จีนห่วงจลาจลหมู่เกาะโซโลมอนเผาไชน่าทาวน์
รัฐบาลปักกิ่งกังวลอย่างยิ่งกับเหตุจลาจลต้านรัฐบาลในหมู่เกาะโซโลมอนถึงขั้นเผาอาคารหลายแห่งในย่านไชน่าทาวน์
นายเจ้า หลี่เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลง “เรากังวลอย่างมากกับเหตุการณ์โจมตีพลเมืองและองค์กรจีนจำนวนหนึ่ง รัฐบาลปักกิ่งขอให้รัฐบาลหมู่เกาะโซโลมอนใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นปกป้องพลเมืองจีน”
ทั้งนี้ หมู่เกาะโซโลมอนเกิดการประท้วงรุนแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 บานปลายกลายเป็นการจลาจล ปล้นสะดม และเผาอาคารหลายหลัง ผู้ประท้วงหลายพันคนรวมตัวกันในกรุงโฮนิอารา ท้าทายคำสั่งล็อกดาวน์ของรัฐบาลและลงถนนเรียกร้องให้ปลดนายกรัฐมนตรีมานาสเซห์ โซกาวาเร
ชนวนความขัดแย้งมากจากประชาชนประสบปัญหาเศรษฐกิจรุนแรงจากโควิด-19 ระบาด ประกอบกับความขัดแย้งที่มีมายาวนานระหว่างประชาชนบนเกาะมาลาอิตาที่มีประชรกรมากที่สุดของประเทศ กับรัฐบาลกลางบนเกาะกัวดัลคานัล
วันนี้ (25 พ.ย.) อาคารหลายหลังในย่านไชนาทาวน์ของกรุงโฮนิอาราถูกเผา รวมถึงอาคารพาณิชย์และสาขาธนาคารแห่งหนึ่ง
ความไม่สงบเริ่มต้นตั้งแต่วันพุธ (24 พ.ย.) เมื่อผู้ประท้วงพยายามบุกเข้าไปในรัฐสภาเพื่อปลดนายกฯ บุกสถานีตำรวจ เพื่อตัดกำลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชาวบ้านคนหนึ่งเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า ม็อบเคลื่อนไปทั่วเหตุการณ์ตึงเครียดมาก
เดิมทีนายกฯ โซกาวาเรยืนกรานว่า รัฐบาลคุมสถานการณ์ทั้งหมดไว้ได้แล้ว “ประเทศปลอดภัย ผู้ก่อจลาจลต้องถูกลงโทษตามกฎหมายขั้นสูงสุด” แต่ภายในไม่กี่ชั่วโมงกรุงโฮนิอาราก็ถูกเผาควันหนาทึบพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า จนนายกฯ ซาโกวาเรต้องขอให้ออสเตรเลียส่งทหารมาช่วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน ส่งทหารและตำรวจ 100 นายมายังหมู่เกาะโซโลมอนทันทีและจะคงอยู่หลายสัปดาห์ แตกต่างภารกิจรักษาสันติภาพในโซโลมอนครั้งล่าสุดที่กินเวลาตั้งแต่ปี 2546-2560 ใช้งบประมาณราว 2.2 พันล้านดอลลาร์
“รัฐบาลออสเตรเลียไม่ตั้งใจแทรกแซงกิจการภายในของหมู่เกาะโซโลมอนแต่อย่างใด เป็นหน้าที่ของพวกเขาเองที่ต้องแก้ปัญหา วัตถุประสงค์ของเรามาที่นี่เพื่อสร้างความปลอดภัยและเสถียรภาพ” นายกฯ ออสเตรเลียกล่าว