GRANDปรับแผนดันรายได้ ซื้อโรงแรมคืนตามกำหนด
GRAND ปรับแผนธุรกิจโรงแรมสู้โควิดหนุนรายได้ ลุ้นท่องเที่ยวเริ่มฟื้นปีหน้า มั่นใจซื้อ "โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน" คืนจากองทรัสต์ GROREITตามกำหน
นายวิทวัส วิภากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แกรนด์ แอสเสท โฮเทลส์ แอนด์ พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ GRAND เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมาส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของธุรกิจโรงแรม แต่บริษัทได้ปรับกลยุทธ์สอดคล้องกับสถานการณ์เพื่อฝ่าวิกฤติครั้งนี้และรองรับการท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมา โดยคาดว่าสถานการณ์น่าจะเริ่มคลี่คลายและการท่องเที่ยวฟื้นตัวกลับมาได้ในปีหน้า
สำหรับการปรับกลยุทธ์ในปีนี้ เช่น การออกแพ็คเกจ Staycation และ Work from Hotel ให้บริการห้องพักและสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมเพื่อการทำงานได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมกับแผนปรับปรุงบริการด้านต่างๆของกลุ่มโรงแรมในเครือทั้ง 5 แห่ง และเพื่อเตรียมความพร้อมสร้างความมั่นใจของความปลอดภัยดังนั้นพนักงานทั้งหมดของกลุ่มโรงแรมจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบในเดือนส.ค.นี้
นอกจากนี้เรายังมีการขยายการลงทุนในธุรกิจถุงมือยาง ที่มีแนวโน้มการเติบโตดี โดยถือหุ้น50.50% ในบริษัท บริษัท แกรนด์ โกลบอล โกลฟส์ จำกัด ทำให้มีรายได้มาเข้าเสริม นอกจากการระดมทุนผ่านกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์แกรนด์ รอยัล ออคิดโฮสพีลิตี้ (GROREIT) ซึ่งเป็นกองทุนทางเลือกในรูปแบบกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นกองทรัสต์ที่มีสัญญาซื้อคืน (REIT with Buy Back)
ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่า ยังจะสามารถสร้างรายได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพื่อซื้อโรงแรม รอยัล ออคิด เชอราตัน กลับคืนมาจากองทุนได้ตามระยะเวลาที่กำหนดในปีที่ 3 ขึ้นไปหรือไม่เกิน 5 ปี และสามารถจ่ายปันผลตามเงื่อนไขกองทุนได้ในปีแรก
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วรรณ กล่าวว่า ทาง บลจ.วรรณยังมีความมั่นใจศักยภาพของเจ้าของสินทรัพย์สามารถนำเงินมาซื้อคืนสินทรัพย์ได้ตามสัญญาระยะเวลา 5 ปี ถึงแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ยังไม่เห็นสัญญาณคลี่คลายลงชัดเจน แต่ทางกองทุนได้ร่วมทำแผนกับทางแกรนด์ประเมินเสี่ยงใน 3 ปีข้างหน้า หากนักท่องเที่ยวและจำนวนผู้เข้าพักโรงแรมยังชะลอตัวไว้ด้วย โดยได้จัดสรรเงินส่วนหนึ่งนำมารองรับการจ่ายผลตอบแทนเงินปันผลให้นักลงทุน ซึ่งมีการการันตีผลตอบแทนในช่วง3ปีแรกไว้ที่ 6% ต่อปี
อย่างไรก็ตามหากเจ้าของสินทรัพย์มาซื้อโรงแรมคืนในปีที่ 5 ตามสัญญาการขายคืนที่ทำไว้ คาดว่าราคาเสนอขายโรงแรมจะเพิ่มเป็น 4.87 พันล้านบาท จะทำให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนราว 8% ต่อปี และหากเจ้าของสินทรัพย์ไม่สามารถมาซื้อโรงแรมที่ขายเข้ากองรีทคืนได้ตามสัญญา ทางกองรีทจะนำสินทรัพย์ไปขายทอดในตลาดได้