‘ไฟเซอร์-ไบออนเทค’ ขอเอฟดีเอ ไฟเขียวใช้วัคซีนกระตุ้นภูมิ
"ไฟเซอร์-ไบออนเทค" ขอเอฟดีเอไฟเขียวใช้วัคซีนกระตุ้นภูมิ ชาวอเมริกันอายุ 16 ปีขึ้นไป
บริษัทไฟเซอร์และไบออนเทคได้ยื่นข้อมูลการทดลองทางคลินิกขั้นต้นต่อคณะกรรมการอาหารและยา (เอฟดีเอ) ของสหรัฐเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยื่นขออนุมัติใช้งานวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ไม่เพียงแต่ผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอเท่านั้น
ไฟเซอร์และไบออนเทค แถลงว่า ในการทดลองเฟสแรกนั้น วัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันสามารถสร้างแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ (neutralizing antibody) เพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งแอนติบอดีชนิดนี้สามารถต้านทานได้ทั้งไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ดั้งเดิม รวมทั้งสายพันธุ์เบตาและเดลตา
อาสาสมัครที่เข้าร่วมการทดลองครั้งนี้ ได้รับวัคซีนโดสที่ 3 เป็นเวลา 8-9 เดือนหลังจากได้รับวัคซีนโดสที่ 2
“ข้อมูลที่เราได้รับจนถึงขณะนี้แสดงให้เห็นว่า วัคซีนโดสที่ 3 ของเราสามารถสร้างแอนติบอดีในระดับที่สูงกว่าการฉีดวัคซีน 2 โดสแรก เรารู้สึกยินดีที่จะยื่นข้อมูลเหล่านี้ต่อเอฟดีเอของสหรัฐ โดยที่เราจะยังคงทำงานร่วมกันเพื่อรับมือกับความท้าทายในช่วงเวลาที่ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด” นายอัลเบิร์ค เบอร์ลา ซีอีโอของไฟเซอร์กล่าว
ทั้งนี้ ไฟเซอร์และไบออนเทค ระบุว่า การประเมินผลการทดลองวัคซีนโดสที่ 3 ในขั้นตอนสุดท้ายนั้น คาดว่าจะเสร็จสิ้นในเร็วๆ นี้ และบริษัทจะยื่นต่อเอฟดีเอของสหรัฐ และหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกเป็นลำดับต่อไป
ถ้อยแถลงดังกล่าวของไฟเซอร์และไบออนเทคมีขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุของรัฐบาลกลางสหรัฐได้อนุมัติการใช้วัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นาให้กับชาวอเมริกันที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ซึ่งรวมถึงผู้ป่วยโรคมะเร็งและเอชไอวี รวมถึงผู้ที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ