หมอผู้เสียหายเคลื่อนไหวถูก "พิมรี่พาย" โชว์เอกสารข้อมูลส่วนตัวกลางไลฟ์
หมอผู้เสียหายเคลื่อนไหวถูก "พิมรี่พาย" โชว์เอกสารข้อมูลส่วนตัวกลางไลฟ์โดยไม่ได้รับอนุญาต เผยกระทบไปถึงพ่อแม่ที่บ้าน รวมถึงคลินิกที่ตนเองเคยทำงานก่อนที่จะมาต่างประเทศ
ประเด็นร้อนกรณีที่ นางสาวพิมรดาภรณ์ เบญจวัฒนะพัชร์ หรือ "พิมรี่พาย" แม่ค้าออนไลน์ชื่อดังจากที่มีการแฉว่า อิสคิวท์ คลินิกเวชกรรม สาขาห้วยขวาง ที่เธอเป็นหุ้นส่วนนั้น มีผู้แอบอ้างชื่อแพทย์ประจำคลินิกเข้ามาสมัครทำงาน ซึ่งแพทย์ที่ถูกแอบอ้างชื่อปัจจุบันอยู่ที่ต่างประเทศ และไม่เคยทำงานให้คลินิกแห่งนี้แต่อย่างใด เรื่องนี้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สบส.เผยจำนวนเหยื่อหมอเถื่อนคลินิกพิมรี่พายช่วง 3 วัน
- ปมร้อน "พิมรี่พาย" กัลเดอร์มา ไม่เคยขายผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ให้ อิสคิวท์คลินิก
- ดราม่าคลินิก "พิมรี่พาย" เปิดวิธีเช็ค "หมอจริง" "หมอปลอม" ก่อน "ศัลยกรรม"
ขณะที่ในเวลาต่อมานั้น "พิมรี่พาย" ได้ไปทำการแจ้งความ โดย นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า หมอเถื่อนรายดังกล่าวเริ่มให้บริการฉีดสารเสริมความงาม (ฟิลเลอร์/โบท๊อกซ์) ณ อิสคิวท์ คลินิก เวชกรรม สาขาห้วยขวาง ในวันที่ 12-14 ธันวาคม 2564 โดยมีผู้รับบริการจำนวน 12 ราย ก่อนที่ทางคลินิกจะสืบทราบทำให้ผู้ต้องสงสัยหลบหนีไป
ด้าน "พิมรี่พาย" ประกาศจ่าย 1 แสนบาทหากพบเบาะแสของหมอปลอมรายนี้ และเตรียม และจะติดต่อลูกค้าเพื่อแสดงความรับผิดชอบ พร้อมเยียวยาทั้งกายใจ และจะทำหนังสือขอโทษคุณหมอหยก หรือ หมอปิยนุชตัวจริงด้วยที่ทำให้เสียหายต่อไปนั้น
อย่างไรก็ตาม พิมรี่พาย ไลฟ์ชี้แจงพร้อมขอโทษ แต่ในช่วงหนึ่งของการไลฟ์ พิมรี่พาย ได้โชว์เอกสารส่วนตัวของคุณหมอหยก หรือ หมอปิยนุช ที่ถูกแอบอ้าง ซึ่งสร้างความไม่สบายใจแก่หมอผู้เสียหายเป็นอย่างมาก
โดย หมอหยก ได้เคลื่อนไหวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า "ขอพูดในฐานะผู้เสียหายหน่อยนะคะ สืบเนื่องมาจากการไลฟ์ของคุณพิมรี่พายเมื่อวานนี้ หยกรู้สึกไม่สบายใจกับการที่ถูกเอาเอกสารข้อมูลส่วนตัวมาไลฟ์โดยไม่บอกกล่าว (ถ้าทราบจะขอให้เบลอข้อมูลส่วนตัวก่อน) ทำให้มีนักข่าวได้ข้อมูลจากตรงนี้และบุกไปรบกวนคุณพ่อคุณแม่ถึงที่บ้านแล้วยังไปรบกวนคลินิกที่หยกเคยทำก่อนที่จะมาต่างประเทศอีก
ตั้งแต่เกิดเรื่อง หยกไม่เคยได้รับการติดต่อจากทาง est cute clinic หรือทางคุณพิมรี่พายแต่อย่างใด ตามที่ให้ข่าวบอกว่าติดต่อหยกไม่ได้ ซึ่งหยกมีช่องทางให้ติดต่อและใช้ชี้แจงตามที่สื่อต่างๆ ได้แชร์ไป
ถามว่า หยกต้องการอะไร คุณพิมรี่พายก็ขอโทษ (ผ่านสื่อ) ทำไมไม่ไปฟ้องคนที่ปลอมแปลงเอกสาร และแอบอ้าง อันนี้ไม่ต้องห่วงนะคะ ทุกอย่างไปตามขั้นตอนทางกฎหมายอยู่แล้วค่ะ
แต่หยกก็ยังหวังจะเห็นการแสดงความรับผิดชอบอย่างจริงใจจากทางคลินิกและทางคุณพิมรี่พายนะคะ ปฏิเสธไม่ได้ว่าในฐานะผู้ประกอบการของวิชาชีพทางการแพทย์ทั้งหลาย เจ้าของคลินิกและผู้มีใบอนุญาตประจำคลินิกมีหน้าที่ตรวจสอบเเละคัดกรองคนที่จะเข้ามาทำงานในคลินิกของตน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพทย์อย่างละเอียดถี่ถ้วน มิใช่เพียงแค่อ้างว่าใส่แมสก์ทำให้ไม่เห็นหน้าตาหรือเชื่อถือเพียงแค่เอกสารไม่กี่แผ่น โชคดีที่ครั้งนี้มีคนทราบว่าคนที่ทำงานในคลินิกดังกล่าวเป็นหมอปลอมและยังไม่มีคนไข้คนไหนได้รับอันตราย
อันตรายดังกล่าวจากการฉีดกับหมอปลอมมีตั้งแต่ปวดบวมเล็กน้อยไปจนถึงเข้าเส้นเลือด ผิวหนังไม่มีเลือดมาเลี้ยง ตาบอด ฯลฯ
อยากให้ลองคิดตามว่า หากมีใครเป็นอะไรขึ้นมา แล้วสังคมเข้าใจว่าหยกเป็นคนทำ แบบนี้หยกจะมีที่ยืนในสังคมได้อย่างไร ความน่าเชื่อถือและสิ่งที่สะสมมา การพิสูจน์ตัวตนเข้าทำงานในอนาคต กระทบหมดเลยนะคะ
ตอนที่หยกเเสดงตัวว่าเป็นหมอตัวจริงโดนแอบอ้าง ยังมีคนกล่าวหาว่าหยกเป็นหมอปลอม ด่าทอด้วยคำพูดหยาบคาย เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบต่อชื่อเสียงและจิตใจมากจริงๆ ช่วยเข้าใจหน่อยนะคะ ที่ต้องออกมาโพสต์แบบนี้
CR เฟซบุ๊ก หมอหยก