“ไตรรงค์” เปิดตัว 3 นักการเมืองดังตบเท้าเป็นสมาชิกรวมไทยสร้างชาติ
“ไตรรงค์” เปิดตัว 3 นักการเมืองดังตบเท้าเป็นสมาชิกรวมไทยสร้างชาติ ชี้ “ลุงตู่” สั่งลุยนโยบายปราบโกง ยกนโยบายอันดับ 1 ถ้าได้เป็นรัฐบาล
ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค แถลงข่าวเปิดตัว 3 นักการเมือง ที่จะเป็นตัวแทนของพรรคลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งต่อไป ได้แก่ นางบุญญาพร นาตะธนภัทร หรือ “หนู” ส.ส.บัญชีรายชื่อปัจจุบันที่ย้ายมาร่วมงานกับพรรค ถือว่าเป็น ส.ส.ปัจจุบันคนเดียวของ รทสช. ที่ทำหน้าที่อยู่ในสภาฯ ดร.กุสุมาลวตี ศิริโกมุท หรือ “แมว” อดีต ส.ส.จ.มหาสารคาม 4 สมัย จะลงรับสมัครในเขต 5 จ.มหาสารคาม และนายพิพิธ รัตนรักษ์ หรือ ภูมิ นายกเทศมนตรี อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และยังเป็นอดีต สจ.จ.สุราษฎร์ธานี ลงสมัคร ในเขต 7 จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งนี้เขตการเลือกตั้งที่ชัดเจนจะต้องรอ กกต.แบ่งเขตให้เรียบร้อยอีกครั้ง แต่หลักๆ คือพื้นที่เดิมที่ทั้งหมดคุ้นเคยดีอยู่แล้ว
นายไตรรงค์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีนักเคลื่อนไหวทางสังคมสำคัญอีกหลายคนที่กำลังจะเข้ามาเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ เช่น ประธานมูลนิธิการต่อต้านการกดขี่ทางเพศ ซึ่งเป็นสมาชิกขององค์กรที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ทั้งหมดนี้จะทยอยเปิดตัวต่อสาธารณชนในฐานะสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติต่อไป
“ตอนนี้เราได้กำลังหลักจากคนเก่งหลายๆ ด้านที่จะมาทำงานตามนโยบายสำคัญของพรรค โดยเฉพาะเรื่องการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ผมได้พูดคุยกับท่านนายกฯ ประยุทธ์ แล้วว่านโยบายอันดับหนึ่งของเราคือการปราบปรามการทุจริต คอร์รัปชั่น และความไม่ถูกต้องทั้งปวง ที่ต้องมีการสังคยานาเรื่องกฎหมาย และระเบียบการบริหารราชการแผ่นดินอยู่เยอะ ตอนนี้มีคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค และคุณวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรค ซึ่งเป็นหนึ่งผู้ที่ช่วยแก้ไขกฎหมายเหล่านี้อยู่ ดังนั้นบ้านเมืองจะดีขึ้นถ้าเราได้เป็นรัฐบาลครั้งต่อไป” นายไตรรงค์กล่าว
ด้านนางบุญญาพร กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจและยินดีมากที่ ได้รับความไว้วางใจจากพรรครวมไทยสร้างชาติให้ตนทำหน้าที่ ส.ส.ในสภาฯ ในฐานะตัวแทนของพรรค และสัญญาว่าจะทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อไม่ทำให้พรรครวมไทยและประชาชนผิดหวังอย่างแน่นอน
ขณะที่ ดร.กุสุมาลวตี กล่าวว่าวันนี้รู้สึกอบอุ่นและมั่นใจว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเป็นความหวังของคนไทยในอนาคต โดยเฉพาะนโยบายหลักข้อหนึ่งคือการปราบทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นพยาธิร้ายทำลายประเทศไทย ที่ผ่านมาตนก็เคยทำหน้าที่เป็นผู้แทนราษฎรมาแล้วถึง 4 ครั้ง ได้พยายามผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ แต่ก็ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จอย่างเต็มที่
ขณะนี้ได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนส่วนใหญ่บอกว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ปัญหาของพวกเขาจะได้รับการแก้ไข เพราะที่ผ่านมาในรัฐบาลนี้เมื่อชาวบ้านร้องของบประมาณในการพัฒนาโครงการต่างๆ ก็ได้รับการดูแลอย่างดี ดังนั้นจึงคิดว่าหากตนมีโอกาสได้เป็นผู้แทนและอยู่ในรัฐบาลก็จะสามารถทำงานแก้ไขความเดือดร้อนให้กับประชาชนได้ดีกว่า
ด้านนายพิพิธ กล่าวว่า การที่ตนตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติเพราะเห็นว่าพรรคมีแนวคิดและหลักการตรงกับที่ตนตั้งเป้าหมายไว้ในการเข้ามาพัฒนาชาติบ้านเมือง ที่ผ่านมาตนก็ทำงานเพื่อบ้านเกิดของตัวเองมาตลอด ปัจจุบันเป็นนายกเทศมนตรี อ.เกาะพะงันและ อดีตก็เคยเป็น สจ.จ.สุราษฎร์ธานี วันนี้อยากกลับมาทำงานตอบแทนประเทศชาติอีกครั้ง
โดยสิ่งที่ตั้งใจคือการทำงานดูแลประชาชนเรื่องชีวิต ปัญหาของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ รวมถึงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเขตที่จะลงสมัครคือ พื้นที่ที่ประกอบด้วย อ.เกาะสมุย อ.เกาะพะงัน. อ.เกาะเต่า และบางส่วนของ อ.กาญจนดิษฐ์