"พิจารณ์" เมิน ภท.บุก กทม. มั่นใจ "ก้าวไกล" ปักธงยึดเมืองหลวง

เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2566 นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะกำกับดูแลยุทธศาสตร์พื้นที่ กทม. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) เตรียมรุกพื้นที่ กทม. นำโดยนายพุทธิพงษ์ปุณณกันต์ อดีต รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และอดีตแกนนำ กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะกระทบกับคะแนนเสียงของพรรคก้าวไกลหรือไม่ ว่า นี่ถือเป็นครั้งแรกที่พรรค ภท. ตั้งเป้าหมายในพื้นที่ กทม. แต่มองว่า นโยบายและพรรคการเมืองที่เสนอตัวมา เป็นเหมือนสินค้า ยิ่งมีออกมาให้เลือกจำนวนมาก ยิ่งเป็นเรื่องดีต่อผู้บริโภคหรือพี่น้องประชาชน แต่เราก็จะทำงานในส่วนของเราให้เต็มที่ ทั้งให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขยันลงพื้นที่ และให้ส.ส.อภิปรายในสภาฯ ให้กับประชาชนได้รับรู้ ในส่วนของพรรค ก็จะสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลประเมินว่าจะได้ ส.ส.ในพื้นที่ กทม. จำนวนเท่าไหร่ นายพิจารณ์ กล่าวว่า เรามั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้ง ส.ส. เป็นอันดับหนึ่งของพื้นที่ กทม. โดยเชื่อว่าจะกวาดที่นั่งในพื้นที่ฝั่งธนบุรีทั้ง 10 เขต ได้อย่างแน่นอนเพราะเดิมทีพื้นที่ฝั่งธนบุรี มี 9 เขตพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้ง 6 เขต รอบนี้เพิ่มเป็น 10 เขตเราจึงเชื่อว่าจะได้ชนะทั้งหมด 

เมื่อถามว่า จะมีการปรับกลยุทธ์หรือวิธีการหาเสียงเพื่อให้รับคะแนนนิยมเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ นายพิจารณ์ กล่าวว่าประเด็นนี้จะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 1.ส่วนว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. และ 2.ส่วนของนโยบายพรรค สำหรับในส่วนของว่าที่ผู้สมัครส.ส. ที่ได้รับคัดเลือกแล้วนั้นได้ลงพื้นที่ทำงานร่วมกับผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) มาตั้งแต่สมัยเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่รับฟังปัญหาและช่วยเหลือประชาชนโดยเฉพาะช่วง โควิด-19 ขณะที่เรื่องนโยบาย ผ่านประสบการณ์การทำงานในสภาฯ 4 ปี ทำให้เรามีนโยบายที่ดีกว่าสมัยอดีตพรรคอนาคตใหม่เสียอีก คือเป็นนโยบายที่ลงในรายละเอียดมากขึ้น ตั้งใจว่าหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างชัดเจนแล้ว 

นายพิจารณ์ กล่าวด้วยว่า เราจะจัดกิจกรรมประกาศตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พร้อมกับนโยบายที่ออกแบบมาเพื่อพื้นที่ กทม. โดยเฉพาะ เราจึงคิดว่า สามารถปักธงพื้นที่ กทม. ได้ นอกจากนี้พรรคก้าวไกลยังคัดสรรว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ที่มีส่วนผสมจากหลากหลายอาชีพ ทั้งแพทย์ ข้าราชการ นักธุรกิจ และดารานักแสดง จึงมีความเข้าใจปัญหาที่หลากหลายของ กทม. เป็นอย่างดี