PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท

PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท

PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า ทำรายได้รวม 151.68 ล้านบาท อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท

15 พฤศจิกายน 2567 บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล หรือ PROSPECT REIT เปิดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 ผลงานดีต่อเนื่อง ทำรายได้รวม 151.68 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.18% (yoy) โดยมีกำไรจากการลงทุนสุทธิ (กำไรจากการดำเนินงาน) 87.12 ล้านบาท เติบโต 4.57% (yoy) โชว์ศักยภาพทรัพย์สินโครงการเดิมและโครงการใหม่มาแรงเกินคาด อัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) นิวไฮพุ่งแตะ 98% รับปีทองการลงทุน ตอกย้ำธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าพื้นที่ Free Zone โดยเฉพาะบริเวณบางนา-ตราด ดีมานด์ยังคงมีมากกว่าซัพพลาย ชูสถานะการเงินแกร่ง หนุนปันผลสูงสม่ำเสมอทุกไตรมาส พร้อมลุยเพิ่มทุนครั้งที่ 2 เดินหน้าขยายมูลค่าพอร์ตสู่ 8,700 ล้านบาท สร้างการเติบโตยั่งยืน เตรียมจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ในอัตรา 0.2160 บาทต่อหน่วยทรัสต์ และจะมีการประกาศขึ้นเครื่องหมายวันที่ไม่ได้รับสิทธิรับเงินปันผล (XD) ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ซึ่ง PROSPECT REIT เป็นหนึ่งใน Industrial REIT ที่มีประวัติการจ่ายปันผลโดดเด่น ด้วยอัตราผลตอบแทน 12 เดือนย้อนหลัง ที่ 9.97% จากราคาหน่วยทรัสต์ที่ 8.45 บาท ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 

PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท

นางสาวอรอนงค์ ชัยธง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรอสเพค รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 นี้ มีผลงานที่เติบโตดีในทุกด้าน มีรายได้จากค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจากทรัพย์สินคุณภาพสูง 4 โครงการที่ PROSPECT REIT เข้าลงทุน ซึ่งมีพื้นฐานดีครอบคลุมทั้งด้านทำเลที่ตั้งบนจุดยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมผังเมืองสีม่วง บนถนนบางนา-ตราด ใกล้สนามบิน ท่าเรือที่สำคัญ รวมถึงเส้นทางการขนส่งทางบก มีพื้นที่ Free Zone ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีกับผู้เช่า อาคารคุณภาพสูงสามารถรองรับได้หลากหลายธุรกิจ และด้วยการบริหารจัดการที่ดีร่วมกันของผู้จัดการกองทรัสต์และผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ ประกอบกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนและความสนใจของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยต่อเนื่อง ทำให้อัตราการเช่าในไตรมาส 3 พุ่งสูงเกินเป้าหมาย อุตสาหกรรมของผู้เช่าใหม่ส่วนใหญ่ ได้แก่ ธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลและเวชภัณฑ์, ธุรกิจชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์, ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม, ธุรกิจปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์‎ เป็นต้น โดยสัญชาติส่วนใหญ่จะเป็นไทย จีน และญี่ปุ่น และในด้านค่าใช้จ่ายไตรมาสนี้ยังสามารถบริหารจัดการได้ดี ส่งต่อผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นต่อเนื่องทุกไตรมาส สะท้อนผ่านการจ่ายผลตอบแทนในอัตราที่สูงมาโดยตลอด

สัดส่วนการใช้งานของผู้เช่าในทรัพย์สินของ PROSPECT REIT แบ่งออกเป็นโรงงาน 79% คลังสินค้า 21% บนพื้นที่ให้เช่ากว่า 292,332 ตารางเมตร ด้วยแนวคิดการบริหารจัดการพอร์ตเน้นกระจายความเสี่ยง จึงมีผู้เช่าหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพเติบโตระยะยาว ทำให้มีการรับรู้รายได้จากการลงทุนที่มั่นคงไม่ผันผวนตามสถานการณ์เศรษฐกิจ ไตรมาสล่าสุดมีผู้เช่าเดิมต่อสัญญา (Renewal Rate) ถึง 93.70% รักษาฐานผู้เช่าได้อย่างเหนียวแน่น 

สำหรับทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2568 ยังคงต้องติดตามสถานการณ์จากภายนอกประเทศ หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐ ประเทศมหาอำนาจที่มีผลต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนต่อประเทศคู่ค้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยกระทรวงพาณิชย์ วิเคราะห์ว่าเศรษฐกิจของไทยอาจได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการค้าของสหรัฐอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าในภาพรวมแล้วเศรษฐกิจไทยจะได้รับผลประโยชน์และมีการเติบโตในทิศทางที่ดี

อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีโอกาสจากภาคการท่องเที่ยวที่กำลังฟื้นตัว นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลส่งเสริมกิจกรรมภาคอุปโภคบริโภคในประเทศ และแนวโน้มการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจไทย สนับสนุนให้ความต้องการเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าของกลุ่มผู้ประกอบการยังคงมีแนวโน้มที่ดี และในส่วนของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของกนง. ที่ผ่านมา เพิ่มความน่าสนใจให้กับการลงทุนใน REIT เนื่องจากต้นทุนทางการเงินจะลดลง เป็นโอกาสของนักลงทุนที่จะได้รับเงินปันผลเพิ่มขึ้น 

“ภายหลังจากการลงทุนเพิ่มเติมที่คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงไตรมาสแรกของปี 2568 กองทรัสต์จะมีพื้นที่ให้เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 514,010 ตารางเมตร เป้าหมายต่อจากนี้ ผู้จัดการกองทรัสต์วางแผนสร้างการเติบโตให้เกิดขึ้นทุกปี ศึกษาการลงทุนในทรัพย์สินใหม่ที่มีคุณภาพและส่งผลดีต่อการดำเนินงาน เติมเต็มความแข็งแกร่งในอนาคต” นางสาวอรอนงค์ กล่าวปิดท้าย