'พาณิชย์' วอนตรึงราคาเหล็ก ก่อนศึกษาเพิ่มทบทวนค่าเค

'พาณิชย์' วอนตรึงราคาเหล็ก ก่อนศึกษาเพิ่มทบทวนค่าเค

กรมการค้าภายใน ขอผู้ค้าเหล็กตรึงราคาจำหน่าย ขณะกรมบัญชีกลาง-สมาคมก่อสร้าง เร่งทำรายละเอียดราคากลาง ก่อนนำข้อมูลมาพิจารณาทบทวนตามข้อเรียกร้องเอกชน ด้านคมนาคม ไม่ห่วงกระทบลงทุนรัฐเหตุใช้เหล็กน้อย

ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาเหล็กมีราคาพุ่งสูงขึ้นในขณะนี้ โดยในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วนขณะนี้กรมการค้าภายในได้ขอให้ผู้ผลิตเหล็กตรึงราคาจำหน่ายไม่ให้มีการปรับราคาสูงขึ้นเกินกว่าต้นทุนที่แท้จริง

นอกจากนี้ ได้กำหนดแผนการเชื่อมโยงให้กลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างสั่งซื้อเหล็กจากผู้ผลิตเหล็กโดยตรงเพื่อลดต้นทุนด้านราคาลงส่วนหนึ่ง ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กในสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยรับเป็นผู้ประสานงานกับสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ในเรื่องนี้

สำหรับมาตรการดังกล่าวเกิดขึ้นจากที่กรมการค้าภายในและกรมการค้าต่างประเทศได้ประชุมหารือกับสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมผู้ผลิตเหล็ก จำนวน 7 ราย เช่น  สมาคมผู้ผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน

ร้อยตรีจักรา กล่าวถึงกรณีที่อุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างต้องการให้มีการทบทวนแนวทางการกำหนดค่าตัวเลขดัชนีที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของค่างาน (ค่า K) ของงานก่อสร้างภาครัฐนั้น กรมได้ประชุมหารือกับสำนักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ทุกฝ่ายมีความเข้าใจที่ตรงกันในหลักการและเหตุผลของการกำหนดค่า K ซึ่งเป็นการสร้างความเป็นธรรมต่อทั้งหน่วยงานภาครัฐและผู้รับเหมาที่รับงานจากภาครัฐ ที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องการกำหนดราคากลางของงานก่อสร้างภาครัฐด้วย ทั้งนี้ สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จะจัดทำรายละเอียดข้อมูลว่าแนวทางการกำหนดค่า K และการคำนวณราคากลางของหน่วยงานภาครัฐควรมีการทบทวนอย่างไร เพื่อเสนอให้สำนักงบประมาณและกรมบัญชีกลางพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

“กรมการค้าภายในได้สำรวจต้นทุนและราคาจำหน่ายเหล็กในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศเพื่อใช้ในการติดตามและกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ให้มีการฉวยโอกาสปรับราคาสูงขึ้นเกินกว่าต้นทุนที่แท้จริง”

ทั้งนี้ การจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควรจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และการไม่ปิดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542

นายพิศักดิ์ จิตวิริยะวศิน รองปลัดกระทรวง (หัวหน้ากลุ่มภารกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านทางหลวง) กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กรณีที่ราคาเหล็กปรับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งอาจมีผลกระทบต่องานโครงสร้างพื้นฐานของกระทรวงฯ จากการประเมินในขณะนี้พบว่าโครงการลงทุนของกระทรวงคมนาคมส่วนใหญ่อยู่ในช่วงก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งไม่ค่อยมีการใช้เหล็กเป็นวัสดุหลักแล้ว ขณะที่แผนการลงทุนในปี 2565 กระทรวงฯ ยังใช้งบประมาณส่วนใหญ่ก่อสร้างงานถนน ซึ่งมีการใช้เหล็กน้อยมาก

“ราคาวัสดุที่ปรับตัวสูงขึ้น ไม่กระทบต่อโครงการที่ประมูลแล้ว หรือว่าอยู่ระหว่างการก่อสร้าง เพราะโครงการของกระทรวงฯ ส่วนใหญ่จะทำราคาและประกวดราคา ยืนราคาตามที่เอกชนเสนอไว้ แต่ราคาวัสดุที่ปรับสูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อโครงการที่รอประมูลใหม่ ซึ่งกระทรวงฯ ก็ต้องทบทวนราคาให้เป็นไปตามกระทรวงพาณิชย์กำหนด”

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับราคาเหล็กในไทยที่สูงขึ้นในขณะนี้ มาจากต้นทุนเศษเหล็ก และแร่เหล็กในตลาดโลกที่มีราคาสูงสุดในรอบ 4-5 ปี เนื่องจากประเทศจีนได้ลดกำลังการผลิตลง 20% เพราะกังวลเรื่องมลภาวะสิ่งแวดล้อม