เช็กความเข้าใจ "มาฆบูชา" วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา แตกต่างกันอย่างไร
ทำความเข้าใจวันสำคัญทางพุทธศาสนา “มาฆบูชา” “วิสาขบูชา” “อาสาฬหบูชา” ว่าแต่ละวันมีความสำคัญ และเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง?
ข้อมูลจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติ ประชาชนคนไทยนับถือศาสนาพุทธมากถึง 93.5% ดังนั้นแล้ว วันสำคัญทางพุทธศาสนาในวาระต่างๆ จึงถูกบรรจุเป็นวันสำคัญของประเทศไทย รวมถึงมีการบรรจุวิชาพุทธศาสนาในหลักสูตรการเรียนขั้นพื้นฐานเช่นกัน
แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องราวของศาสนาพุทธมีข้อมูล พร้อมทั้งรายละเอียดอย่างมหาศาล สำหรับบางคนเมื่อก้าวเข้าสู่โลกทำงานอาจจะทำให้ความเข้าใจเรื่องวันสำคัญต่างๆ คลาดเคลื่อนออกไป
ในวาระ วันมาฆบูชาปี 2565 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ชวนย้อนทำความเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวัน “มาฆบูชา” พร้อมทั้ง 2 วันสำคัญคือ “วิสาขบูชา” “อาสาฬหบูชา” ว่ามีความแตกต่างอย่างไร และเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลต่อพุทธศาสนาอย่างไรบ้าง?
- วันมาฆบูชา
วันมาฆบูชา เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 เกิดเหตุการณ์ที่พระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าจำนวน 1,250 รูปมาเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ วัดเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ โดยมิได้นัดหมายกัน ทั้งนี้พระสงฆ์ทั้งหมดเป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6 และเป็นผู้ที่ได้รับการอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า
ในวันนี้พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดง “โอวาทปาฏิโมกข์” ในที่ประชุมสงฆ์เหล่านั้น ซึ่งเป็นทั้งหลักการอุดมการณ์ และวิธีการปฏิบัติ มีเนื้อหาโดยสรุปคือให้ละความชั่วทุกชนิด ทำความดี และทำจิตใจให้ผ่องใส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- สมเด็จพระสังฆราช ประทานพระคติธรรม 'วันมาฆบูชา'
- ทำไมต้อง 'เวียนเทียน' วัน 'มาฆบูชา' ชาวพุทธเวียนเทียนวันไหนบ้าง?
- 'วันมาฆบูชา' ขึ้นทางด่วนฟรี 3 สาย
- 'มาฆบูชา' 2564 เปิดวิธี 'เวียนเทียนออนไลน์' ทำง่ายได้บุญเหมือนกัน
ทั้งนี้ "กรมศาสนา" ให้ข้อมูลว่า การปฏิบัติวันมาฆบูชาในประเทศไทยปรากฏครั้งแรกในสมัยพระบาท สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
โดยมีพิธีการพระราชกุศลในเวลาเช้า พระสงฆ์ วัดบวรนิเวศวิหารและวัดราชประดิษฐ์ 30 รูป ฉันในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เวลาค่ำเสด็จออกทรงจุดธูปเทียนเครื่อง มนัสการแล้ว พระสงฆ์สวดทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว สวดมนต์ต่อไปมีสวดคาถาโอวาทปาติโมกข์ด้วย สวดมนต์จบทรงจุดเทียนรายตามราวรอบ พระอุโบสถ 1,250 เล่ม มีการประโคมอีกครั้งหนึ่งแล้วจึงมีการเทศนาโอวาทปาติโมกข์ 1 กัณฑ์เป็นทั้งเทศนาภาษาบาลีและภาษาไทย
ในอดีตมีการประกอบพิธีในพระบรมมหาราชวัง ต่อมาก็ขยายออกไปให้พุทธบริษัทได้ปฏิบัติตามอย่างเป็นระบบสืบมาจนปัจจุบันมีการบูชาด้วยการเวียนเทียน และบำเพ็ญกุศลต่างๆ ส่วนกำหนดวันประกอบพิธีมาฆบูชานั้น ปกติตรงกับวันเพ็ญเดือน 3 หากปีใดเป็นอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหนจะเลื่อนไปตรงกับวันเพ็ญเดือน 4
โดยสรุปแล้ว ในปัจจุบันพิธีกรรมที่ศาสนิกชนปฏิบัติกันในวันมาฆบูชาคือ การทำบุญตักบาตรในตอนเช้า ฟังเทศน์ ในตอนกลางคืนจะชุมนุมเวียนเทียนรอบพระอุโบสถพร้อมกับพระภิกษุสงฆ์
- วันวิสาขบูชา
คำว่า "วิสาขบูชา" ย่อมาจาก "วิสาขปุรณมีบูชา” หมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือน 6 หรือเดือนวิสาขะ (ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือนแปดสองหน ก็เลื่อนไปเป็นกลางเดือนเจ็ด) โดย “วันวิสาขบูชา” ถือเป็นวันที่สำคัญในทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากเป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ คือเกิด ได้ตรัสรู้ คือสำเร็จ และปรินิพพาน คือ ดับ ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ตรงกันทั้ง 3 คราว (แต่ต่างปีกัน) ได้แก่
-เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ “ประสูติ” ที่พระราชอุทยานลุมพินีวัน ระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับเทวทหะ เมื่อเช้าวันศุกร์ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีจอ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี
-เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ “ตรัสรู้” เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อพระชนมายุ 35 พรรษา ณ ใต้ร่มไม้ศรีมหาโพธิ์ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในตอนเช้ามืดวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา ก่อนพุทธศักราช 45 ปี หลังจากออกผนวชได้ 6 ปี
-หลังจากตรัสรู้แล้วพระองค์ได้ประกาศพระศาสนาและโปรดเวไนยสัตว์ 45 ปี เมื่อทรงมีพระชนมายุได้ 80 พรรษา ก็เสด็จ “ดับขันธปรินิพพาน” ในวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ณ สาลวโนทยาน ของมัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ (ปัจจุบันอยู่ในเมืองกุสีนคระ แคว้นอุตตรประเทศ ประเทศอินเดีย)
นอกจากนี้คณะกรรมาธิการองค์การสหประชาชาติ ยังได้ประกาศให้วันวิสาขบูชา (Vesak Day)” ถือเป็น “วันสำคัญของโลก” ด้วยเหตุผลคือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวลมนุษย์ทั้งหลายในโลก จะเห็นได้จากการยกเลิกแบ่งชนชั้นวรรณะ ซึ่งเท่ากับเป็นการเลิกทาสโดยไม่มีการเสียเลือดเสียเนื้อ
นอกจากนี้พระองค์ยังทรงเป็นนักอนุรักษ์สัตว์ป่าอีกด้วย กล่าวคือ ทรงสอนให้ไม่ฆ่าสัตว์ และพระองค์ทรงเปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนาเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ
สรุปแล้ววันวิสาขบูชาเป็นวันที่เราจะได้ระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและหลักธรรมคำสอนต่างๆ ที่ท่านได้เคยสอนไว้ สำหรับกิจกรรมที่ชาวพุทธมักจะปฏิบัติกันเป็นประจำเมื่อถึงวันวิสาขบูชา ได้แก่ การเข้าวัดทำบุญตักบาตรด้วยอาหารคาวหวาน ถวายสังฑทาน ฟังเทศน์เพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิต ถือศีล ปฏิบัติธรรมสร้างบารมีให้กับตัวเอง และสะสมผลบุญ รวมถึงการ การเวียนเทียน
- วันอาสาฬหบูชา
“วันอาสาฬหบูชา” ตรงเป็นวันที่ 15 ค่ำ เดือน 8 นับว่าเป็นวันที่พระพุทธเจ้าได้ทรง “ประกาศพระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก” หลังจากตรัสรู้ได้ 2 เดือน โดยพระองค์ได้ทรงแสดงปฐมเทศนาเป็นครั้งแรกด้วย เรียกว่า “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” แปลว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม (เป็นวันที่ล้อแห่งพระธรรมของพระพุทธเจ้าได้หมุนไปเป็นครั้งแรก)
ในการนั้นพระองค์ทรงแสดงธรรมโปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้แก่ พระโกณฑัญญะ, พระวัปปะ, พระภัททิยะ, พระมหานามะ และพระอัสสชิ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ จนพระอัญญาโกณฑัญญะ ได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
แต่เดิมนั้นไม่มีการประกอบพิธีการบูชาในเดือน 8 หรือวันอาสาฬหบูชาในประเทศพุทธเถรวาทมาก่อน จนมาในปี พ.ศ. 2501 การบูชาในเดือน 8 หรือวันอาสาฬหบูชาจึงได้เริ่มมีขึ้นในประเทศไทย ตามที่คณะสงฆมนตรี ได้กำหนดให้วันนี้เป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาของประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2501
โดยคณะสังฆมนตรีได้มีมติให้เพิ่ม "วันอาสาฬหบูชา" เป็นวันสำคัญทางศาสนาพุทธในประเทศไทย ตามคำแนะนำของพระธรรมโกศาจารย์ (ชอบ อนุจารี) และได้ออกเป็นประกาศสำนักสังฆนายกเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2501 กำหนดให้วันอาสาฬหบูชาเป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา
พร้อมทั้งกำหนดพิธีกรรมทางศาสนาขึ้นอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยให้มีพิธีปฏิบัติเทียบเท่ากับ “วันวิสาขบูชา”
ส่วนพิธีกรรมที่ศาสนิกชนควรปฏิบัติในวันอาสาฬหบูชานั้น ไม่ต่างจากวันวิสาขบูชามากนัก คือการ ทำบุญตักบาตร รักษาศีล เวียนเทียน ฟังพระธรรมเทศนา
----------------------------------------
อ้างอิง : กรมการศาสนา, dhammathai.org