“พิธา” ย้ำก้าวไกลไม่ร่วมพรรคสืบทอดอำนาจ แนะ “ประยุทธ์” ดีเบต-ยื่นทรัพย์สิน
“พิธา” ลั่นเลือกตั้งคราวนี้ ประชาชนต้องเลือกระหว่างอดีต-อนาคต ยันปฏิเสธพรรคสืบทอดอำนาจ ย้ำกา “ก้าวไกล” ประเทศไม่เหมือนเดิม แนะ “ประยุทธ์” แข่งการเมืองแฟร์เพลย์ ร่วมเวทีดีเบต ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
เมื่อวันที่ 10 ม.ค. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นกรณี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดตัวเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า จริง ๆ พล.อ.ประยุทธ์ และพวก เป็นนักการเมืองตั้งแต่วินาทีที่ตัดสินใจใช้กำลังยึดอำนาจการเมืองการปกครองของประเทศแล้ว ที่แย่ก็คือท่านเป็นนักการเมืองที่ไม่ได้มาตามครรลองประชาธิปไตย ในขณะนั้นประชาชนเลือกอะไรไม่ได้เพราะถูกใช้กำลังบังคับข่มเหง แต่ในเมื่อตอนนี้ ท่านแสดงเจตนารมณ์จะอยู่ต่อให้นานที่สุดเช่นนี้แล้ว ก็เป็นอำนาจของประชาชนที่จะสามารถพิพากษาเอาท่านออกจากการเมืองได้โดยกลไกที่สงบและเรียบง่ายที่สุด นั่นก็คือการลงคะแนนเลือกตั้ง
นายพิธา กล่าวว่า ดังนั้น การเลือกตั้งครั้งนี้จึงสำคัญมาก นั่นคือประชาชนจะเลือกตั้งเพื่อปฏิเสธสิ่งแปลกปลอมออกไปจากการเมือง และยืนยันหลักประชาธิปไตย โดยการไม่เลือกพรรคการเมืองสืบทอดอำนาจ อย่างพรรคสังกัดของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะรัฐประหาร และถึงเวลาแล้วที่ท่านในฐานะนักการเมืองจะมาแข่งขันกับนักการเมืองด้วยกันแบบแฟร์เพลย์ ไม่ใช้เทคนิควิธีการหรือช่องโหว่ที่ตัวเองร่างกฎหมายมาเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบมากกว่านักการเมืองคนอื่น และต้องเปิดกว้างต่อการตรวจสอบสาธารณะ ไปร่วมทุกเวทีดีเบตประชันนโยบายและจุดยืนการเมืองให้ประชาชนได้เปรียบเทียบกับพรรคอื่นๆ อย่างรอบด้าน ยื่นบัญชีทรัพย์สินให้โปร่งใส ตอบคำถามของสังคมให้กระจ่างชัดในหลายกรณีทุจริตที่เกี่ยวพันกับรัฐบาลของท่านและตัวท่านเองด้วย
นายพิธา กล่าวด้วยว่า ลึกกว่านั้น หากเราพิจารณาจากเนื้อในของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ก็เห็นได้ชัดว่าท่านอยากให้ประเทศไทยไปต่อแบบเดิม แต่พวกเราก้าวไกลอยากเห็นประเทศไทยที่ดีกว่านี้ เราอยากเห็นการเมืองที่เปิดกว้างมากกว่านี้ เราอยากเห็นประเทศไทยที่ไม่ล้าหลัง ไม่คดโกง เอื้อประโยชน์พวกพ้องแต่ไม่สนใจคนส่วนใหญ่ เอื้อแค่กลุ่มทุนใหญ่และทุนผูกขาด ไม่เปิดโอกาสให้คนรุ่นหลัง เราไม่อยากเห็นเมืองไทยที่เลือกปฏิบัติ เหยียดเพศ มองคนไม่เท่ากัน ไม่อยากเห็นกองทัพพาณิชย์ละเมิดประชาชน ไม่อยากเห็นกฎหมายรังแกคนเล็กคนน้อย ไม่อยากเห็นรัฐราชการรวมศูนย์ ไม่อยากเห็นประเทศที่ปล่อยประชาชนทนทุกข์ไปตามยถากรรม ไม่อยากเห็นประเทศไทยที่เหลื่อมล้ำต่ำสูง และไม่อยากเห็นประเทศไทยในวงจรอุบาทว์รัฐประหาร
“การเลือกตั้งครั้งนี้จึงยิ่งสำคัญไปอีกขั้นหนึ่ง นั่นคือการเลือกระหว่าง ’อดีต’ และ ‘อนาคต’ ถ้าคุณอยากให้ประเทศไปต่อแบบเดิม ประยุทธ์-ประวิตรคือทางเลือก แต่ถ้าคุณเชื่อมั่นและศรัทธาในวิถีก้าวไกล ทางรอดทางเดียวของประเทศก็จะไม่ใช่การไปต่อแบบเดิม แต่คือการต้องสร้างประเทศไทยที่ดีกว่านี้ให้สำเร็จจงได้ ดังนั้น กาก้าวไกล ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว