'แรงงาน' เตรียม 'Hospitel' รองรับผู้ประกันตน ม.33, 39, 40 ป่วยโควิด-19

วันนี้ (20 เมษายน 2564) สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน แถลงข่าวเปิดศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำนักงานประกันสังคม สายด่วน 1506 กด 6 ผ่านทาง Facebook Live เพจกระทรวงแรงงาน โดยระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ระลอกใหม่ ซึ่งมีผู้สัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มเสี่ยงจำเป็นต้องได้รับการตรวจหาเชื้อเป็นจำนวนมาก ทำให้หลายโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน เกิดความแออัดบางส่วน หรือต้องรอคิวนาน

 

• ตรวจเชิงรุกพบติดเชื้อ 1-2%

รมว.แรงงาน กล่าวต่อไปว่า เพื่ออำนวยความสะดวกแก้ผู้ประกันตนมาตรา 33 39 40 ให้ได้รับการตรวจอย่างเร็ว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยผู้ประกันตนจากกรณีการแพร่ระบาดดังกล่าว ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน จึงได้สั่งการให้กระทรวงแรงงาน โดยประกันสังคม บูรณาการร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรุงเทพมหานคร และสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินการตรวจโควิด 19 เชิงรุก ให้กับผู้ประกันตนภายใต้โครงการ “แรงงานเราสู้ด้วยกัน”

ทั้งนี้ เป้าหมายเพื่อ ผู้ประกันตนมาตรา 33, 39, 40 ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานครไทยญี่ปุ่นดินแดงเพื่อเพิ่มช่องทางหน่วยบริการ เนื่องจาก หลายโรงพยาบาล มีผู้ใช้บริการตรวจโควิดจำนวนมาก รวมทั้ง โรงพยาบาลในเครือประกันสังคมเอง ทำให้มีการแออัดเกิดขึ้นบ้าง มีการต่อคิว การกำหดนระยะเวลาอาจกำหนดไม่ได้

“กระทรวงแรงงานจึงอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกันตน เพื่อช่วยแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 อีกทางหนึ่งอันจะส่งผลให้ภาคธุรกิจ เศรษฐกิจดำเนินการต่อไปได้ โดยเริ่มเปิดให้ผู้ประกันตนกลุ่มสี่ยงลงทะเบียน จองคิวตรวจผ่านระบบออนไลน์ ตั้งแต่ 15 เมษายน ที่ผ่านมา และเริ่มปฏิบัติการตรวจจริง 17 เมษายน ที่ผ่านมา โดยตรวจได้วันละ 3,000 คน แบ่งเป็น ช่วงเช้า 1,500 คน และช่วงบ่าย 1,500 คน”

ภาพรวมในการตรวจเชิงรุก อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานครไทยญี่ปุ่นดินแดง ผ่านมา 3 วันราบรื่นไม่มีอุปสรรค แต่เรื่องของการเข้าคิว รอคิว กระบวนการแจ้งผลผ่าน SMS ไม่มีปัญหา โดยมีผู้ประกันตนเข้ารับการตรวจ เกือบ 4,000 คน ตัวเลขการติดเชื้อราว 70 กว่าคน คิดเป็น 1-2% ซึ่งหากมีอาการหนักก็จะส่งไปที่ รพ.ในเครือประกันสังคม หากไม่มีอาการ รักษาที่ฮอสพิเทล ซึ่งมีทีมแพทย์ และพยาบาลดูแลอยู่

   

• ขยายตรวจโควิด พื้นที่สีแดง

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานมีแผนขยายจุดตรวจไปยังจังหวัดพื้นที่สีแดง โดย “สุชาติ” ระบุว่า ต้องยอมรับว่าในพื้นที่สีแดง 18 จังหวัด มีจังหวัดที่มีผู้ประกันตนในเขตนิคมอุตสาหกรรจำนวนมาก เช่น ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ ชลบุรี เชียงใหม่ อาจจะต้องขยายจุดตรวจไปช่วยเหลือผู้ประกันตน แต่ในส่วนของ รพ.ในพื้นที่ก็ได้รับการดูแล ตรวจอยู่แล้ว และตรวจฟรี เพราะในกลุ่มเสี่ยงหรือผู้สัมผัสเชื้อ รัฐบาลได้กำชับให้ สปสช. ดูแลฟรีอยู่แล้ว แต่อาจจะติดขัดในเรื่องการแออัด หรือรอนาน จึงเปิดการตรวจขึ้นมาให้เป็นทางเลือก เพื่อไม่ให้พี่น้องผู้ประกันตนต้องเสียเงินตรวจเอง

  

• เตรียมฮอสพิเทล รับผู้ติดเชื้อ

รมว.แรงงาน กล่าวต่อไปว่า หากผู้ประกันตน ตรวจพบเชื้อจะถูกส่งเข้ารับรักษา “ฮอสพิเทล ของประกันสังคม” ซึ่งมีทีมแพทย์ในเครือประกันสังคมดูแลตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขเป็นอย่างดี โดย กระทรวงแรงงาน ได้ประสาน ขอความอนุเคราะห์จากกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าฯ กทม. เลขา สปสช. รวมถึง กระทรวงสาธารณสุข  เป็นการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดโควิด 19  

“กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้เสนอเข้าไปที่บอร์ด ศบค. ในการที่กระทรวงแรงงานจัดตั้ง “ฮอสพิเทล”  โดย MOU กับ รพ. ในเครือประกันสังคม ในการรับการตรวจผู้ประกันตน หากตรวจเจอเชื้อจะนำไปพัก “ฮอสพิเทล” แต่หากอาการหนัก จะส่งไป รพ. ในเครือประกันสังคม ที่มีห้องฉุกเฉินรองรับ ขอรับรองว่า หากมาตรวจ ณ อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานครไทยญี่ปุ่นดินแดง เมื่อเจอเชื้อจะมีเจ้าหน้าที่ประสาน นำรถไปรับมารักษา ฟรีทั้งหมด”

       

• เปิดสายด่วน ผู้ประกันตน

รมว. แรงงาน กล่าวต่อไปว่า กรณี ผู้ประกันตนมีปันหาการตรวจคัดกรอง กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้เปิด ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำนักงานประกันสังคม สายด่วน 1506 กด 6 ศูนย์ ณ สำนักงานประกันสังคม ขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อเป็นช่องทางการติดต่อให้ผู้ประกันตนที่ไม่มีสถานที่ตรวจ และโรงพยาบาลในการรับรักษา ผู้ประกันตน 33 39 40

“หากผู้ประกันตน ตรวจพบเชื้อโควิด 19 รพ. ในเครือ จะประสาน รพ.ในเครือประกันสังคม เพื่อรับมารักษาที่ “ฮอสพิเทล” การเปิดสายด่วนเป็นการให้บริการ ให้คำแนะนำแก่ผู้ประกันตน สำหรับผู้ประกันตนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง จะแนะนำหลักเกณฑ์การตรวจหาเชื้อ รวมถึงการปฏิบัติตนหลังการตรวจหาเชื้อ หาสถานพยาบาล และส่งตัวผู้ประกันตนที่มีความจำเป็นในการรักษาเข้าโรงพยาบาล” รมว. แรงงานกล่าว  

ทั้งนี้ สายด่วน 1506 ให้บริการทุกวันจันทร์ – อาทิตย์ 08.00 – 17.00 น. จำนวน 10 คู่สาย ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจ ได้ว่า ทางกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม จะดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคโควิด 19 ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็ววัน และให้ผู้ประกันตน ได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด