หลอกกู้เงินออนไลน์ ออกอุบายให้โอนค่าดำเนินการ จับสาวบัญชีม้าที่ปทุมธานี

หลอกกู้เงินออนไลน์ ออกอุบายให้โอนค่าดำเนินการ จับสาวบัญชีม้าที่ปทุมธานี

ตำรวจสืบนครบาล ร่วมสืบ 115 รวบบัญชีม้าที่ปทุมธานี มิจฉาชีพหลอกให้กู้เงินออนไลน์ ออกอุบายให้โอนค่าดำเนินการต่างๆสูญเงินแสน

กรณีหลอกกู้เงินออนไลน์ ออกอุบายให้โอนค่าดำเนินการ จับสาวบัญชีม้าที่ปทุมธานี เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2567 เจ้าหน้าที่ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ร่วมกับ นักเรียนหลักสูตรการสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 115 จับกุมน.ส.ปาณิศา อายุ 19 ปี  ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 654/2567 ลงวันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ข้อหา

  • ฉ้อโกง
  • โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นฯ 

จับกุมหน้าบ้าน หมู่ 2 หมู่บ้านพฤกษา12 ซ.2 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

หลอกกู้เงินออนไลน์

พฤติการณ์ทางคดี กล่าวคือผู้เสียหายได้ติดต่อกู้ยืมเงินออนไลน์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก โดยผู้เสียหายประสงค์จะกู้ยืมเงินจำนวน 600,000 บาท ทางเพจดังกล่าวได้ให้ผู้เสียหายส่งเอกสารประจำตัวต่างๆ ให้ และให้ผู้เสียหายกรอกข้อมูลต่างๆ อาทิเช่น

  1. บัญชีธนาคารของผู้เสียที่ประสงค์ให้ทางเพจโอนที่กู้ให้
  2. ลงในเว็ปไซต์ที่เพจดังกล่าวได้ส่งมา
  3. เมื่อผู้เสียได้กรอกเสร็จและกดยืนยันเพื่อกู้เงิน ทางเพจดังกล่าวก็ได้แจ้งกับผู้เสียหายว่าผู้เสียหายกรอกเลขบัญชีธนาคารไม่ถูกต้อง จะต้องโอนเงินเพื่อยืนยันตัวเอง
  4. จะได้รับกลับมาพร้อมเงินที่ได้กู้ ผู้เสียหายจึงหลงเชื่อจึงได้โอนเงินจำนวน 6 หมื่นบาท ไปเข้าบัญชีธนาคารผู้ต้องหา 
  5. เมื่อโอนเสร็จทางเพจดังกล่าวได้แจ้งกับผู้เสียหายว่าผู้เสียหายไม่ได้ทำการบันทึกช่วยจำในสลิปการโอนเงิน จะต้องโอนเงินจำนวน 60,026 บาท เข้ามาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันตัวตนอีก
  6. ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ทำการโอนเงินเพิ่มอีกจำนวน 60,026 บาท เข้าบัญชีธนาคารเดิม ซึ่งหลังจากผู้เสียหายได้โอนเงินรวมมูลค่า 120,052 บาท เข้าบัญชีธนาคารชื่อบัญชี น.ส.ปาณิศา (บัญชีชื่อผู้ต้องหา) เรียบร้อยแล้ว
  7. ทางเพจดังกล่าวก็ได้แจ้งผู้เสียหายว่าทำรายการไม่ถูกต้อง แจ้งให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มอีก ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนน่าจะถูกเพจดังกล่าวหลอกเสียแล้ว จึงได้เดินทางมาร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การว่าช่วงประมาณกลางปี พ.ศ.2566 เพื่อนของผู้ต้องหาชื่อแจน ได้ชักชวนให้ผู้ต้องหาไปเปิดบัญชีโดยบอกว่ามี นายไก่ หรือนายสุรเชษฐ์ เป็นสาวประเภทสองและนางสาวนุ่น ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ได้หาคนเปิดบัญชีเพื่อที่จะนำไปเทรดหุ้นและโอนเงินเข้าและออกและจะคืนบัญชีให้ภายหลังภายในสองสามเดือน

ผู้ต้องหาสนใจในผลตอบแทนจึงได้ทำการไปเปิดบัญชีให้กับนายไก่ และยังได้เปิดซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อไปผูกกับบัญชีที่เปิดขึ้นใหม่ เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นผู้ต้องหาได้นำบัญชีและซิมไปส่งให้กับนายไก่และ น.ส.นุ่น ด้วยตนเอง

ต่อมาผู้ต้องหาเห็นว่าตนเองมีบัญชีเก่าอยู่จึงได้ทำการเปิดซิมใหม่เพื่อผูกกับบัญชีเก่าที่ตนเองมีอยู่และนำไปให้อีกหนึ่งบัญชี หลังจากให้บัญชีนายไก่แล้วผู้ต้องหาไม่สามารถติดต่อนายไก่ได้ โดยปกติผู้ต้องหาจะติดต่อนายไก่ผ่านเพื่อนของตนเองที่ชื่อพี่แจน ผู้ชักชวนให้เปิดบัญชี โดยผู้ต้องหาได้เงินค่าตอบแทนค่าเปิดบัญชีธนาคารบัญชีละ 2,000 บาท จากนั้นได้นำตัวส่ง สน.ท่าข้าม ดำเนินคดี

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า การกู้เงินออนไลน์ ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีเหล่าแก๊งมิจฉาชีพที่ได้อาศัยช่องทางเหล่านี้ในการเพื่อหลอกเอาเงิน ควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนใช้บริการ ดังนี้

  • ตรวจสอบรายชื่อแอปและชื่อผู้ให้บริการ นำข้อมูลชื่อแอปและชื่อผู้ให้บริการไปเทียบกับรายชื่อผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาต
  • สามารถหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย ในหัวข้อ "เช็กแอปเงินกู้"
  • ที่รวบรวมรายชื่อผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตในส่วนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำกับดูแล
  • ยังมีลิงก์ไปยังเว็บไซต์กระทรวงการคลัง ซึ่งรวบรวมรายชื่อผู้ให้บริการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ไว้ในที่เดียว 

อย่าลืมอ่านเงื่อนไขก่อนกู้ ไม่รีบกู้จนลืมดูรายละเอียดที่จำเป็น เช่น อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลา และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายคืน หากโอนเงินไปให้มิจฉาชีพแล้ว ให้รีบโทรไปแจ้งศูนย์ AOC 1441 ทำการอายัดเงินทันที