"ปิยบุตร" ขอ6เดือนล่าชื่อ หลักล้าน แก้รัฐธรรมนูญ หวังกดดัน "ส.ว." เปลี่ยนมุมคิด

      นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ ก่อนการเร่ิมกิจกรรม เข้าชื่อของประชาชน เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา 4 ประเด็น ภายใต้ชื่อกิจกรรม ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์ ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ว่า เนื่องในวันครบรอบ 4 ปีของการบังคับใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ถึงเวลาที่ต้องทบทวนเนื้อหา โดยกิจกรรมล่าชื่อประชาชนเพื่อสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รายมาตรา จำนวน 4 ประเด็น คือ ยกเลิกวุฒิสภา , โละศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ, เลิกยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูป และ ล้างมรดกรัฐประหาน ผ่านการยกเลิกมาตรา 272 ว่าด้วยการนิรโทษกรรม คสช. ทั้งนี้การรณรงค์ดังกล่าวเบื้องต้นจะใช้เวลา 6 เดือน จนกว่าจะได้จำนวนชื่อที่มากพอ แม้ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้ใช้รายชื่อประชาชน 50,000 รายชื่อ แต่กิจกรรมดังกล่าวต้องการให้จำนวนหลักแสน หรือถึงหลักล้านคนเพื่อให้เป็นนัยสำคัญ ถึงวุฒิสภา ต่อการเปลี่ยนวิธีคิดของวุฒิสมาชิก และเป็นแรงกดดันส.ว. หากไม่แยแสเสียงเรียกร้องประะชาชน จะทำให้เกิดผลลัพท์ทางการเมืองต่อไป

       “รอบที่แล้ว ไอลอว์ใช้เวลาในการล่าชื่อ 4 เดือน แต่เมื่อเข้ารัฐสภาถูกส.ว. และส.ส.รัฐบาลบางส่วนตีตก มีคนบอกว่าไม่มีหวังจะทำอีกทำไม แต่สิ่งที่ต้องการให้เกิดขึ้นคือการล่าชื่อให้มากกว่าเดิม เพื่อนำไปสู่ปัญหาสำคัญของรัฐธรรมนูญ ดังนั้นหากได้ชื่อหลักล้านคน ส.ว.จะถูกกดดัน” นายปิยบุตร กล่าว

       นายปิยบุตร กล่าวตอบคำถามต่อการไม่กำหนดประเด็นแก้ไขหมวด 1 บททั่วไป และหมวด 2 พระมหากษัตริย์ เพราะต้องการลดเพดาน สร้างแนวร่วมว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ต้องแก้ทำใหม่ทั้งฉบับ ทั้งนี้การรณรงค์ดังกล่าวแม้ไม่ระบุว่าจะแก้ไขทั้ง 2 หมวดดังกล่าว แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่สนใจ แต่ขณะนี้การรณรงค์ต้องทำ 4 ประเด็น เพราะเป็นปัญหาสำคัญของรัฐธรรมนูญ และเป็นกลไกสำคัญที่ขัดขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และสืบทอดอำนาจของคสช.

         ด้าน นายพริษฐ์ วัชรสินธ์ แกนนำกลุ่มรีโซลูชั่น กล่าวว่าสำหรับ 4 ประเด็นที่รณรงค์แก้ไข คือ การเดินคู่ขนานของความต้องการที่นำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยประชาชน โดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)