แม้ระมัดระวังกับภาพรวมตลาด แต่ยังสามารถเลือกเก็งกำไรรายตัว

แม้ระมัดระวังกับภาพรวมตลาด แต่ยังสามารถเลือกเก็งกำไรรายตัว

ภาพรวมการเลื่อนไหวทั่วโลกทรงตัวหลังไร้ปัจจัยบวกใหม่และระดับ Valuation ที่สูง

ตลาดหุ้นยุโรปปรับบวกขึ้น ในระดับ 0.21%-0.88% ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ Nasdaq (+0.19%) และ S&P500 (+0.03%) แม้ยังขยับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ แต่การปรับตัวขึ้นเริ่มอยู่ในระดับที่จำกัด ภาพรวมการลงทุนตลาดขาดปัจจัยบวกใหม่และเริ่มมีการพูดถึงระดับ Valuation ของหุ้นที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งเรามองว่าด้วยความเสี่ยงของการระบาดที่ยืดเยื้อของสายพันธ์กลายพันธ์ของโควิด จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการปรับลดคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันต่อภาพรวมการลงทุนในระยะถัดไปได้ โดยเราประเมินความเสี่ยงทางลงของ SET Index จาก Earnings Yield Gap ที่ 1,450-1,520 จุด ขณะที่เป้าหมายดัชนีอยู่ที่ 1,643 จุด

ความกังวลเงินทุนเคลื่อนย้ายจะเป็นปัจจัยกดดันกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ แต่ในระยะสั้นคาดไม่กระทบกับหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ภาพรวมการเคลื่อนไหวหุ้นใหญ่ประเมินเป็นการหมุนระหว่าง 3 ธีม คือ หุ้นเปิดเมือง-หุ้นปลอดภัย-หุ้นได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจโลก โดยมีแรงกดดันจากความกังวลเงินทุนเคลื่อนย้าย อย่างไรก็ตามบรรยากาศเก็งกำไรในหุ้นกลาง-เล็งที่อิงเม็ดเงินในประเทศเป็นหลักคาดยังดำเนินไปได้จนกว่าตลาดจะมีจุดเปลี่ยน (trigger) ต่อบรรยากาศลงทุน โดยเราแนะนำควรมีเงินสดในมือ 30-40% และเก็งกำไรแบบจำกัดเงินลงทุนและกำหนดจุดตัดขาดทุน ระหว่างรอจังหวะของการเพิ่มน้ำหนักการลงทุนหากตลาดมีความผันผวนเข้าใกล้จุดซื้อที่เราประเมิน

กลุ่มการแพทย์ – รัฐบาลมีแนวโน้มปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายในการรักษาโควิดโดยเฉลี่ย 25% เพื่อจูงใจให้ ร.พ.เอกชนรับผู้ป่วยโควิดเพิ่มเติม ขณะที่สามารถเบิกค่าใช้จ่ายย้อนหลังได้ตั้งแต่ช่วง เม.ย. ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อประมาณการกำไรหุ้นกลุ่ม ร.พ.โดยเฉพาะขนาดกลาง-เล็ก อาทิBCH (+7%), CHG (+5%), VIBHA (+5%)

ธีมลงทุนอื่นที่น่าสนใจ 1) กลุ่มพลังงาน ปิโตรฯ PTT, PTTGC, IVL, IRPC 2) อาหารและเกษตร TVO, CPI, TU, CPF 3) ได้ประโยชน์จากเราชนะ TNP และ KK เนื่องจากเป็นร้านค้าธงฟ้า 4) การขายประกันโควิด บวกต่อ THRE, TIP, TQM 5) ปันผลและกองรีทส์ ADVANC, BTSGIF, CPNREIT, AIMIRT, FTREIT, EASTW, WHAUP, TTW, TIP 6) เก็งกำไรกลุ่มดิจิตัลทีวี BEC, WORK, MONOsonic 7) หุ้นกลุ่มเรือ TTA, PSL, RCL

ภาพรวมกลยุทธ์ เพียงเก็งกำไรระยะสั้นระหว่างรอจุดซื้อที่ดี (1,520+/-) มองกรอบการฟื้นตัวจำกัดที่ 1,600-1,610 จุด เรายังมองสื่อสารและกองรีทส์ รวมถึงหุ้นปันผลสูง-ปลอดภัย น่าสนใจ ขณะที่การเก็งกำไรหุ้นรายตัว ควรกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง

// หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร THRE*, TIP*, PM*, FSMART*

แนวรับ: 1,585/ แนวต้าน : 1,600-1,606 จุด สัดส่วน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

ประเด็นการลงทุน

รองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ ประกาศไทยขึ้นเป็นผู้นำ EV ควบคู่สันดาป. ตั้งเป้าปี 2573 ผลิต EV 7.25 แสนคัน ปักธงผลิตแบตเตอรี่ 40 GWh ต่อปี สถานีชาร์จอีก 1.2 หมื่นสถานี ด้าน PTT รุก EV ครบวงจรจ่อผลิต EV แสนคัน ขณะที่ EA ชี้สามารถขยายกำลังการผลิตแบตได้ถึง 50 GWh

สทท.เตรียมเสนอโครงการ "วัคซีนยกก๊วน เที่ยวไทยคึกคัก". เร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทนในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.64 โดยกลุ่มเป้าหมายที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนโครงการนี้ คือประชาชนในประเทศที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม

เพิ่มเยียมยาอาชีพอิสระ ปรับเกณฑ์โกดังพักหนี้ - ช่างซ่อม ร้านตัดผม ซักรีด ครม.เพิ่มวงเงินเยียวยาเป็น 8.5 พันล้านบาท รองรับแรงงานนอกระบบ สาขาอาชีพอื่นที่จะเข้าลงทะเบียนเพิ่ม คลังเตรียมถกแบงก์ชาติผ่อนเกณฑ์ โกดังพักหนี้แสนล้านจูงใจผู้ประกอบการเข้าร่วม หลัง 4 เดือน ยอดปล่อยกู้เพียง 900 ล้าน

STA. ชูอุตสาหกรรมรถยนต์ฟื้นแรง เตรียมปรับเพิ่มเป้ายอดขายปี 64 ทะลุ 1.2 ล้านตัน หลังประกาศงบไตรมาส 2/64 ขณะที่แผนปลูกกัญชงคืบหน้า

AWC. รับภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์คึกคัก ปัจจุบันยอดจอง 50% เผยโมเมนตัมยังดีได้อีก คาดฟื้นไตรมาส 4/64

การปรับหุ้นเข้า SET50/SET100 – สำหรับครึ่งปีหลัง มีผลสิ้นวันนี้ SET50: หุ้นเข้า IRPC, KCE, STA, STGT / หุ้นออก AWC, BAM, TOA, VGI // SET100: หุ้นเข้า AAV, ICHI, NRF, PSL, PTL, SINGER, STGT, SYNEX, TKN / หุ้นออก: AWC, BPP, EPG, GFPT, MBK, TOA, TPIPP, TTW, WHAUP

ประเด็นติดตาม: - 30 มิ.ย.: Chinese PMI เดือน มิ.ย., EU CPI เดือน มิ.ย., TH Economic Report / 1 ก.ค.: US Initial Jobless Claims, US Manufacturing PMI เดือน มิ.ย.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)