นายกฯย้ำจุดยืนรัฐบาลไม่เลิก โครงการจะนะ พร้อมถก ครม.หาทางออกเหมาะสม
"ประยุทธ์" ย้ำจุดยืนรัฐบาลเดินหน้าโครงการจะนะหวังสร้างรายได้ประชาชนในพื้นที่ ระบุเลิกโครงการไม่ได้เพราะมีกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้องอยู่ พร้อมทำ EHIA เพื่อให้มีทางออกของโครงการ เตรียมนำเข้าหารือใน ครม.พรุ่งนี้ พร้อม "สุพัฒนพงษ์" พร้อมทำเต็มที่หาทางออกโครงการ
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา ว่าเรื่องนี้รัฐบาลต้องการให้ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น การดำเนินการโครงการต่างๆมีข้อกฎหมายอยู่จะให้ยกเลิกโครงการไปเลยคงทำไม่ได้ แต่จะต้องมาดูข้อเสนอในเรื่องที่ต้องทำเพิ่มเติม ทั้งกระบวนการมีส่วนร่วม การทำการประเมินผลกระทบทางสุขภาพ และการประเมินผลทางสิ่งแวดล้อม (EHIA) ซึ่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำเพิ่มเติมได้
ทั้งนี้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันพรุ่งนี้ (14 ธ.ค.) จะนำเอาเรื่องนี้เข้าไปหารือกันใน ครม.ร่วมกับคณะกรรมการที่รัฐบาลได้มีการแต่งตั้งขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้
"ขอให้อย่ามีการชุมนุมกันเลย รัฐบาลก็พยายามที่จะแก้ไข ตั้งกรรมการขึ้นมา และรับฟังข้อมูล มีการตรวจสอบข้อมูลในด้านต่างๆในโครงการ ซึ่งพรุ่งนี้จะมีการหารือเรื่องนี้ใน ครม.ที่ผ่านมานายกฯก็ไม่ได้มีวันหยุดเลย" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ด้านนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการดำเนินการขยายผลโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต หรือนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา
เปิดเผยว่าได้การพูดคุยกับกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ตนได้ไปรับฟังและพูดคุยกับแกนนำกลุ่มดังกล่าวเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อถามว่าได้ข้อสรุปอย่างไร นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ในวันนี้ (13 ธ.ค.) จะมีประชุมกับคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง
ต่อข้อถามว่าจะพูดคุยกับแกนนำกลุ่มนี้อย่างไรเพื่อไม่ให้มีการปักหลักชุมนุมกดดันรัฐบาล รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ต้องพยายามเต็มที่
เมื่อถามย้ำว่าถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมมาปักหลักกดดันอยู่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล จะต้องออกไปพูดคุยกันอีกครั้งหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ก็ยังไม่ทราบ ขอเวลาทำการบ้านหาข้อเท็จจริงก่อน ซึ่งการพูดคุยกันเมื่อวันที่ 12 ธ.ค.ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่าจะต้องไปลงพื้นที่ดูข้อเท็จจริงและรับฟังปัญหาโดยตรง ที่อ.จะนะ จ.สงขลา ด้วยหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ก็คงต้องเป็นอย่างนั้น