กรมชลฯ พร้อมบริหารจัดการน้ำฤดูฝนเดือนสุดท้ายควบคู่ไปกับการเก็บกักใช้แล้งหน้า
สถานการณ์ฝนเริ่มคลี่คลาย กรมชลฯ พร้อมบริหารจัดการน้ำฤดูฝนเดือนสุดท้ายควบคู่ไปกับการเก็บกักใช้แล้งหน้า
30 กันยายน 2567 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ อาคาร 99 ปี หม่อมหลวงชูชาติ กำภู กรมชลประทาน ถนนสามเสน นายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน ผศ. ดร. สิตางศุ์ พิลัยหล้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทาน ที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตาม และวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่างๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่
ปัจจุบัน 30 กันยายน 2567 อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 57,218 ล้านลูกบาศก์เมตร (75% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) ยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันอีกกว่า 19,140 ล้านลูกบาศก์เมตร เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยา 4 เขื่อนหลัก (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันทั้งสิ้นประมาณ 18,127 ล้านลูกบาศก์เมตร (73% ของความจุอ่างฯ รวมกัน) ยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันอีกกว่า 6,744 ล้านลูกบาศก์เมตร
ด้าน สถานการณ์น้ำ ท่าในแม่น้ำปิง ที่จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน และตาก เริ่มคลี่คลาย แนวโน้มระดับเริ่มลดลง กรมชลประทาน ได้เร่งสูบน้ำที่ท่วมขังออกจากพื้นที่ชุมชน พร้อมบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าฟื้นฟูสภาพบ้านเรือนให้ประชาชนได้กลับเข้าอยู่อาศัยได้โดยเร็วที่สุด
ส่วน สถานการณ์น้ำ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ล่าสุดที่สถานนีวัดน้ำ C.2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,010 ลูกบาศก์เมตร/วินาที มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นก่อนที่จะไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ตามศักยภาพของระบบชลประทานและสอดคล้องกับปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ พร้อมควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในอัตรา 1,899 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำให้ได้มากที่สุด
สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำชี-มูล แนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่ยังต่ำกว่าระดับตลิ่ง ในขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังต่ำกว่าระดับน้ำในแม่น้ำมูล จึงทำให้การระบายน้ำยังทำได้ดี
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 1-3 ตุลาคม 2567 บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ประกอบกับร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีลักษณะอากาศแปรปรวน โดยจะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก จึงได้กำชับไปยังโครงการชลประทานในพื้นที่ให้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด
พร้อมบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์ฝนควบคู่ไปกับการเก็บกัก เพื่อสำรองไว้ใช้ในฤดูแล้งหน้า ในส่วนของอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำเต็มความจุให้พิจารณาพร่องน้ำตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำ พร้อมทำการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนรับรู้รับทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดกับประชาชนให้ได้มากที่สุด ตามข้อสั่งการของ ศ. ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์