“ก้าวไกล” แฉ! อ้างยศ “นาวาตรี” เรียก 2 แสนฝากราชการ แต่เบี้ยวหอบเงินหนี
“ก้าวไกล” ออกโรงแฉ ได้รับเรื่องร้องเรียน “ว่าที่นาวาตรี” เรียกรับเงินกว่า 2 แสนบาท อ้างฝากเข้าราชการได้ แต่สุดท้ายเบี้ยวเชิดเงินหนี เชื่อมีหลายคนตกเป็นเหยื่อ ยกนโยบายพรรคแก้ทุจริต กำจัดปัญหาได้
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2566 นายธนเดช เพ็งสุข ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตลาดพร้าว-วังทองหลาง พรรคก้าวไกล เปิดเผยกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อขบวนการฉ้อโกง โดยมีข้าราชการกองทัพเรือที่ใช้ยศ “ว่าที่นาวาตรี” คนหนึ่ง เรียกรับเงินโดยอ้างว่าสามารถฝากให้คนเข้าทำงานหรือสอบเข้าราชการได้ ต่อมาเมื่อไม่สามารถทำตามที่สัญญา ก็ไม่ยอมจ่ายเงินคืน
นายธนเดช กล่าวว่า สำหรับรายละเอียดข้อร้องเรียน กรณีแรก เป็นของบุคคลชื่อ ว. (นามสมมุติ) ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2562 ต้องการสมัครเข้าทำงานที่การไฟฟ้านครหลวง ต่อมามีคนชักชวนว่าสามารถช่วยให้เข้าทำงานดังกล่าวได้ ก่อนพาไปรู้จักกับว่าที่นาวาตรีคนนี้ ซึ่งได้ขอเรียกเงินค่าดำเนินการ 230,000 บาท พร้อมกับทำสัญญากู้ยืมเงิน จนผ่านไปหนึ่งเดือน เมื่อคนชื่อ ว. ทวงถามถึงการพาไปสมัครงาน ก็ถูกว่าที่นาวาตรีคนดังกล่าวบ่ายเบี่ยงเลื่อนนัดมาเรื่อย ๆ จนรู้ตัวว่าถูกโกงเงินเข้าแล้ว และได้ติดต่อไปขอเงินคืน แต่ว่าที่นาวาตรีคนดังกล่าวเลื่อนบ่ายเบี่ยง จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้เงินคืนแม้แต่บาทเดียว
นายธนเดช กล่าวอีกว่า กรณีที่สอง เป็นของบุคคลชื่อ ท. (นามสมมุติ) ซึ่งได้พาหลานชายไปสมัครสอบเข้านักเรียนจ่าทหารเรือเมื่อปี 2564 ระหว่างที่รอสอบอยู่ ว่าที่นาวาตรีคนเดียวกันได้เข้ามาชักจูงว่ามีเส้นสาย สามารถช่วยให้สอบผ่านการคัดเลือกได้ จึงได้ทำสัญญากู้ยืมเงินพร้อมนำเงินสดจำนวน 500,000 บาทมามอบให้ โดยฝ่ายว่าที่นาวาตรีได้ขอเลขประจำตัวผู้เข้าสอบของหลานชายไป อ้างว่าจะดำเนินการให้ แต่เมื่อผลการสอบออกมา ปรากฏว่าหลานชายไม่ผ่านการสอบรอบแรก จึงได้ติดต่อขอเงินคืนจากว่าที่นาวาตรีคนนั้น แต่ถูกบ่ายเบี่ยงทุกครั้งที่ทวงถามจนถึงทุกวันนี้
นายธนเดช กล่าวด้วยว่า ทั้งสองกรณีคล้ายกันมาก ทั้งเรื่องการอ้างว่าช่วยให้เข้าทำงานหรือสอบเข้าหน่วยงานราชการต่างๆ ได้ มีลักษณะการให้ทำสัญญากู้ยืมเงินเพื่อให้เหยื่อไว้วางใจ เมื่อไม่เป็นไปตามสัญญาก็บ่ายเบี่ยงเลื่อนคืนเงินไปเรื่อย ๆ เชื่อว่า 2 กรณีนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของผู้ที่ถูกหลอกหลวงโดยว่าที่นาวาตรีคนดังกล่าว น่าจะยังมีอีกหลายคนที่ไม่เคยร้องเรียนกับใคร ซึ่งตนพร้อมเป็นตัวกลางนำเรื่องนี้มาเปิดเผย เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาเชิงระบบในระยะยาวโดยนโยบายของพรรคก้าวไกล เช่น นโยบาย แฉโกง ปลอดภัย ได้เงิน ที่จะเพิ่มรางวัลแก่ประชาชนที่ชี้เบาะแสการทุจริต หรือ นโยบาย ‘คนโกงวงแตก’ ที่ทำให้คนที่คิดจะร่วมกันโกง เช่น คนจ่ายกับคนรับสินบน ระแวงกันจนไม่มีใครกล้าร่วมกันโกง เพราะนโยบายนี้จะออกกฎคุ้มครองคนที่ออกมาแฉหรือให้ข้อมูลก่อน ด้วยการกันไว้เป็นพยาน
“ขบวนการที่อ้างว่าฝากบุคคลเข้าทำงานและสอบเข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ แลกกับเงินในลักษณะนี้ ไม่ได้มีแค่ว่าที่นาวาตรีคนนี้แน่ ๆ สะท้อนถึงช่วงโหว่ในระบบราชการที่ทำให้ระบบฝากคนเข้ากลายเป็นเรื่องปกติ มีข้าราชการแสวงหาผลประโยชน์ จึงอยากฝากพี่น้องประชาชน อย่าหลงเชื่อหรือส่งเสริมระบบเช่นนี้ เพราะเป็นสิ่งที่กัดกินระบบราชการให้เต็มไปด้วยการทุจริต ผมคิดว่าปัญหานี้ต้องทำให้หมดไปในอนาคต หากเราอยากเห็นประเทศไทยที่ดีขึ้น ทุกคนต้องยุติระบบนี้ร่วมกัน” นายธนเดช กล่าว