มทร.อีสานระดมทุกวิทยาเขตเปิด 'โรงพยาบาลสนาม'
มทร.อีสานเตรียมความพร้อมจัดตั้ง โรงพยาบาลสนาม พร้อมสถานกักตัวชั่วคราวทุกวิทยาเขต รองรับผู้ติดเชื้อจากพื้นที่เสี่ยงกลับภูมิลำเนา
รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.อีสาน) เปิดเผยว่าจากนโยบายการดำเนินการของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ที่ได้สนับสนุนให้มหาวิทยาลัยในสังกัดของ อว. จัดตั้งโรงพยาบาลทุกพื้นที่ของประเทศ โดยขณะนี้โรงพยาบาลสนามของ อว. มีมากกว่า 41 แห่ง และสามารถรองรับผู้ติดเชื้อได้ราว 12,000 เตียง และกำลังขยายผลไปยังสถานศึกษาต่างๆ รวมถึง มทร.อีสาน
ก่อนหน้านี้ มทร.อีสาน ได้มีการจัดส่งทีมจิตอาสาของส่วนกลางนครราชสีมา ในการเป็นสายด่วนรับโทรศัพท์ (Call center) ณ โรงพยาบาลมหาราชมาตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 และการสนับสนุนเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 50 เครื่อง และการส่งจิตอาสาลงทะเบียนและอำนวยความสะดวกผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ร่วมกับโรงพยาบาลมหาราช ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซานครราชสีมา มาตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม 2564 เพื่อการเปิดให้ประชาชนชาวโคราชเข้ารับการฉีดวัคซีน และมทร.อีสาน ยังขอความร่วมมือทุกวิทยาเขตในการสนับสนุนกิจกรรมร่วมกับจังหวัดที่วิทยาเขตดังกล่าวตั้งอยู่
ในส่วนการดำเนินงานของ มทร.อีสาน วิทยาเขตสกลนคร ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ อ.พังโคน จ.สกลนคร รองอธิการบดีประจำวิทยาเขตสกลนคร ได้มีการประชุมหารือร่วมกับ นายวิฑูรย์ นวลนุกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร รวมถึงผู้นำส่วนท้องถิ่น โดยจ่าสิบเอกคำนึง พรหมพิมพ์ นายอำเภอพังโคน นายแพทย์ณรงค์ จันทร์แก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสกลนคร และนายแพทย์วรรณกร เล่าสู่อังกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพังโคน โดยเป็นการประชุมหารือเรื่องการเตรียมความพร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามของจังหวัดสกลนคร พร้อมเยี่ยมชมสถานที่คณะทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อประเมินความพร้อมในการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากพื้นที่เสี่ยงกลับมารักษาที่ภูมิลำเนา
ผลจากการประชุมดังกล่าว มีมติเห็นชอบจากที่ประชุมให้จัดเตรียมพื้นที่โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยสกลนคร หลวงปู่แฟ๊บ สุภัทโท เป็นโรงพยาบาลสนามของจังหวัดสกลนคร เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรายที่อาการไม่หนัก ซึ่งสามารถรองรับได้จำนวนไม่น้อยกว่า 50 เตียง สำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่มีความประสงค์จะกลับมารักษาที่ภูมิลำเนาสามารถติดต่อผ่านช่องทางโทรศัพท์ HOT LINE "ไทสกลไม่ทิ้งกัน 093-3285264"
ด้าน มทร.อีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ได้ประชุมร่วมกับนายแพทย์ประวีณ ตัณฑประภา ผู้อำนายการและคณะแพทย์โรงพยาบาลสุรินทร์ พร้อมลงพื้นที่ประเมินความพร้อมของสถานที่ดูแลรักษาผู้ป่วยที่มีอาการคงที่และได้รับการส่งตัวมาจากโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ โดยใช้ห้องประชุมข้าวหอมมะลิ อาคารอาทิตยาทร คณะเกษตรศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งสามารถรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ได้จำนวน 60-100 เตียง พร้อมจัดพนักงานรักษาความปลอดภัย ตลอด 24 ชม.
ด้าน มทร.อีสาน วิทยาเขตขอนแก่น แม้จะไม่ได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อไม่ได้สูงมากและสถานที่พักรักษาตัวในโรงพยาบาลของจังหวัดขอนแก่นมีเพียงพอ มทร.อีสาน วิทยาเขตขอนแก่นจึงได้เปิดรับสมัครจิตอาสาสู้ภัยโควิด-19 เพื่อปฏิบัติงานสนับสนุนด้านต่างๆ ณ ศูนย์การประชุมนานาชาติขอนแก่น (KICE) เช่น จิตอาสาด้านการบริการผู้ป่วย จิตอาสาด้านการประชาสัมพันธ์ จิตอาสาด้านบริการทั่วไป ซึ่งจิตอาสาจะต้องเป็นผู้ที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงตามที่กำหหนด ผ่านการคัดกรองตามแบบสอบถามคัดกรองและได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 โดยแบ่งการปฏิบัติงานเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ระหว่างวันที่ 14-16 กรกฎาคม 2564 ระยะที่ 2 วันที่ 21-23 กรกฎาคม 2564 ระยะที่ 3 ระหว่างวันที่ 28-30 กรกฎาคม 2564 ผู้สนใจสมัครเป็นจิตอาสาสามารถโทรติดต่อได้ที่หมายเลข 083-2404967 หรือ ติดต่อที่แผนกงานพัฒนานักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ อาคาร 18 ชั้น 2
นอกจากนี้ มทร.อีสาน ยังได้จัดเตรียมสถานที่หอประชุมประไพศรี สุภา ณ ศูนย์การศึกษาหนองระเวียง จ.นครราชสีมา เพื่อเป็นสถานที่กักตัวชั่วคราว สำหรับประชาชนที่เดินทางมาจาก 13 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร จังหวัดนครปฐม จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา และจังหวัดสงขลา ซึ่งทั้งหมดต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากทางโรงพยาบาลแล้วในเบื้องต้น และในระหว่างที่รอผลการตรวจนั้นให้พักอยู่ในหอประชุมประไพศรี สุภา จนกว่าจะยืนยันว่าไม่พบเชื้อ ถึงจะสามารถให้เข้าพื้นที่ ต.หนองระเวียง ได้ โดยในเบื้องต้นมีทางเจ้าหน้าที่ของ มทร.อีสาน ได้ทำความสะอาดสถานที่แล้วเรียบร้อย และจะมีหน่วยงานต่าง ๆ จะนำเตียงสนามมาไว้ให้บริการทั้งหมด 30 เตียง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะเดินทางเข้าพื้นที่ต่อไป
อย่างไรก็ตาม มทร.อีสาน ยังคงสนับสนุนให้นักศึกษาบุคลากรทุกคนเข้าถึงการได้รับวัคซีนครบ 100 เปอร์เซนต์ ซึ่งล่าสุดได้รับการจัดสรรวัคซีน Astra Zeneca ชุดที่ 1 รวมทุกวิทยาเขต จำนวน 1,120 โดส สำหรับบุคลากรและนักศึกษา จากกระทรวง อว. โดยบุคลากรและนักศึกษาที่ได้รับการจัดสรรการฉีดวัคซีนดังกล่าว ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ขอความร่วมมือทุกท่านหมั่นล้างมือ สวมหน้ากาก และปฏิบัติตามมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (Covid-19) ของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด