ครม.สัญจรเคาะดึง 3 งานระดับโลกมาจัดไทยดันเงินสะพัดแสนล้าน
ครม.สัญจร “กระบี่” เตรียมเคาะประมูลจัดมหกรรมระดับ มหกรรมพืชสวนโลก 2 ครั้ง ปี 2569 และ 2572 ดันภูเก็ตเจ้าภาพเอ็กซ์โป 2028 ใช้เงินลงทุน 1.09 หมื่นล้านบาท
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ เปิดเผยว่า ทีเส็บเตรียมนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) จ.กระบี่ พิจารณาให้ทีเส็บไปประมูลเพื่อเสนอเป็นเจ้าภาพการจัดงานระดับโลก 3 งาน คือ
1.การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ปี 2569 (ค.ศ.2026) จ.อุดรธานี
2.การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ปี 2572 (ค.ศ.2029) จ.นครราชสีมา
3.การจัดงานเอ็กซ์โป 2028 ภูเก็ต ไทยแลนด์ ปี 2571
โดยทั้ง 3 งานเสริมภาพลักษณ์ให้เป็นการยอมรับและจะเกิดการพัฒนาต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเพื่อรองรับนักเดินทางจากทั่วโลก ขณะที่พื้นที่หลังจัดงานสามารถพัฒนาเป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ได้ด้วย
“ข้อเสนอต่อ ครม.ครั้งนี้ จะยังไม่ของงบประมาณ แต่จะขอเมื่อชนะประมูลแล้ว และทั้ง 3 งานในกรณีที่ไทยได้เป็นเจ้าภาพจะใช้งบลงทุนก่อสร้างรวม 10,960 ล้านบาท จะสร้างเงินสะพัด 100,173 ล้านบาท เพิ่มมูลค่าจีดีพี 68,520 ล้านบาท ขณะที่ภาครัฐมีรายรับจากภาษี 20,641 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 230,442 คน”
ทั้งนี้ การลงทุนและตัวชี้วัดเป็น 1.การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกอุดรธานี ปี 2569 เป็นการจัดงานแสดงพืชสวนใหญ่ที่สุดในโลก ในกรณีไทยเป็นเจ้าภาพจะลงทุน 2,900 ล้านบาท มีผู้เข้าร่วม 3.6 ล้านคน จาก 20 ประเทศ เป็นคนไทย 70% และชาวต่างชาติ 30% สร้างเงินสะพัด 32,000 ล้านบาท เพิ่มมูลค่าจีดีพี 20,000 ล้านบาท เพิ่มรายรับภาษี 7,700 ล้านบาท จ้างงาน 81,000 คน โดยใช้เงินทีเส็บประมูล 4 ล้านบาท ดูจากคู่แข่งแล้วมีโอกาสชนะสูง
2.การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลกนครราชสีมา ปี 2572 (ค.ศ.2029) ใช้เงินลงทุน 4,280 ล้านบาท มีเป้าหมายมีคนเข้าร่วม 2-4 ล้านคน เป็นคนไทย 85% และต่างชาติ 15% จาก 30 ประเทศ สร้างเงินสะพัด 18,942 ล้านบาท เพิ่มมูลค่าจีดีพี 9,163 ล้านบาท เพิ่มรายได้ภาษี 3,429 ล้านบาท เกิดจ้างงาน 36,003 คน ใช้เงินทีเส็บประมูล 6 ล้านบาท
3.การจัดงานเอ็กซ์โป 2028 ภูเก็ต ไทยแลนด์ ปี 2571 โดยเป็นเอ็กซ์โปวาระพิเศษ นำเสนอโครงการยกระดับท่องเที่ยวเชิงสุขภาพจังหวัดภูเก็ต สู้เมืองท่องเที่ยวระดับโลก โดยใช้โรงพยาบาลวชิรภูเก็ตเป็นสถานที่จัดงาน หากไทยได้รับเลือกจะส่งผลให้ภูเก็ตเป็นจุดหมายด้านศุนย์กลางสุขภาพนานาชาติ ใช้เงินลงทุน 4,180 ล้านบาท มีเป้าหมายคนเข้าร่วม 4.92 ล้านคน เป็นไทย 54% และต่างชาติ 46% จาก 106 ประเทศ สร้างเงินสะพัด 49,231 ล้านบาท เพิ่มมูลค่าจีดีพี 39,357 ล้านบาท
รวมทั้งเพิ่มรายได้ภาษี 9,512 ล้านบาท จ้างงาน 113,439คน โดยใช้เงินทีเส็บประมูล 2.2 ล้านบาท งานนี้มีโอกาสชนะค่อนข้างสูง