธิตามที่ระเบียบของกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักบ้านพักทหารปี 2555 ได้กำหนดหลักเกณฑ์เอาไว้
อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า “ศาลรัฐธรรมนูญ” ยังคาใจประเด็น ค่าน้ำ-ค่าไฟ ซึ่งในส่วนนี้จะถูกนำมาพิจารณาว่า “พล.อ.ประยุทธ์” ควักเงินตัวเองจ่าย หรือเป็นเงินที่ทางราชการจ่ายให้ เพราะหากตีความว่าทางราชการจ่ายให้ “พล.อ.ประยุทธ์” อาจจะเข้าข่ายรับเงินหรือประโยชน์อื่นใดจาก หน่วยงานราชการ หน่วยงานรัฐ หรือไม่
ทำให้ในช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการกองทัพบก ต้องส่งหหนังชี้แจงประเด็นดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญอีกรอบ
โดยหนังสือของ “พล.อ.ณรงค์พันธ์” ระบุตอนหนึ่งว่า ตามระเบียบของกองทัพบกว่าด้วยการเข้าพักบ้านพักทหารปี 2548 ข้อ 11 ได้กำหนดหลักเกณฑ์ว่า ให้กองทัพบกพิจารณาความเหมาะสมในการสนับสนุนงบประมาณค่ากระแสไฟฟ้าและน้ำประปา ตลอดจนค่าใช้จ่ายอื่นๆที่จำเป็นต่อการพักอาศัย
เมื่อทั้ง “พล.อ.อภิรัชต์-พล.อ.ณรงค์พันธ์” ต่างทำหนังสือชี้แจงยืนยันต่อ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ว่า “พล.อ.ประยุทธ์” เข้าอยู่บ้านพักทหาร-บ้านพักรับรอง ตามระเบียบของกองทัพบก ด่านต่อไปอยู่ที่ “ศาลรัฐธรรมนูญ” จะเชื่อคำชี้แจงของทั้งสองบิ๊กหรือไม่
โดยมีรายงานว่าแนวโน้มการตัดสินของ “ศาลรัฐธรรมนูญ” มีโอกาสสูงที่ “พล.อ.ประยุทธ์” จะไม่ถูกวินิจฉัยให้พ้นจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี โดยจุดเปลี่ยนหลักคือคำชี้แจงของ “พล.อ.ณรงค์พันธ์” เกี่ยวกับ ค่าน้ำ-ค่าไฟ เพราะภายหลัง “พล.อ.ณรงค์พันธ์” ส่งหนังสือชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ศาลรัฐธรรมนูญออกมาระบุว่ามีหลักฐานเพียงพอสรุปคดีได้แล้ว
อย่างไรก็ตามหากเผื่อใจไว้นิด “พล.อ.ประยุทธ์” ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐธรรมนูญ “พล.อ.ประยุทธ์” ไม่จะติดโทษแบนทางการเมืองทันทีเป็นเวลา 2 ปี
ซึ่งกรณีของ “พล.อ.ประยุทธ์” ต่างจากกรณีของ “สมัคร สุนทรเวช” ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญวิจนิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐธรรมนูญ ชื่อของ “สมัคร” ยังมีสิทธินำกลับมาโหวตให้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้อีก แต่ครั้งนั้นภายในพรรคพลังประชาชน เกิดการเปลี่ยนแปลงส่งชื่อ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน
ดังนั้น “ฝ่ายค้าน” จึงมีลุ้นเล็กๆ หาก “พล.อ.ประยุทธ์” พ้นจากตำแหน่ง รายชื่อผู้ได้รับการเสนอให้ชิงเก้าอี้นายกรัมนตรี จะหมดคู่แข่งคนสำคัญไป และแอบลุ้นรายชื่อคนที่เหลือได้ โดยพรรคเพื่อไทยมีชื่อของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์, นายชัยเกษม นิติสิริ ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลจะมีชื่อของ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
แต่จับสัญญาณทางการเมืองแล้ว มีโอกาสน้อยมากที่ “พล.อ.ประยุทธ์” จะไม่ได้ไปต่อ???