เร่งขยายผลไอซ์ครึ่งตัน จากไทยไปนิวซีแลนด์
แก๊งค้ายาข้ามชาติซุกยาไอซ์ครึ่งตันใส่ชิ้นส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า คาดออกจากสามเหลี่ยมทองคำผ่านไทยไปนิวซีแลนด์ เร่งขยายผลสอบหาตัวผู้ร่วมขบวนการ
เมื่อวันที่ 7 ก.ย.62 นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการยาเสพติด (ป.ป.ส) กล่าวกรณีเจ้าหน้าที่ศุลกากรประเทศนิวซีแลนด์จับกุมการลักลอบขนยาไอซ์โดยบรรจุในมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 60 เครื่อง น้ำหนัก469 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 153 ล้านเหรียญสหรัฐว่า ทางการนิวซีแลนด์จับได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายผลเพิ่มเติมโดยเชื่อว่ายาไอซ์ดังกล่าวมีแหล่งผลิตอยู่ในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และใช้ไทยเป็นเส้นทางผ่านในการขนส่งทางเรือออกจากท่าเรือกรุงเทพ บรรจุในตู้สินค้า ผ่านท่าเรือสิงคโปร์ และปลายทางคือนิวซีแลนด์ ซึ่งกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดจะใช้วิธีการการลักลอบขนยาเสพติดและซุกซ่อนอำพรางในหลายรูปแบบ และกรณีนี้ซุกซ่อนในมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งมีชิ้นส่วนที่สามารถถอดออกได้ โดยผู้ค้ายาเสพติดใช้วิธีถอดชิ้นส่วนและซุกซ่อนในโพรง จากนั้นจึงประกอบชิ้นส่วนกลับเข้าไปใหม่ และเลือกใช้สินค้าที่มีน้ำหนักมากเพื่อไม่ให้มีน้ำหนักผิดปกติ แต่ก็ศุลกากรนิวซีแลนด์ตรวจพบร่องรอยการถอดจึงตรวจสอบละเอียด
เลขาธิการฯป.ป.ส กล่าวอีกว่า เจ้าหน้าที่นิวซีแลนด์จับกุมผู้ต้องหาที่มารับยาเสพติดได้ 3 ราย จากการตรวจสอบพบว่าเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติดังกล่าว ซึ่งเป็นชาวแคนาดาและผู้ค้ายารายอื่นๆมีความเชื่อมโยงกันในหลายประเทศ ผ่านมาทางศุลกากรและตำรวจนิวซีแลนด์ มีการประสานความร่วมมือ กับ หน่วยงานปราบปรามยาเสพติดของไทยอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิด ทั้ง ปปส. บช.ปส. กรมศุลกากร มีการแลกเปลี่ยนข่าวกรอง สถานการณ์ สำหรับคดีนี้มีการประสานงานกัน มาตลอด โดยไทยจะสนับสนุนข้อมูลสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินการต่อผู้เกี่ยวข้องต่อไปนอกจากนี้ไทยยังมีมาตรการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดทั้งทางบก โดยใช้ด่านตรวจ จุดตรวจ ตามด่านพรมแดน เส้นทางถนนหลักและรองทั่วประเทศ ทางทะเล
นายนิยม กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ จะใช้ไทยเป็นทางผ่านลำเลียงยาเสพติดไปสู่ประเทศที่สาม อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีระบบคมนาคมที่เป็นเครือข่าย ทั้ง ถนน ท่าเรือ ท่าอากาศยาน ส่วนการส่งยาเสพติดไปประเทศปลายทางนอกจากนิวซีแลนด์ ก็ยังมี ออสเตรเลีย ไต้หวัน ถือเป็นปลายทางหลัก เนื่องจากเหตุผลเรื่องราคาจำหน่ายต่อที่จะได้รับผลกำไรสูง แม้จะเสี่ยงต่อการถูกตรวจยึดจับกุมก็ตาม