เช็คเส้นทาง! หลายจังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วม ทางหลวงวิ่งไม่ได้ 29 แห่ง
กรมทางหลวง รายงานสถานการณ์อุทกภัยบนทางหลวงวันที่ 30 ก.ย. 64 เวลา 16.30 น. การจราจรผ่านไม่ได้ 29 แห่ง พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อวันที่ 30 ก.ย.64 กรมทางหลวง ขานรับข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกปลอดภัยให้กับประชาชน จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ พร้อมดำเนินการตามแผนป้องกันสาธารณภัยอย่างเคร่งครัด และมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง
โดยเตรียมความพร้อมในการป้องกัน การฟื้นฟู และการเยียวยาหลังสถานการณ์คลี่คลายในทุกมิติ เพื่อช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที
สำหรับสถานการณ์ประจำวันที่ 30 กันยายน 2564 เวลา 16.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุด จำนวน 18 จังหวัด ( 64 สายทาง 91 แห่ง) โดยการจราจรผ่านไม่ได้ทั้งสิ้น 29 แห่ง ดังนี้
จ.ชัยภูมิ (การจราจรผ่านไม่ได้ 3 แห่ง)
- ทล. 2170 วัดปทุมชาติ – หนองจาน ช่วง กม.ที่ 0+500 – 3+600 ระดับน้ำสูง 40 ซม.
- ทล. 2179 จัตุรัส – บำเหน็จณรงค์ ช่วง กม.ที่ 0+500 – 4+100 น้ำกัดเซาะคอสะพาน
- ทล. 225 หนองบัวระเหว – ชัยภูมิ ช่วง กม.ที่ 230+913 น้ำกัดเซาะคอสะพาน
จ.ขอนแก่น (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล. 2065 พล – ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+000 – 34+500 ระดับน้ำสูง 40 ซม.
จ.อ่างทอง (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล. 33 นาคู-ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000 – 36+400 (จุดกลับรถใต้สะพานฝั่งป่าโมก) ระดับน้ำสูง 35 ซม.
จ.สุโขทัย (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง)
- ทล. 12 ตอน เมืองเก่า – สุโขทัย ช่วงกม.ที่ 166+230 – 171+270 ด้านซ้ายทาง ระดับน้ำสูง 40 ซม.
- ทล. 101 คลองโพธิ์ – ท่าช้าง ช่วง กม.ที่ 79+969 – 82+000 ระดับน้ำสูง 50 ซม.
- ทล. 125 แจกัน – บ้านสวน ช่วง กม.ที่ 14+450 – 19+400 ด้านซ้ายทาง ระดับน้ำสูง 50 ซม.
- ทล. 1347 วัดโคก – สระบัว ช่วง กม.ที่ 0+000 – 5+284 ด้านซ้ายทาง ระดับน้ำสูง 20 ซม.
- ทล. 1195 สุโขทัย – เตว็ดใน ช่วง กม.ที่ 0+000 – 1+900 ระดับน้ำสูง 30 ซม.
จ.ลพบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 5 แห่ง)
- ทล. 2243 บัวชุม – สี่แยกบัวชุม ช่วง กม.ที่ 0+340 สะพานทรุดตัว
- ทล. 2243 บัวชุม – สี่แยกบัวชุม ช่วง กม.ที่ 0+800 -2+500 ด้านซ้ายและขวาทาง ระดับน้ำสูง 50 ซม.
- ทล. 2243 บัวชุม – สี่แยกบัวชุม ช่วง กม.ที่ 1+400 ทางขาด ระดับน้ำสูง 40 ซม.
- ทล. 205 คลองห้วยไผ่-เทศบาลลำนารายณ์ ช่วง กม.ที่ 68+000 – 71+000 ระดับน้ำสูง 40 ซม.
- ทล. 205 เทศบาลลำนารายณ์ – ช่องสำราญ ช่วง กม.ที่ 80+700 -81+200 ด้านซ้ายและขวาทาง ระดับน้ำสูง 60 ซม.
จ.กำแพงเพชร (การจราจรผ่านไม่ได้ 4 แห่ง)
- ทล. 1 ตอน โนนปอแดง – ปากดง ช่วง กม.ที่ 419+036 (จุดกลับรถคลองพะยอม) ระดับน้ำสูง 220 ซม.
- ทล. 1 ตอน โนนปอแดง – ปากดง ช่วง กม.ที่ 432+030 (จุดกลับรถคลองสุวรรณ) ระดับน้ำสูง 180 ซม.
- ทล. 1 ตอน โนนปอแดง – ปากดง ช่วง กม.ที่ 431+701 (จุดกลับรถคลองสุวรรณ) ระดับน้ำสูง 180 ซม.
- ทล. 1117 ตอน คลองแม่ลาย-อุ้มผาง ช่วง กม.ที่ 432+030 ดินสไลด์ด้านซ้ายทางและขวาทาง
จ.พระนครศรีอยุธยา (การจราจรผ่านไม่ได้ 4 แห่ง)
- ทล. 32 นครหลวง – อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถใต้สะพานคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 100 ซม.
- ทล. 32 นครหลวง – อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 39+843 (จุดกลับรถใต้สะพานวัดดอกไม้) ระดับน้ำสูง 55 ซม.
- ทล. 32 นครหลวง – อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 43+719 (จุดกลับรถใต้สะพานหลวงปู่ทวด) ระดับน้ำสูง 90 ซม.
- ทล 3263 หน้าโคก – เสนา ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 100 ซม.
จ.สุพรรณบุรี (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)
- ทล. 33 สุพรรณบุรี - นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 สะพานคลองทับน้ำ ระดับน้ำสูง 55 ซม.
- ทล. 340 สาลี - สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม ระดับน้ำสูง 100 ซม.
จ.นครสวรรค์ (การจราจรผ่านไม่ได้ 2 แห่ง)
- ทล. 1 บ้านหว้า – วังไผ่ ช่วง กม.ที่ 339+600 ใต้สะพานเดชาติวงศ์ ระดับน้ำสูง 120 ซม.
- ทล.11 ตากฟ้า – ไตตาล ช่วง กม.ที่ 68+725 น้ำกัดเซาะคอสะพาน
จ.อุทัยธานี (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล. 3456 หนองกระดี่ – คลองข่อย ช่วง กม.ที่ 3+604 สะพานโคกหม้อ ระดับน้ำสูง 80 ซม.
จ.ตาก (การจราจรผ่านไม่ได้ 1 แห่ง)
- ทล. 1175 ห้วยส้มป๋อย – เจดีย์ยุทธหัตถี ช่วง กม.ที่ 55+300 คันทางทรุดตัว
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่คาดว่าจะเกิดความสุ่มเสี่ยง พร้อมขอให้ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด และหากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1