SMDปรับเป้าหมายรายได้ปีนี้แตะ1.2พันล้าน
SMDปรับเป้าหมายรายได้ปีนี้แตะ 1,200 ล้านบาท หลัง Backlog เพิ่มเป็น 300 ล้านบาท ล่าสุดเซ็นสัญญาส่งมอบเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดให้สำนักอนามัยกรุงเทพฯ
นายวิโรจน์ วสุศุทธิกุลกานต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซนต์เมด จำกัด (มหาชน) หรือ SMD ผู้ดำเนินจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์เฉพาะทางด้านระบบการหายใจและช่วยชีวิตเปิดเผยว่า แม้ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ของประเทศไทยมีแนวโน้มดีขึ้น แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ป่วยติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย ทำให้การตรวจคัดกรองผู้ป่วยเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งนอกจากการเฝ้าระวังสังเกตอาการได้ด้วยตัวเองจากภายนอกแล้ว ปัจจุบันยังสามารถวัดผลได้จากค่าปริมาณความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือด (Oxygen Saturation) โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Fingertip Pulse Oximeter อีกทั้งเครื่องมือชนิดนี้ยังใช้ใน Home Isolation และ Community Isolation อีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการใช้ของครุภัณฑ์การแพทย์ดังกล่าว จึงนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดจากปลายนิ้ว (Fingertip Pulse Oximeter) ที่ได้รับการอนุญาตให้นำเข้าจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ให้แก่โรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชน
ล่าสุด SMD ได้เซ็นสัญญาซื้อขายและส่งมอบเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด จำนวน 10,000 เครื่อง มูลค่ารวม 8,000,000 บาท ให้กับกองสร้างเสริมสุขภาพ สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร ไปแล้ว ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และเซ็นสัญญาซื้อขายเพิ่มอีก จำนวน 25,000 เครื่อง มูลค่า 20,000,000 บาท เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา กำหนดส่งมอบภายในปีงบประมาณ 2564 รวมมูลค่าการสั่งซื้อ ทั้ง 2 สัญญา เป็นเงิน 28,000,000 บาท ซึ่งสนับสนุนมูลค่างานในมือที่รอส่งมอบ (Backlog) เพิ่มเป็นไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดภายในปี 2564 นี้ ส่งผลให้ผลการดำเนินงานในปี 2564 แตะ 1,200 ล้านบาท
"ความต้องการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องมือแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่ง SMD ได้ตระหนักถึงความต้องการ จึงได้นำเข้าเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดเพื่อจัดจำหน่ายให้แก่โรงพยาบาลรัฐ เอกชน นิติบุคคล และบุคคล รองรับความต้องการที่มีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเครื่องวัดออกซิเจนในเลือดที่ซื้อขายในครั้งนี้ มีเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่สนับสนุนที่จะทำให้การเฝ้าระวัง ป้องกัน ติดตามระดับความรุนแรงของการติดเชื้อโควิด 19 มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น"