ชี้ 3-8 ก.ค.นี้ ไทยมีฝนมาก กำชับเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม
ชี้ 5 จังหวัดประสบอุทกภัยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาคลี่คลายแล้วทุกแห่ง ชี้ กรมอุตุฯ และ สสน. คาดการณ์ 3 – 8 ก.ค. 67 ไทยจะมีฝนมาก กำชับหน่วยงานเฝ้าระวังทุกพื้นที่เสี่ยงท่วม
วันนี้ (3 ก.ค. 67) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ ณ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี กรมชลประทาน การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เป็นต้น เข้าร่วมการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
โดยเลขาธิการ สทนช. เปิดเผยผลการประชุมว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีพื้นที่ประสบอุทกภัย 5 จังหวัด ได้แก่ จ.ลำปาง จ.ระยอง จ.หนองบัวลำภู จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต โดยสำหรับ จ.ภูเก็ต มีฝนตกในพื้นที่จำนวนมากภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งเป็นความแปรปรวนที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ โดยเกิดฝนตกหนักมีความเข้มฝนสูงต่อเนื่อง 4 ชั่วโมง มีปริมาณฝนสะสมรวมถึง 347 มิลลิเมตร
ซึ่งปัจจุบันลักษณะของระบบการระบายน้ำยังไม่รองรับกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ประกอบกับการขยายตัวของชุมชนที่ทำให้เส้นทางการระบายน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดอุทกภัย นอกจากนี้ ยังมีฝนตกในบริเวณพื้นที่ภูเขาของ จ.ภูเก็ต ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งอำนวยการจราจร ระบายน้ำออกจากพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยปัจจุบันสถานการณ์อุทกภัยทั้ง 5 จังหวัดดังกล่าวได้กลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว
ทั้งนี้ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ทั้งเรื่องการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ ลดผลกระทบต่อประชาชนทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงถึงการดำเนินการตามแผนงานโครงการต่าง ๆ ให้สัมฤทธิ์ผลเพื่อลดปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซาก ซึ่งสำหรับการเตรียมพร้อมในช่วงฤดูฝนนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมอบหมายให้เร่งรัดดำเนินการตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 2567 พร้อมเน้นย้ำในเรื่องของการแจ้งเตือนภัยประชาชนที่ข้อมูลต้องมีความแม่นยำและแจ้งเตือนอย่างทันท่วงที เพื่อลดความเสียหายที่จะเกิดขึ้นให้ได้มากที่สุด
รวมทั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ สทนช. ติดตามการดำเนินการตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2567 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะมาตรการในเรื่องของการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุและการตั้งศูนย์ส่วนหน้าก่อนเกิดภัย โดยได้สั่งการให้มีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ ตั้งศูนย์ส่วนหน้า และสร้างความเข้มแข็งเครือข่ายภาคประชาชน ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 10 ก.ค. 67 ที่จะถึงนี้ โดยรองนายกรัฐมนตรี และนายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปยังสังเกตการณ์การดำเนินงานด้วย
ดร.สุรสีห์ กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 3 – 8 ก.ค. 67 กรมอุตุนิยมวิทยาและ สสน. คาดการณ์ว่า มีแนวโน้มที่ประเทศไทยจะมีปริมาณฝนค่อนข้างมาก โดย สทนช. ได้ประกาศแจ้งเตือนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ล่วงหน้า โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขา พื้นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน โดยในวันที่ 7 ก.ค. 67 คาดว่า มีแนวโน้มที่จะมีฝนตกมากในพื้นที่ จ.ภูเก็ต อีกครั้ง ซึ่งได้กำชับหน่วยงานให้มีการเฝ้าระวังในทุกพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยอย่างใกล้ชิด รวมถึงได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกับกรมทรัพยากรธรณี เพื่อให้ดำเนินการเชิงป้องกันและแจ้งเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังภัยจากดินโคลนถล่มด้วย โดยขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถเตรียมตัวรับมือได้ทันต่อสถานการณ์