โรงแรมกว่า 60% มีสภาพคล่องไม่เกิน 3 เดือน
(ชมคลิปข่าวด้านล่าง) ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนผู้ประกอบการที่พักแรม พบสภาพคล่องเหลือไม่ถึง 3 เดือน อัตราการเข้าพักต่ำอยู่ที่ 10%
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุ ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการที่พักแรม (HSI) ในเดือนกรกฎาคม 2564 ซึ่ง ธปท. ได้จัดทำร่วมกับสมาคมโรงแรมไทย โดยผู้ประกอบการที่พักแรมได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ต่อเนื่อง โดยอัตราการเข้าพักยังอยู่ในระดับต่ำมาก ส่งผลให้เกือบ 60% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่มีสภาพคล่องลดลงจากเดือนก่อน และเพียงพอในการดำเนินธุรกิจไม่เกิน 3 เดือน ขณะที่การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติส่งผลบวกต่ออัตราการเข้าพักโดยรวมไม่มากนัก
ทั้งนี้ อัตราการเข้าพักยังอยู่ในระดับต่ำมาก เฉลี่ยอยู่ที่ 10% โดยจากอัตราการเข้าพักที่ลดลงดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบให้ 58% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ มีสภาพคล่องลดลงมากกว่า 20% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า และเพียงพอในการดำเนินธุรกิจได้ไม่เกิน 3 เดือน และมีอีก 23% ที่มีสภาพคล่องเพียงพอไม่ถึง 1 เดือน ซึ่งกระจายอยู่ในทุกภูมิภาคของประเทศ ขณะที่ 57% ของโรงแรมที่เปิดกิจการอยู่ทั้งหมด รายได้ยังกลับมาไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19
นอกจากนี้ พบว่า ในเดือน ก.ค. 2564 มีโรงแรมกว่า 22% ต้องปิดกิจการชั่วคราว เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยจากข้อมูลสรุปผลการสำรวจจากโรงแรมจำนวน 22 แห่ง (ไม่รวมโรงแรมที่เป็น ASQ และ Hospitel) พบว่า 56% ของโรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวนั้น คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้อีกครั้งในไตรมาส 4/2565 และราว 13.6% คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้ในไตรมาส 1/2565 ส่วนอีก 6.8% คาดว่าจะกลับมาเปิดกิจการได้ในไตรมาส 2/2565 และอีก 11.9% จะกลับมาเปิดดำเนินกิจการได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2565
สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ส่งผลบวกต่ออัตราการเข้าพักโดยรวมไม่มากนัก โดยพบว่า 50% ของโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต มองว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมที่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นไปตามที่คาด ซึ่งมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 16% ขณะที่อีก 43% ของโรงแรมในจังหวัดสุราษฎร์ธานีมองว่าอัตราการเข้าพักของโรงแรมที่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้แย่กว่าที่คาด โดยมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ในระดับต่ำเพียง 6% เท่านั้น และพบว่า ผู้ประกอบการโรงแรมกว่า 69% เห็นด้วยกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่วนกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยส่วนใหญ่เป็นโรงแรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในธุรกิจโรงแรมยังต้องการให้รัฐบาลเร่งออกมาตรการช่วยเหลือ ได้แก่ 1. การจัดหาและกระจายวัคซีนให้เร็วกว่าแผน 2. การพักชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ย 3. การสนับสนุนค่าจ้างพนักงานเดิม