บ้านจักรพงษ์ นำ 'มัสมั่นเนื้อ' ตำรับเด็ดประจำบ้าน เดลิเวอรี่ให้อร่อยถึงที่พัก-ออฟฟิศ
จักรพงษ์ วิลล่า แอนด์ เรสซิเดนซ์ นำตำรับอาหารไทยโบราณริมน้ำประจำ ‘บ้านจักรพงษ์’ ให้บริการแบบเดลิเวอรี่ ปรับตัวรับสถานการณ์ควบคุมโรคโควิด-19 นำร่อง 7 เมนูเด็ด โดยเฉพาะ ‘มัสมั่นเนื้อ’ ที่เป็นเสมือนเมนูซิกเนเจอร์แห่งบ้านจักรพงษ์
หลายคนมักเอ่ยนามสถานที่แห่งนี้ว่า ‘วังจักรพงษ์’ แต่จริงๆ แล้วบ้านริมแม่น้ำเจ้าพระยาย่านท่าเตียนแห่งนี้ ได้รับการสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ของ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้รู้จักกันในนาม บ้านจักรพงษ์ หรือ จักรพงษ์วิลล่า (Chakrabongse Villas)
“ที่จริงเป็นบ้านริมน้ำ แต่เนื่องจากเป็นที่ประทับของท่าน(สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์) จึงเรียกกันว่าวังจักรพงษ์ แต่พอตกมาถึงพระองค์ชายจุล(พลตรี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์ พระโอรสในสมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์) ท่านไม่อยากให้เรียกวัง อยากให้เรียกบ้านจักรพงษ์” ไพศาลย์ เปี่ยมเมตตาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ จักรพงษ์วิลล่า กล่าว
สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ ทรงเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราชในรัชกาลที่หก ทรงริเริ่มจัดตั้งโรงเรียนเสนาธิการทหารบก และทรงเป็นผู้วางรากฐานการบินในเมืองไทย
“เจ้าฟ้าจักรพงษ์ ได้รับที่ดินแปลงนี้จากสมเด็จแม่ ท่านบอกว่าบ้านท่านหรือวัง ท่านมีอยู่แล้ว คือวังปารุสกวัน ท่านอยากมีบ้านริมน้ำ จึงโปรดให้สร้างบ้านหรือตำหนักหลังนี้เมื่อปีพ.ศ.2451 เพื่อเป็นที่ประทับส่วนพระองค์ใกล้พระบรมมหาราชวัง เป็นทั้งเรือนรับแขก และเป็นที่เปลี่ยนเครื่องทรงก่อนเสด็จเข้าร่วมงานพระราชพิธีในพระบรมมหาราชวัง และเป็นสถานที่ให้พระองค์และพระชายาชาวรัสเซีย หม่อมคัทริน (เอกาเทรินา เดนิตสกายา) ใช้เป็นที่พักผ่อนอิริยาบถก่อนล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา” คุณไพศาลย์ กล่าว
ตำหนักใหญ่ของบ้านจักรพงษ์เป็นศิลปะแบบ Classic Revival (ฟื้นฟูความงามยุคคลาสสิก) ออกแบบโดยนายช่างชาวอิตาเลียนที่เข้ามารับราชการในปลายสมัยรัชกาลที่ห้า ชื่อนาย มาริโอ ตามานโญ ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมสถาปนิกที่ออกแบบพระที่นั่งอนันตสมาคม
ผลงานเดี่ยวของ มาริโอ ตามานโญ มีหลายแห่ง อาทิ ตำหนักใหญ่ที่วังสระปทุม กระทรวงพาณิชย์(มิวเซียมสยามในปัจจุบัน) ห้องสมุดเนียลสัน เฮย์ส ที่ถนนสุรวงศ์ เป็นผลงานสุดท้ายก่อนกลับอิตาลี
“ตัวตำหนักนี้ถือเป็นผลงานแรกๆ ที่ มาริโอ ตามานโญ ออกแบบไว้เมื่อครั้งเข้ามาในสยาม ฐานรากไม่ใช่เสาเข็ม แต่เป็นการวางซุงกันไปมาเพื่อเป็นฐานรับตัวตำหนัก 5 ระดับ คือ ชั้นใต้ดิน, ชั้น 1 มีห้องรับแขก ห้องทรงพระอักษร ห้องอาหาร ไม่ซอยเป็นห้องเล็กๆ แต่เป็นห้องใหญ่, ชั้นสองเป็นห้องนอน มี 3 ห้องตามผังเดียวกัน, ชั้นที่สี่เป็นห้องรับรองแขก, ชั้นที่ห้าซึ่งอยู่บนสุด เป็นการออกแบบให้มีหอคอย เพื่อใช้เป็นห้องพระและหอพระบรมอัฐิ คล้ายๆ พระตำหนักวังสวนกุหลาบของเจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ”
ปัจจุบัน ‘บ้านจักรพงษ์’ อยู่ในความดูแลของ ม.ร.ว.นริศรา(นะ-ริด-สา) จักรพงษ์ พระธิดาในพระองค์ชายจุลกับหม่อมเอลิสะเบธ
หลังสำเร็จการศึกษาที่ประเทศอังกฤษ สมรส และกลับมาเมืองไทยในปีพ.ศ.2527 คุณหญิงนริศรามีความรักความผูกพันกับ ‘บ้านจักรพงษ์’ ลงมือสำรวจและซ่อมแซมตัวตำหนักซึ่งในเวลานั้นมีอายุมากกว่า 75 ปีแล้ว พร้อมกับเปิดสำนักพิมพ์ ‘ริเวอร์ บุ๊คส์’ บริหารงานร่วมกับคุณไพศาลย์ เปี่ยมเมตตาวัฒน์ เนื่องจากต้องเดินทางไปมาระหว่างอังกฤษและประเทศไทย
พ.ศ.2540 เมืองไทยเกิดวิกฤติเศรษฐกิจที่เรียกกันว่า ‘ต้มยำกุ้ง’
“ดอกเบี้ยแบงก์แทบไม่มีเลย บ้านไม่มีใครอยู่ ก็โทรม ก็เลยคิดว่าทำอย่างไรให้เกิดรายได้ เมื่อ 23 ปีที่แล้ว บูติกโฮเทลยังไม่มีในเมืองไทย ผมเองก็ไม่มั่นใจ คุณหญิงนริศราคือคนริเริ่ม ท่านว่าเมืองนอกทำแล้ว เราต้องทำได้ แต่ผมยังคิดแขกจะรู้ได้อย่างไรเรามีโรงแรมตรงนี้ เพราะแขกส่วนใหญ่ไปโรงแรมที่เป็นเครือบริหารจากเมืองนอก คุณหญิงก็ให้ลองดู” คุณไพศาลย์เล่าถึงแนวคิดซึ่งเป็นที่มาของธุรกิจบูติกโฮเทลในนาม จักรพงษ์ วิลล่า แอนด์ เรสซิเดนซ์ (Chakrabongse Villlas & Residences)
เริ่มแรกให้บริการที่พักกับอาหารเช้า และอาหารค่ำบ้างหากแขกที่เข้าพักร้องขอ ได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด ห้าปีต่อมา คุณไพศาลย์จึงเสนอทำร้านอาหารเพิ่ม
“เรามีพ่อครัวอยู่แล้ว สูตรอาหารเราก็มี คุณหญิงนริศราจึงตัดสินใจเปิดร้านอาหารแบบรับจองล่วงหน้า มีเซตเมนูประจำวัน เข้าไปดูในเว็บไซต์ล่วงหน้า เรารับคืนละ 2-3 โต๊ะเท่านั้น ทุกคนได้วิวเต็มที่ เกิดความพิเศษ คือมีความเป็นประวัติศาสตร์ของสถานที่ ความเป็นส่วนตัว และวิวที่ดี เข้ามาแล้วเหมือนเดินในสวน ไม่เหมือนไปร้านอาหาร เซตอาหารแต่ละวันไม่เหมือนกัน 2-3 เดือนเราก็เปลี่ยนที เรารู้ว่าจะใช้วัตถุดิบแค่ไหนต่อวัน ไม่เกิดการสูญเสีย”
ตำรับอาหารบ้านจักรพงษ์เป็นสูตร อาหารไทยโบราณ ที่ได้รับการตกทอดมาจากบันทึกของคุณ เชื้อ จุลเสวก (จุน-ละ-เส-วก) ข้าหลวงผู้ทำหน้าที่ ‘ต้นเครื่อง’ ของพระองค์ชายจุล และมีเรือนอยู่ในบริเวณบ้านจักรพงษ์
“คุณเชื้อได้ตำราอาหารที่ตกทอดมาจากคุณหญิงของพระยาสิริจุลเสวก(พัว จุลเสวก) นายทหารคนสนิทของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ ซึ่งมีฝีมือทำอาหาร เนื่องจากคุณเชื้อเป็นภรรยาของขุนพิศดารพิธียุทธ์ (พิศดาร จุลเสวก) บุตรชายพระยาสิริจุลเสวก
ขุนพิศดารฯ เกิดในวังปารุสฯ เป็นพระสหายของพระองค์ชายจุล เล่นกันมาตั้งแต่เด็ก เรียนโรงเรียนนายร้อยมาด้วยกัน เนื่องจากพ่อเป็นนายทหารคนสนิทของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์
พระองค์ชายจุลเห็นว่าขุนพิศดารฯ เป็นข้าเก่า เป็นลูกของนายทหารคนสนิทของพ่อ เป็นเพื่อนด้วย สนิทกันมาก จึง่ให้มาเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์ ส่วนคุณหญิงเชื้อซึ่งเป็นภรรยา ก็ให้มาเป็นต้นเครื่อง”
อาหารขึ้นชื่อบ้านจักรพงษ์ที่ได้รับการบันทึกไว้มีนับร้อยตำรับ หนึ่งในนั้นคือ มัสมั่นเนื้อ ใครมีโอกาสชิมแล้วล้วนติดใจในรสชาติที่กลมกล่อม เนื้อแกงเนียนไม่มันเลี่ยน เนื้อวัวนุ่มเปื่อยรสชาติมัสมั่นเข้าเนื้อ
“พริกแกงมัสมั่นเป็นสูตรเดิมของบ้านจักรพงษ์ ที่เกิดจากการคั่วเครื่องเทศต่างๆ ให้หอมก่อนโขลก โดยเฉพาะยี่หร่าเป็นตัวชูกลิ่น สัดส่วนเครื่องแกงไม่เผ็ดมาก รสชาติเปรี้ยวหวานมันเค็มพอดีกัน” วรวัฒน์ ทองหล่อ หัวหน้าพ่อครัว จักรพงษ์ วิลล่า กล่าวและว่า ส่วนเนื้อวัวนั้นเลือกใช้เฉพาะส่วนของ ‘เนื้อโหนกโคขุน’ เนื่องจากเป็นเนื้อส่วนที่มีไขมันแทรก ตุ๋นแล้วจะได้ความนุ่ม ใช้เวลาตุ๋น 3-4 ชั่วโมงเพื่อให้เนื้อนุ่มเปื่อยแต่พอดี
กล่าวอย่างร่วมสมัยได้ว่า ‘มัสมั่นเนื้อ’ ถือเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของบ้านจักรพงษ์ คุณหญิงนริศราก็โปรดมัสมั่นตำรับนี้มากเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมี ข้าวซอยไก่ “เราโขลกเครื่องแกงเอง ผัดกับน้ำมันพืชให้หอมยิ่งขึ้นด้วยขิงและกระเทียม ชูกลิ่นด้วยผงกะหรี่ ไม่เน้นความใส แต่เน้นความหอมมันของกะทิ น่องไก่ตุ๋นสุกพอดี และจัดเตรียมเครื่องเคียงอย่างพิถีพิถัน” เชฟวรวัฒน์ กล่าวและว่า ส่วนเส้นบะหมี่คัดสรรบะหมี่เส้นแบน ลวกแล้วผ่านน้ำเย็น กับส่วนหนึ่งที่นำไปทอดกรอบ
ตำรับอาหารบ้านจักรพงษ์ยังมีอีกมากมาย อาทิ ขนมจีนน้ำพริกทรงเครื่อง ข้าวผัดรถไฟ ผัดเผ็ดปลาดุกทอดกรอบ ยำมะเขือยาว ข้าวต้มปลากะพง แกงเขียวหวานเนื้อพริกขี้หนู แกงจืดตำลึงกุ้งสับ แกงส้มดอกโสนชุบไข่ทอด หลนปูไข่ ต้มโคล้งปลากรอบ น้ำพริกปลาย่าง-ผักลวก-ไข่ต้ม ยำตะไคร้กุ้งสด ยำส้มโอเนื้อปู แกงจืดเป็ดย่างใบโหระพา ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน
เนื่องจากรัฐบาลออกประกาศพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 บ้านจักรพงษ์หยุดให้บริการเซตอาหารมื้อค่ำไว้ชั่วคราว โดยปรับเปลี่ยนมาเปิด บริการเดลิเวอรี่ ได้สามสัปดาห์แล้ว ขณะนี้ให้บริการเดลิเวอรี่ทุกวัน โทร.08 0045 7778 และโทร.09 7135 1290 โทร.สั่งอาหารได้ระหว่างเวลา 11.30-14.30 น. รายการอาหารเดลิเวอรี่ที่ให้บริการขณะนี้คือ มัสมั่นเนื้อ (495 บาท) มัสมั่นไก่ (275 บาท) พะแนงไก่ (250 บาท) ผัดไทยกุ้งสด (295 บาท) ข้าวซอยไก่ (250 บาท) ข้าวผัดรถไฟ (250 บาท) และ กะเพราไก่ (250 บาท)
แบบ เซตเมนู มีให้เลือก 2 เซต คือ เซต A ชุดมัสมั่นเนื้อ 699 บาท (ปกติ 999 บาท) และ เซต B ชุดมัสมั่นไก่ 499 บาท (ปกติ 750 บาท) แต่ละเซตมาพร้อม ‘ข้าวสวย’ และกับข้าวอีก 2 รายการ คือ ไข่เจียว และ กะเพราไก่
เมนูเดลิเวอรี่จะเปลี่ยนเป็นเมนูอะไรบ้าง เปลี่ยนเมื่อใด เข้าไปดูได้ที่ www.facebook.com/ChakrabongseVillas
“เราให้บริการเดลิเวอรี่ร่วมกับไลน์แมน คนอยู่ออฟฟิศและที่บ้านก็ได้รับประทาน โดยไม่ต้องมาที่นี่ หรือถ้าลูกค้าสะดวก จะมารับอาหารที่สั่งไว้ด้วยตัวเองที่บ้านจักรพงษ์ก็ได้ หรือถ้าอยู่ละแวกนี้ เราส่งให้เองเลย” คุณไพศาลย์ กล่าว
หากรัฐบาลประกาศให้นั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้แล้ว คุณไพศาลย์กล่าวว่าบ้านจักรพงษ์ก็ยังจะให้บริการเดลิเวอรี่ต่อไป
แต่ช่วงนี้ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” กันก่อน
บ้านจักรพงษ์ (จักรพงษ์วิลล่า) เลขที่ 396 ถนนมหาราช ท่าเตียน กรุงเทพฯ
คลิก www.facebook.com/ChakrabongseVillas