“ธนาธร” ปราศรัยทิ้งท้าย ปลุกชาวพัทยาเลือก “กิตติศักดิ์” นั่งนายกเมืองพัทยา
“คณะก้าวหน้า” จัดเวทีปราศรัยใหญ่ส่งท้ายเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา “ธนาธร” ชู 3 เหตุผลควรเลือก “บ๊อบ กิตติศักดิ์-ผู้สมัคร สม.” ปลุกพลังชาวพัทยา ก้าวข้ามความกลัว เลือกด้วยความหวัง ชี้ชะตาอนาคตเมืองที่ดีกว่านี้ได้
เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2565 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วยนายกิตติศักดิ์ นิลวัฒนโฒชัย หรือ “บ๊อบ” ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา คณะก้าวหน้า เบอร์ 3 พร้อมด้วยผู้สมัครสมาชิกสภาเมืองพัทยา (สม.) ของคณะก้าวหน้า เบอร์ 7-12 ร่วมเดินสายหาเสียงโค้งสุดท้าย ก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 22 พ.ค. 2565 ทั้งการเดินหาเสียงภายในสำนักงานและกองต่างๆ ของศาลาว่าการเมืองพัทยา พร้อมแจกแผ่นพับและพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เมืองเพื่อเชิญชวนมาร่วมใช้สิทธิเลือกตั้ง ก่อนขึ้นรถแห่หาเสียงช่วงเย็นไปตามถนนสุขุมวิทพัทยา และจบด้วยการเปิดเวทีปราศรัยบนหาดจอมเทียนในช่วงค่ำ
โดยในส่วนของกิจกรรมการปราศรัยที่หาดจอมเทียน “อนาคตใหม่ของเมืองพัทยา” มีการปราศรัยจากตัวแทนผู้สมัคร สม. ทั้ง 4 เขตของพัทยา รวมถึงนายกิตติศักดิ์ และนายธนาธร ขึ้นเวทีร่วมเชิญชวนชาวพัทยาทุกคนมาร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงพัทยาผ่านการเลือกตั้งครั้งนี้
นายกิตติศักด์ ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา ได้ขึ้นปราศรัยเป็นคนแรก ระบุว่า พัทยาที่ตัวเองอยากจะเห็นคือเมืองแห่งความเท่าเทียม ความหลากหลาย ที่เป็นของทุกคน และมันเป็นหน้าที่ของนายกเมืองพัทยาที่จะทำให้พัทยาเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน มีสวัสดิการ และโครงสร้างพื้นฐานที่ดีกว่านี้ แต่อนาคตแบบนี้ สร้างไม่ได้ด้วยระบบการเมืองแบบเดิมที่เป็นอยู่ในพัทยา นั้นคือการเมืองแบบผลประโยชน์และแบบพวกพ้อง ที่ทำให้คุณภาพชีวิตของชาวพัทยาดีขึ้นไม่ได้ เงินที่เอามาแจก 500-1,000 บาท สุดท้ายแล้วจะกลับคืนไปที่นายทุนหลายร้อยเท่า ผ่านภาษีกว่า 2,000 ล้านบาทต่อปีของเมืองพัทยา ที่เอาไปลงทุนโครงการขนาดใหญ่ สร้างเสร็จก็ปล่อยทิ้งไว้เป็นสิบๆ ปีโดยไม่มีใครได้ใช้งาน
นายกิตติศักดิ์ กล่าวอีกว่า เมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก แต่ปัจจุบันยังไม่สามารถที่จะให้สวัสดิการ คุณภาพชีวิตที่ดี และบริการสาธารณะที่ดีให้กับคนเมืองพัทยาได้เลย คนพัทยาและนักท่องเที่ยวไม่มีระบบขนส่งสาธารณะใช้ คณะก้าวหน้าจะทำให้เมืองนี้เป็นเมืองที่เดินได้ มีพื้นที่สีเขียว เชื่อมย่านหลักๆ ของเมือง ตั้งแต่นาเกลือไปจนถึงหาดจอมเทียนด้วยขนส่งสาธารณะรอบเมืองตลอดทั้งวันทั้งคืน นาเกลือจะไม่เป็นย่านที่ถูกหลงลืมอีกต่อไป ทางเท้าจะต้องเดินสะดวกเดินได้ หมดปัญหาขุดเจาะ เศรษฐกิจปากท้องจะต้องกระจายอย่างทั่วถึงคนทุกย่าน
นายกิตติศักดิ์ กล่าวด้วยว่า เมืองพัทยาที่เป็นของทุกคนต้องโอบอุ้มคนตั้งแต่เด็กเล็กจนแก่ชรา ให้ได้มีชีวิตที่ดี มีบริการสาธารณะที่มีคุณภาพ หลายนโยบายที่เราภูมิใจนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์เด็กเล็กกลางคืน, บริการรถรับส่งนักเรียนในเมืองพัทยา ที่จะทำให้ผู้ประกอบรถสองแถวมีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง ทุกโครงการจะเป็นไปด้วยความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่ทำได้ง่ายและเป็นพื้นฐานที่สุด แต่ก็เป็นสิ่งที่คนพัทยาไม่เคยได้รับ ทั้งที่เรามีงบประมาณอยู่ 2,000 ล้านบาทต่อ ปี
“สิบปีที่ไม่มีการเลือกตั้ง เงิน 20,000 ล้านบาทของพวกเรามันหายไปกับอะไร? ได้ถนนที่เป็นรู ได้ฟุตบาทที่ไม่เรียบ น้ำประปาสีโอวัลติน และโครงการขนาดใหญ่ที่เอื้อประโยชน์กับพวกพ้องของตัวเอง เราต้องการนายกเมืองพัทยามีความใส่ใจประชาชน ยืนหยัดว่าอำนาจสูงสุดของเมืองนี้เป็นของประชาชน และยืนหยัดในผลประโยชน์ของประชาชน” นายกิตติศักดิ์ กล่าว
หลังจากนั้นนายธนาธร ขึ้นปราศรัยปิดเวที โดยกล่าวถึงความสำคัญของการเลือกตั้ง 22 พ.ค. 2565 ว่าวันนี้ตัวเองขอมาชวนให้ทุกคนเลือกคณะก้าวหน้า ด้วยเหตุผลสามประการคือ
1) ผู้สมัครทั้งนายกเมืองพัทยาและ สม. ของคณะก้าวหน้าล้วนแต่มีคุณภาพ เป็นประชาชนคนธรนมดาที่มาจากหลากหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ การท่องเที่ยว ธุรกิจกลางคืน เป็นแพทย์ เป็นพนักงานในภาคการเงิน เป็นไรเดอร์ คนขับสองแถว ฯลฯ ทุกคนเป็นคนธรรมดาที่ไม่เคจมีตำแหน่งทางการเมืองหรืออยู่ในเครือข่ายอิทธิพลของใครมาก่อน แต่เป็นคนที่เจ็บปวดจากการปิดเมือง น้ำท่วม และการขุดเจาะถนนเหมือนทุกคน มองเห็นงบประมาณที่ถูกจัดสรรอย่างไม่มีประสิทธิภาพมาด้วยกัน และตัดสินใจลุกขึ้นมาอาสาร่วมซ่อมและสร้างพัทยาที่ดีกว่านี้ด้วยตนเอง
2) คณะก้าวหน้ามีหลักการในการทำงานการเมืองด้วยการ “เดินสามจริง” นั่นคือการได้พบผู้คนจริง ในพื้นที่จริง และสถานการณ์ที่เป็นจริง ผู้สมัครทุกคนใช้การเดินหาประชาชนหลากหลายอาชีพในเมืองพัทยา พูดคุยรับฟังปัญหาของทุกคน รับฟังในสิ่งที่ทุกคนต้องการ เราจึงเข้าใจความเจ็บปวดเดือดร้อนของคนพัทยาทุกคน และทำให้เรามั่นใจว่านโยบายของเราตอบโจทย์คนพัทยาทุกคน ไม่มีโครงการขนาดใหญ่หลักร้อยล้าน มีแต่โครงการเล็กๆ ที่ตั้งมั่นอยู่บนความเชื่อของเรา นั่นคือความเสมอภาค ความเป็นธรรม การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและมั่นคงให้กับผู้คน และการมีส่วนร่วมของประชาชน จนออกมาเป็นนโยบายของพวกเรา
3) คณะก้าวหน้าทุกคนมีอุดมการณ์ที่แน่วแน่มั่นคง พร้อมทวงคืนเวลา 10 ปีที่สูญหายไปกลับมาให้คนพัทยาทุกคน การเลือกตั้ง 22 พฤษภาคมนี้คือโอกาสในการกำหนดทิศทางของพัทยากลับมาอยู่ในมือของชาวพัทยาทุกคนอีกครั้ง อย่าเชื่อคำว่าเลือกใครไปก็เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่จงศรัทธาในสิทธิเสียง และอำนาจทางการเมืองของตัวเอง ทำให้การเลือกตั้งส่งผลเป็นคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของเราทุกคน
“คนที่จะทำให้พัทยาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้ไม่ใช่ สม. ทั้ง 24 คน ไม่ใช่ บ๊อบ กิตติศักดิ์ ไม่ใช่ธนาธร แต่คือประชาชนที่มีสิทธิออกเสียงในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ อย่ากลัวอิทธิพล การคุกคาม หรือการไม่ได้รับผลประโยชน์ กล้าที่จะโอบรับอนาคตใหม่ๆ เลือกเพื่ออนาคตของลูกหลาน อย่าหมดหวัง อย่าหมดกำลังใจ เปลี่ยนความท้อแท้ในชีวิต เดินเข้าคูหาด้วยความหวัง ว่าบัตรเลือกตั้งทั้งสองใบจะทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคนดีขึ้นได้” นายธนาธร กล่าว