คพ.เตือน 3-8 ม.ค.นี้ ค่าฝุ่น PM 2.5 มีแนวโน้มขึ้นสูงใน กทม. -ปริมณฑล
คพ.เตือน 3-8 มกราคม 2567 ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 มีแนวโน้มขึ้นสูงใน กทม. - ปริมณฑล เนื่องจากระบายอากาศไม่ดี ขณะที่ ค่าฝุ่น PM 2.5 เช้านี้ พบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 15 พื้นที่
นางสาวปรีญาพร สุวรรณเกตุ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า คพ. ตรวจสอบคุณภาพอากาศ วันที่ 2 มกราคม 2567 พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เกณฑ์คุณภาพอากาศ โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ไปจนถึง เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพในบางพื้นที่ ในขณะที่พื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ พื้นที่ภาคอีสานโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
นางสาวปรีญาพร กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีแนวโน้มสูงขึ้นในหลายพื้นที่ช่วงระหว่าง วันที่ 3 - 8 มกราคม 2567 เนื่องจากอัตราการระบายอากาศค่อนข้างต่ำ ลมสงบ เป็นสาเหตุให้ฝุ่นละอองขนาดเล็กสามารถสะสมได้ในระดับใกล้ผิวพื้น
นอกจากนี้ อิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดเข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล หากเกิดการเผาในที่โล่งจากพื้นที่ใกล้เคียงในทิศต้นลม สถานการณ์จึงอาจทวีความรุนแรงได้ยิ่งขึ้น ให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรอบเขตปริมณฑลกำกับดูแลกวดขันและเฝ้าระวังการเผาในที่โล่ง ที่อาจส่งผลกระทบในพื้นที่จังหวัดท้ายลมได้ สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะต้องกวดขันดูแลเช่นกันในเรื่องการจราจร การตรวจวัดควันดำจากรถยนต์ดีเซล ฝุ่นจากเขตก่อสร้าง และการระบายอากาศเสียจากโรงงานอุตสาหกรรม
คพ. ขอแนะนำให้ประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง ถ้ามีอาการทางสุขภาพ ควรปรึกษาแพทย์ ทั้งนี้ แนะนำประชาชนควรติดตามสถานการณ์ จากแอปพลิเคชัน Air4thai และแฟนเพจศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ เพื่อใช้ประกอบการวางแผนการดำรงชีวิตโดยเฉพาะกิจกรรมกลางแจ้ง นางสาวปรีญาพร กล่าว
ขณะที่ ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานครสรุปผลการตรวจวัด PM 2.5 วันที่ 3 ม.ค. 2567 เวลา 05.00-07.00 น. ตรวจวัดได้ 22.0-55.8 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ยของกรุงเทพมหานคร 32.7 มคก./ลบ.ม.
ทั้งนี้ ณ เวลา 07.00 น. ตรวจวัดค่าฝุ่นละออง PM2.5 ได้ในช่วง 22 - 55.8 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) โดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับเมื่อวานในช่วงเวลาเดียวกัน และพบว่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (มาตรฐานไม่เกิน 37.5 มคก./ลบ.ม.) จำนวน 15 พื้นที่ คือ
1.เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 55.8 มคก./ลบ.ม.
2.เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 47.2 มคก./ลบ.ม.
3.เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 45.0 มคก./ลบ.ม.
4.สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 45.0 มคก./ลบ.ม.
5.เขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 43.9 มคก./ลบ.ม.
6.เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 42.7 มคก./ลบ.ม.
7.เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 41.8 มคก./ลบ.ม.
8.เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 41.3 มคก./ลบ.ม.
9.เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ : มีค่าเท่ากับ 41.2 มคก./ลบ.ม.
10.เขตปทุมวัน หน้าห้างสามย่านมิตรทาวน์ : มีค่าเท่ากับ 40.9 มคก./ลบ.ม.
11.เขตคลองสาน บริเวณหน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 40.8 มคก./ลบ.ม.
12.เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 39.7 มคก./ลบ.ม.
13.เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 39.2 มคก./ลบ.ม.
14.เขตบางแค ภายในสำนักงานเขตบางแค : มีค่าเท่ากับ 38.9 มคก./ลบ.ม.
15.เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ
- ข้อแนะนำสุขภาพ
คุณภาพอากาศระดับสีส้ม : เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ประชาชนทั่วไป : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
ประชาชนกลุ่มเสี่ยง : ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร เลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์